ยุกซองแจ (Yook Sungjae) วง BTOB ได้ถ่ายแบบและให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Arena Homme Plus

ยุกซองแจกำลังมีผลงานซีรีส์เรื่องใหม่ดัดแปลงจากเว็บตูน “The Golden Spoon” โดยเขารับบทเป็น อีซึงชอน เด็กนักเรียนมัธยมที่มาจากครอบครัวยากจน แต่ได้ใช้พลังวิเศษของช้อนทองในการเปลี่ยนโชคชะตาของตัวเองให้กลายเป็นทายาทของตระกูลร่ำรวย

ยุกซองแจได้พูดถึงตัวละครของเขาในเรื่องว่า

“มันยากจริงๆครับ เวลาที่คุณแสดงเป็นตัวละครใดตัวละครหนึ่งเกือบ 6 เดือน คุณจะเริ่มกลายเป็นแบบนั้น ตอนที่ถ่ายทำเรื่อง “The Golden Spoon” ผมต้องกลายเป็นซึงชอนแบบไม่มีพักเลย จนทำให้ผมค่อยๆเหนื่อย คือผมเป็นพวกที่ต้องการการพักผ่อนและสนุกไปกับเวลาว่างของตัวเอง เวลาที่ได้ทำแบบนั้น ผมจะมีความสุขและสดใสขึ้น แต่ซึงชอนเป็นตัวละครที่แตกต่างจากแบบนั้นโดยสิ้นเชิงเลยครับ”
 

ก่อนหน้านี้ ยุกซองแจเคยบอกเอาไว้ว่าเขาอยากใช้ชีวิตแบบปล่อยเป็นอิสระ ตอนนี้เขาบอกว่าตัวเองยังคงเชื่อแบบนั้น

“ในฐานะมนุษย์ชื่อ ยุกซองแจ มันยังคงเป็นคำพูดที่สะท้อนตัวผมครับ ไม่ว่าผมจะกังวลมากเท่าไหร่ มันก็จะมีปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไขได้ และสิ่งนั้นไม่เคยเปลี่ยนไม่ว่าผมจะพยายามเท่าใด นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเวลาเรามีความสุข เราก็แค่ยอมรับและใช้ชีวิตอย่างมีความสุข และเมื่อเราเศร้า คุณก็ยอมรับมันและใช้ชีวิตไปกับความเศร้า มันเป็นวิธีที่ทำให้จิตใจผ่อนคลาย เพราะว่าผมมีนิสัยคิดมากด้วยครับ เลยมีบางครั้งที่ผมนอนไม่หลับและสุขภาพผมก็แย่ ทำให้ทุกวันนี้ผมพยายามจะไม่คิดให้ซับซ้อนเกินไป”

ยุกซองแจเป็นนักแสดงอีกคนที่เราได้เห็นเขาแสดงในบทที่หลากหลาย เมื่อถามว่าเขาเริ่มต้นการแสดงอย่างไร ยุกซองแจเล่าว่า

“ในปี 2015 ผมเริ่มต้นแบบไม่ทันรู้ตัวเลย พูดตามตรงในตอนนั้น ผมมีความมั่นใจมากและคิดว่าตัวเองทำได้ดีไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม แต่ว่าพอได้มาเริ่มต้นการแสดงแบบจริงจัง ผมก็คิดได้ว่าผมเป็นคนที่ยังขาดตกบกพร่องไปอีกมาก แต่พอผมครุ่นคิด, ซ้อม และสร้างการแสดงในแต่ละฉากขึ้นมา ผมได้รับการตอบรับในเชิงบวก มันทำให้รู้สึกว่าความสนุกนั้นยิ่งใหญ่มาก”

เขาพูดต่อ 

“มันแตกต่างจากการร้องเพลงครับ เพราะว่าผมไม่ได้แต่งหรือเขียนเนื้อเพลง สิ่งที่ผมต้องทำคือการถ่ายทอดความหมายของเพลงบนเวที แต่ในการแสดง ผมต้องแสดงตามบทผ่านการแสดงที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ผมต้องสร้าง [ตัวละคร] นั้นขึ้นมาผ่านการแสดงและน้ำเสียงที่เข้ากับท่าทางของผม พอได้มาแสดงผมเลยคิดว่าตัวเองน่าจะเข้าใจความเจ็บปวดที่นักแต่งเพลงหรือนักเขียนเนื้อเพลงรู้สึก มันเป็นความเจ็บปวดที่สนุกครับ”

ยุกซองแจพูดถึงความฝันของเขาที่ได้ทำงานที่หลากหลายว่า

“ผมเดินบนเส้นทางของศิลปิน และยังไม่เปลี่ยนแปลงไปจนถึงตอนนี้ ผมยังเดินบนเส้นทางของนักแสดงด้วย ผมสนุกไปกับรายการวาไรตี้เหมือนกัน แต่ก็อยากจะลองเป็นผู้สร้างอะไรดู อย่างเช่นคนสร้างเกม มันเป็นความฝันที่ 2 ของผมตั้งแต่เด็กแล้ว ถ้าผมเริ่มต้น ผมจะทุ่มเทไปกับมัน และเป็นงานที่ผมต้องใช้ความเชี่ยวชาญ ตอนนี้อาจจะไม่หนักแน่นพอ แต่ในอนาคตงานนี้น่าจะเป็นสิ่งที่ผมอยากลองทำแบบจริงจังครับ”

