|
ทศวรรษ 60 ต่อทศวรรษ 70 แห่งคริสต์ศตวรรษที่ 20 ไม่มีคำขวัญใดจะดังอึกทึกกึกก้องระดับโลกจากปารีสจนถึงวู้ดสต๊อกเท่ากับ
"อำนาจรัฐเกิดจากปากกระบอกปืน"
เป็นถ้อยคำของ เหมาเจ๋อตุง แห่งจีนใหม่อย่างแน่นอน ไม่เพียงแต่เปล่งจากชนชั้นกรรมาชีพระดับนำอย่าง หวังหงเหวิน
หากแม้กระทั่ง มัลค็อม เอ็กซ์ แห่งแบล๊ค แพนเธอร์ ก็ไม่มีเว้น
ทั้งๆ ที่ เหมาเจ๋อตุง เริ่มงานเขียนตั้งแต่เข้าร่วมเป็นกรรมการบริหารกับพรรคก๊กมินตั๋งเมื่อปี ค.ศ.1926 ตามมติของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ตามคำชี้แนะของพรรคคอมมิวนิสต์รัสเซีย
แต่ถ้อยคำ สำนวนของเขาโด่งดังระดับโลกได้อย่างไร
คำตอบก็คือ เพราะ จอมพลหลินเปียว ริเริ่มในการจัดทำ "คติพจน์ประธานเหมา" หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า "หนังสือปกแดง" ทั้งภาษาจีนและภาษาอื่นๆ รวมถึงภาษาอังกฤษ
"อำนาจรัฐ" เกิดจากปาก "กระบอกปืน" จึงกระหึ่มไปทั่วโลก
เรดการ์ดคนไหนไม่มี "หนังสือปกแดง" ถือว่าตกยุค ใครไม่สามารถท่องวัจนะแห่งเหมาเจ๋อตุงได้อย่างคล่องแคล่ว ปราดเปรียว ยากยิ่งจะประสบความสำเร็จ
นั่นเป็นสถานการณ์นับแต่เดือนพฤษภาคม 1966 เป็นต้นมา
เหตุเพราะ เหมาเจ๋อตุง เป็นคอมมิวนิสต์ เป็นผู้สนใจในลัทธิมาร์กซ์ เป็น 1 ในผู้ร่วมก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีนเมื่อปี ค.ศ.1921 ที่นครเซี่ยงไฮ้
คนจึงสรุปว่าคำขวัญนี้ได้มาจากรัสเซีย
1 เป็นผลึกอันได้มาจากการต่อสู้ของพรรคบอลเชวิคโดยเฉพาะในเดือนตุลาคม ค.ศ.1917 ขณะเดียวกัน 1 เป็นบทสรุปของพรรคอันสะท้อนผ่านงานเขียนของเลนิน
อาจเป็นเช่นนั้น
กระนั้น หากใครศึกษาชีวิตและวิถีแห่งเหมาเจ๋อตุงตั้งแต่ยังเยาว์วัยกระทั่งไปเป็นผู้ช่วยบรรณารักษ์อยู่มหาวิทยาลัยปักกิ่งทำงานใกล้ชิดกับเฉินตุ๊ซิ่ว ย่อมรับรู้ในความเป็นจริง 1 ของเหมาเจ๋อตุง
นั่นก็คือ เหมาเป็น "หนอนหนังสือ" ระดับ "บรม"
เขามิได้อ่านงานระดับโลกอย่าง
รุสโซ มองเตสกิเออ ที่มีการแปลเป็นภาษาจีนเท่านั้น หากที่สำคัญเป็นอย่างมากเขาหลงใหลในวรรณกรรมโบราณของจีนอย่างลึกซึ้ง
ครั้งเป็นนักศึกษาวิทยาลัยครูที่หูหนาน"ความเรียง" ของเขาเข้าตาอาจารย์
ความสามารถในการใช้ภาษาของเหมาสะท้อนความเป็นบัณฑิตโบราณ แม้กระทั่งกวีนิพนธ์ของเขาก็เป็นกวีนิพนธ์อันสัมพันธ์กับงานเก่าแก่ดึกดำบรรพ์อย่างแนบแน่น
แล้ววรรณคดี"โบราณ" ของจีนให้ "บทเรียน" อย่างไรบ้าง
จากความเป็นหนอนหนังสือ เหมาอ่านเรียบตั้งแต่ "สามก๊ก" กระทั่ง "ความฝันในหอแดง" ยิ่ง "ซ้องกั๋ง" ยิ่งอ่าน
อย่างคลั่งไคล้
กรอบ 1 ซึ่งควรจดจำไว้ด้วยก็คือ ความสนใจใน "ประวัติศาสตร์"
ประวัติศาสตร์จีนตั้งแต่ยุคฉิน ยุคฮั่น กระทั่งปลายยุคฮั่น เข้าสู่ยุคสุข ยุคถัง ยุคซ้อง ยุคหยวน ยุคหมิง และในที่สุดยุคชิงล้วนอุดมไปด้วยบทเรียน
เป็นบทเรียนแห่งการแย่งชิง "อำนาจ"
หากไม่มีดาบหอกอยู่ในมือยากเป็นอย่างยิ่งที่กลุ่มฉินจะสามารถสร้างอาณาจักรขึ้นได้ขณะเดียวกัน หากไม่จัดตั้งเป็นกองกำลัง
เล่าปังก็ยังคงเป็นเล่าปัง มิอาจสถาปนาตนเองขึ้นเป็นพระเจ้าฮั่นโกโจได้ในที่สุด
นี่ล้วนเป็นบทเรียนว่า "อำนาจ" ได้มาอย่างไร
เช่นเดียวกับหากฉินไม่กรีฑาทัพไปล่มหานจนราบคาบ จางเหลียงคงไม่คุมแค้นถึงกับพยายามลอบสังหารจิ๋นซีฮ่องเต้อย่างอุกอาจ
ถามว่าราชวงศ์ถังก่อร่างสร้างตัวมาจากอะไรหากมิใช่"อาวุธ"
คำขวัญ "อำนาจรัฐเกิดจากปากกระบอกปืน" จึง 1 ได้มาจากชัยชนะของบอลเชวิคในรัสเซีย 1 ได้มาจากกระบวนการแย่งชิงอำนาจในประวัติศาสตร์จีนหลายพันปี
จึงนำไปสู่ "การจัดตั้ง" จึงนำไปสู่การติด "อาวุธ"
รากฐานความเป็นมาในทาง "ความคิด" อันเป็นฐานแห่ง อำนาจรัฐเกิดจากปากกระบอกปืน
1 มาจากความเป็นจริงในทางประวัติ
ศาสตร์ 1 มาจากความเป็นจริงในทางการเมือง และ 1 มาจากความเป็นจริงในการเคลื่อนไหวต่อสู้
นั่นเท่ากับแปร "ความคิด" ไปสู่ "การปฏิบัติ"
(มติชนรายวันฉบับวันที่ 27 กันยายน 2557 )
ที่มา มติชนออนไลน์