เป็นเรื่องที่รู้ ๆ กันอยู่ว่าการจงเกลียดจงชังใครสักคน ไม่ได้ส่งผลดีอะไรกับตัวเราเลยสักนิด เพราะนอกจากจะทำให้คนอื่นต้องรู้สึกแย่แล้ว ยังทำให้ตัวเองพลอยเครียดจนไม่มีความสุขไปด้วยเสียเปล่า ๆ แต่ถึงแม้จะรู้อยู่แก่ใจ บางคนกลับหยุดเกลียดใครสักคนไม่ได้อยู่ดี วันนี้กระปุกดอทคอมจึงได้รวบรวมทริคดี ๆ ให้คนที่ต้องการเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นคนใหม่ ไม่คิดเกลียดใครดู มาฝากกันครับ

 

1. ชีวิตนี้เป็นของคุณคนเดียว

 

ไม่มีใครในโลกนี้นอกจากตัวคุณเองที่จะสามารถทำให้คุณรู้สึกแย่ได้มากที่สุดเท่ากับความคิดของคุณเองนั่นแหละ เพราะเวลาที่คุณโกรธเกลียดใคร เขาก็ไม่ได้มานั่งทุกข์ใจด้วยเสียหน่อย มีแต่คุณนี่แหละที่หมกมุ่นอยู่กับความรู้สึกไม่ดี จนเครียดเองคนเดียวเสียมากกว่า แบบนี้แล้วเอาเวลามาดูแลตัวเองแทนไม่ดีกว่าเหรอ

 

 

2. คนเรามีหลายมุม

 

คนเราต่างก็มีหลายมิติหลายมุม เพราะโลกนี้ไม่ได้มีแต่สีขาวดำเท่านั้น แต่ก็มีสีเทาด้วยเหมือนกัน ดังนั้นถ้าเขาเป็นคนรักที่ไม่ดี เขาก็อาจเป็นเพื่อน เจ้านาย หรือลูกน้องที่ดีก็ได้ เพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งรีบตัดสินใคร ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้จักกันมากพอดีกว่า เพราะบางทีถ้าได้รู้จักกันมากกว่านี้ เขาอาจเป็นเพื่อนแท้ที่คุณคาดไม่ถึงเลยก็ได้นะ

 

 

3. เขาอาจมีปมด้อย

 

คุณเห็นมาสักระยะแล้วว่า เจ้าคนเดิมที่คุณไม่ชอบขี้หน้านี่แหละ ไม่มีใครชอบเขาเลยสักคน เพราะนิสัยโมโหร้าย ชอบรังแก พูดจาไม่ดี เขาก็เป็นกับคนอื่นด้วยเหมือนกัน ไม่ใช่แค่กับคุณคนเดียวซะเมื่อไหร่ ซึ่งนั่นอาจเป็นสัญญาณขอความช่วยเหลือ เพราะเขากำลังเจอกับปัญหาบางอย่างหรือมีปมด้อยจากการเลี้ยงดูตั้งแต่ยังเด็กก็ได้นะ และในเมื่อรู้แบบนี้แล้ว คุณยังจะเกลียดชังเขาลงได้อีกหรือ

 

 

4. รู้จักช่วยเหลือคนอื่น

 

การช่วยเหลือคนอื่น แม้จะเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น ช่วยถือของหรือลุกให้เด็ก คนแก่ และผู้หญิงนั่งบนรถเมล์ ก็ช่วยให้คุณรู้สึกมีความสุขและภูมิใจในตัวเองมากขึ้น จนไม่มีเวลาไปคิดร้ายกับใครให้ตัวเองต้องมาปวดหัวเลยล่ะ นอกจากนี้ แม้แต่คนเย็นชาไร้หัวใจแค่ไหน หากโดนคนที่ตัวเองไม่ชอบหน้าทำดีให้บ่อย ๆ ก็ต้องมีหวั่นไหวบ้างเหมือนกันแหละ

 

 

5. ไม่ต้องไปสนใจคนที่เขาเกลียดเรา

 

ต่อให้เราไม่ได้ไปเกลียดใครเขาก่อน บางทีใช้ชีวิตอยู่เฉย ๆ ก็อาจโดนเกลียดได้เหมือนกัน เพราะไม่มีใครดีพร้อมพอจะให้คนถูกใจรักเราได้ทุกคน ซึ่งการที่คุณไปเกลียดเขาตอบจนเขม่นกันก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมา มีแต่จะทำให้เข้าหน้ากันไม่ติด ทำงานร่วมกันลำบาก แถมยังเครียดกันซะทั้งคู่เสียเปล่า ๆ ทำไม่ไม่ลองเปลี่ยนมาทำดีชนะใจเขา หรือทำเป็นลืมว่าเขาเกลียดเราไปเลยล่ะ

 

 

6. คำว่าขอโทษไม่เคยสายไป

 

หากคุณยังติดค้างคำขอโทษกับใครเอาไว้ มันก็คงยากที่คุณจะรู้สึกมีความสุขได้ ในเมื่อยังต้องเก็บความรู้สึกผิดเอาไว้ตลอดเวลา แถมดีไม่ดีหากเขาโกรธจนเกลียดคุณขึ้นมา อาจทำให้ผิดใจกันไปเรื่อย ๆ จนกลายเป็นเกลียดกันในที่สุด เพราะฉะนั้นถ้ารู้ตัวว่าทำผิดกับใครเขาไว้ ก็เอ่ยปากขอโทษไปซะเถอะ เชื่อสิว่าคำขอโทษที่จริงใจเนี่ย มันไม่เคยสายไปหรอก

 

 

7. ให้เขาเป็นคนตัดสินชีวิตของเขาเอง

 

ในเมื่อเขาเลือกที่จะใช้ชีวิตเป็นคนเกลียดชังคนรอบข้าง มีพฤติกรรมน่ารังเกียจ มันก็เป็นสิทธิ์ของเขา เราไม่จำเป็นต้องไปเกลียดตอบ เพื่อให้เขารับรู้ว่าตัวเองเป็นคนที่นิสัยแย่เหลือรับแค่ไหนเพราะประสบการณ์จะช่วยให้เขาได้เรียนรู้ และสุดท้ายจะเลือกปรับปรุงตัวหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับตัวเขาเองนั่นแหละ คุณไม่จำเป็นต้องเก็บเรื่องของคนอื่นมาคิดให้ปวดหัวหรอก

 

 

ลองคิดดูดี ๆ นะครับว่าการเกลียดชังคนอื่นมันให้อะไรกับตัวคุณเองบ้าง ถ้ารู้แล้วว่ามันไม่มีอะไรดี มีแต่จะเสีย ก็เลิกหมกมุ่นกับมันซะเถอะ เชื่อสิว่าชีวิตของคุณยังมีเรื่องใหม่ ๆ น่าสนใจอีกเยอะ อย่ามัวไปเสียเวลากับความอคติที่คุณมีต่อใครสั