ในบทสัมภาษณ์เก่า ยุกซองแจเคยบอกว่าอยากจะอายุ 30 เร็วๆ เมื่อถามว่าตอนนี้ความคิดของเขาเปลี่ยนไปหรือไม่ เขาบอกว่า

“ผมไม่มีอะไรจะเสียใจในวัย 20 ของผม และไม่มีความกลัวในวัย 30 อย่างไรก็ตาม ผมอยากอายุ 29 ปีซัก 3 ปี มันมีอีกหลายสิ่งที่ผมอยากทำในช่วงวัย 20 ครับ”

เขาพูดติดตลกต่อ 

“ตอนนี้ฮยองในวง BTOB อายุ 30 กันหมดแล้ว พอได้มองพวกเขา ก็ไม่เห็นอะไรที่เปลี่ยนไปชัดเจนนะครับ หรือพวกเขาก็ไม่ได้เท่ขึ้น ถ้าเป็นแบบนั้น ผมคิดว่าอายุน้อยน่าจะดีกว่า ผมคิดว่าถ้าผมอายุ 30 ผมคงจะเคร่งขรึมและเป็นผู้ใหญ่ขึ้น แต่ฮยองของผมเหมือนเดิมเลย ผมเลยปรับภาพในจินตนาการตัวเองลงนิดนึง ผมจะอายุครบ 30 ในอีก 2 ปี ผมคิดว่าผมคงจะไม่เท่ขึ้นหรอกครับ”

เมื่อถามว่าเขาอยากเป็นนักแสดงแบบไหน ยุกซองแจตอบว่า

“ผมคิดว่าถ้าบอกว่าอยากเป็นนักแสดงที่ประสบความสำเร็จมันก็ดูทั่วไปเกินไป ผมเลยอยากจะบอกว่าผมอยากไปฮอลลีวูดครับ ผมอยากจะแสดงเป็นฮีโร่ของ Marvel แต่ว่าตอนนี้ภาษาอังกฤษผมยังไม่ดี มันเป็นอุปสรรคใหญ่เลยครับ ถ้าผมมีเวลาผมก็อยากจะไปเรียนต่างประเทศแบบจริงจัง ผมโปรโมทมากับ พีเนียล สมาชิกวง BTOB เป็นเวลา 11 ปี แต่ภาษาอังกฤษของผมไม่ดีขึ้นเลย มีคนบอกว่าแค่ไปอยู่ต่างประเทศซักปีก็ทำให้ [ภาษา] ของคุณพัฒนาขึ้นแล้ว ผมอยากจะใช้ชีวิตเป็นยุกซองแจนักเรียนในต่างประเทศซักปีจริงๆครับ แม้ว่ามันจะดูเป็นไปไม่ได้ก็ตาม”

ยุกซองแจปิดท้ายด้วยการพูดถึงสิ่งที่เขาคิดว่าสำคัญที่สุดที่ต้องรักษาเอาไว้

“ถ้าความมั่นใจของคุณหายไป คุณจะไม่มีความสุข ผมคิดว่ามันคือสิ่งที่สำคัญที่สุดจนถึงตอนนี้ ผมใช้ชีวิตด้วยการรักษา [ความมั่นใจในตัวเอง] ให้สูงเข้าไว้”

และเมื่อถามถึงช่วงเวลาที่ยากลำบาก ยุกซองแจเปิดเผยว่า

“เวลามีช่วงเวลาที่ยาก ผมจะสร้างพลังแบบไม่ยอมใครขึ้นมาครับ และคิดว่า ‘ฉันจะพยายาม’ ถ้าผมพยายามแต่มันยากไป หรือผมทำไม่ได้จริงๆ ผมจะยอมแพ้ไปเลยครับ” 

เขาอธิบายถึงเหตุผลที่บางครั้งการยอมแพ้ก็เป็นสิ่งที่จำเป็น 

“ผมคิดว่า ‘มันไม่เวิร์คอ่ะ ฉันน่าจะไปลองอย่างอื่น’ การยอมแพ้เป็นสิ่งที่ดีนะครับ เพราะว่ามันจะทำให้เราเห็นทิศทางใหม่ สำหรับผมนะครับ”

ติดตามบทสัมภาษณ์และภาพถ่ายแบบเต็มๆของ ยุกซองแจ ได้ในนิตยสาร Arena Homme Plus และซีรีส์เรื่องใหม่ของเขา The Golden Spoon ได้ทุกวันศุกร์ - เสาร์ เวลา 21.50 น. (ตามเวลาท้องถิ่นเกาหลี)

ที่มา   (1)