เอา “ถุงใต้ตา” ของฉันคืนไป! (Lisa)

แม้จะบำรุงแล้วบำรุงอีก หรือจะว่านอนไม่พอ ก็ไม่ใช่ แต่ ถุงใต้ตา ก็ยังตามมารังควานแถมยังใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ อีก ทำอย่างไรดีให้ใต้ตาเรียบเนียนไม่เป็นปลาทอง เรามีคำตอบมาฝาก

ถุงใต้ตา มีที่มาจากไหน?

เรามักจะคิดว่าถุงใต้ตาเกิดจากการอดนอน แต่มีอีกสาเหตุหนึ่งง่าย ๆ เลยนั่นก็คือ "แรงโน้มถ่วง" ที่ดึงทุกอย่างให้ลงสู้พื้นโลก รวมถึงผิวหนัง ยิ่งเราเจอแรงโน้มถ่วงนาน เท่าไหร่ (หมายความว่ายิ่งเรามีอายุมากขึ้น) เนื้อเยื่อบริเวณใบหน้าของเราก็จะตกลงสู่พื้นมากขึ้นเท่านั้น

แต่แรงโน้มถ่วงก็ยังไม่ใช่เหตุผลทั้งหมดที่เรามีถุงใต้ตา ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าเมื่อเรามีอายุมากขึ้น เนื้อเยื่อรอบ ๆ ดวงตาก็จะเปลี่ยนไปด้วย

Eyelid บนและล่างนั้นประกอบไปด้วย ผิวหนัง กล้ามเนื้อ และไขมัน เมื่อเวลาผ่านไป กล้ามเนื้อจะอ่อนแอลงจนไม่สามารถพยุง ดวงตาเอาไว้ได้เหมือนเดิม ขณะเดียวกันผิวจะสูญเสียคอลลาเจนใต้ผิวหนัง พอไม่มีคอลลาเจนผิวก็จะขาดความยืดหยุ่น ทำให้เริ่มเหี่ยวและมีริ้วรอย ส่วนไขมันที่อยู่รอบ ๆ นั้น จะขยับขยายไปอยู่ผิดที่ จึงทำให้ใต้ดวงตาเป็นถุงใหญ่

แต่นี่หมายความว่าการอดนอนไม่เกี่ยวกับถุงใต้ตารึเปล่า? ดร.เดวิด แม็กแดเนียล แพทย์ผิวหนังจาก Virginia Beach ชี้ว่าแม้ยังไม่มีหลักฐานว่าการอดนอนทำให้เกิดถุงใต้ตา แต่ดูเหมือนว่าถุงใต้ตาจะใหญ่ขึ้นไปอีก ถ้าหากเราอดนอน

พฤติกรรมบางอย่างก็อาจทำให้เกิดถุงใต้ตาได้ เช่น กินอาหารรสเค็ม ทำให้ร่างกายกักเก็บน้ำเอาไว้ และการขยี้ตาเพราะภูมิแพ้ นอกจากนี้ มลพิษหรือฝุ่นในอากาศก็ดูเหมือนว่าจะทำให้ถุงใต้ตาใหญ่ขึ้นด้วย

ขจัดถุงใต้ตา

หากคุณพร้อมจะบอกลาถุงใต้ตา ก่อนอื่นก็ต้องรู้ว่าการกำจัดถุงใต้ตานั้นทำได้กี่วิธี การมีไลฟ์สไตล์ที่ดีอย่างเดียวนั้นไม่พอ ส่วนมาส์กแตงกวาก็เห็นผลได้ไม่เร็วนัก จึงมีวิธีรวดเร็วทันใจไ ม่ว่าจะเป็นการใช้เข็มหรือกำจัดถุงด้วยเลเซอร์

แต่ไม่ว่าจะเป็นวิธีใดก็ตาม สิ่งแรกที่ต้องทำเสมอก็คือ ไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อตรวจดูว่าถุงใต้ตานั้นเกิดจากอะไร แพทย์ผิวหนังอาจจะฉีดฟิลเลอร์เพื่อทำให้ถุงใต้ตาเด่นน้อยลงหน่อย และเมื่อนำมาใช้ร่วมกับโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์อาจช่วยให้คุณและผิวพรรณดูอ่อนเยาว์ลงอีกหลายปีทั้งนี้ นอกจากการศัลยกรรมแล้ว ยังไม่มีวิธีใดที่ช่วยกำจัดถุงใต้ตาได้อย่างถาวร

ข้อมูลจาก

Lisa Weekly Magazine