อีจองชิน (Lee Jung Shin) วง CNBLUE ได้พูดถึงผลงานการแสดงเรื่องล่าสุดของเขาที่เพิ่งออกอากาศตอนจบไป

“Sh**ting Stars” เล่าเรื่องของผู้คนที่ทำงานเบื้องหลังวงการบันเทิงที่คอยตามล้างตามเช็ดเรื่องราววุ่นวายที่เหล่าคนดังก่อขึ้น ซีรีส์เล่าเรื่องทีมงานเบื้องหลังคนดังในวงการผู้ที่ทุ่มเทแรงกาย แรงใจ หยาดเหงื่อ และน้ำตาเพื่อส่งให้ดาราในสังกัดของพวกเขากลายเป็นดาวจรัสฟ้า

อีซองคยอง (Lee Sung Kyung) รับบทเป็น โอฮันบยอล หัวหน้าทีมประชาสัมพันธ์ของบริษัท Star Force Entertainment ร่วมด้วย คิมยองแด (Kim Young Dae) รับบทเป็น กงแทซอง นักแสดงชื่อดังไร้ที่ติ สำหรับ อีจองชิน (Lee Jung Shin) รับบทเป็น ทนายโดซูฮยอก ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายของบริษัท Star Force Entertainment

อีจองชินได้ร่วมพูดคุยกับ สำนักข่าว Sports Chosun  หลังจากซีรีส์ Sh**ting Stars ออกอากาศตอนสุดท้ายไปเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน

เขาเริ่มต้นจากการพูดถึงสิ่งที่ทำให้ตัดสินใจร่วมงานกับ Sh**ting Stars โดยอธิบายว่า “ตอนที่ผมได้รับบทมาซัก 4-5 ตอน ครึ่งหนึ่งผมก็ตื่นเต้น ส่วนอีกครึ่งก็กังวล และสงสัยว่า ‘ฉันจะทำได้ดีหรือเปล่า?’ แต่ว่าผมเชื่อว่าผมทำดีที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้ครับ”

ระหว่างที่ออกอากาศซีรีส์ Sh**ting Stars ได้รับการพูดถึงเป็นจำนวนมาก แต่เรตติ้งกลับอยู่ในช่วง 1% อีจองชินได้พูดถึงเรื่องนี้ว่า เขาไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นมาก “มีหลายคนที่ดูแบบรวดเดียวบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ผมเลยคิดว่ามันเป็นเรื่องดีกว่าที่ได้รับความรักแบบนั้นเป็นเวลานาน เพราะว่าแฟนทั่วโลกยังแท็กผม [บนโซเชียลมีเดีย] ผมเลยรู้สึกว่าตัวเองได้รับความรักมากมายจากต่างประเทศ”

เขาอธิบายไม่ได้เป็นคนที่ติดตามกระแสตอบรับจากผู้ชมตลอด แต่ก็รู้สึกดีเวลาได้อ่านคอมเม้นท์ที่พูดถึงตัวละครของเขา หรือชมการแสดงที่พัฒนาขึ้นของตัวเอง

สำหรับตัวละคร โดซูฮยอก ที่เขารับบทในเรื่องนี้ มักจะมีฉากคู่กับ โจกีบอม (รับบทโดย โซจิน (Sojin) วง Girl’s Day)) เขาได้พูดถึงเรื่องนี้ว่า “เราได้เจอกันครั้งแรกตอนที่อ่านบทครับ ก่อนหน้านั้นเราเกือบจะเจอกันตลอดตอนที่ทำกิจกรรมวง ผมไม่เคยเจอโซจินเลย เราเลยคุยกันติดตลกเรื่องที่เราได้มาทักทายกันครั้งแรกหลังจากผ่านมา 10 ปีครับ”

เขาพูดต่อ “ระหว่างการแสดง เพราะว่าเราเจอกันในฐานะนักแสดง ผมเลยไม่รู้สึกว่าเธอเป็นไอดอล และจริงๆแล้วผมได้รับพลังที่ดีจากนักแสดงพัคโซจินด้วยครับ เราผลัดกันส่งมอบและรับพลังนั้นกัน เป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำครับ”

ตัวละครของเขา โดซูฮยอก เป็นคนที่กล้าเผชิญหน้ากับความรัก เมื่อถามถึงนิสัยการออกเดทส่วนตัวของเขา อีจองชินบอกว่า “ในชีวิตจริง ผมไม่เผชิญหน้าแบบนั้นครับ และเป็นพวกที่ชอบไปอยู่ใกล้ [คนที่ชอบ] ถ้ามองจุดนั้น ผมคิดว่าซูฮยอกเท่นะครับ ผมไม่กล้าแบบนั้นหรอก ผมถึงกับคิดว่าคงจะดีกว่าถ้าฝ่ายตรงข้ามเป็นคนที่กล้ากว่าผม”
 

ในซีรีส์ Sh**ting Stars เล่าเรื่องความรักของนักแสดงดังกับหัวหน้าทีมประชาสัมพันธ์ในบริษัท เมื่อถามว่าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในชีวิตจริงหรือไม่ อีจองชินแสดงความคิดเห็นของเขาโดยบอกว่า “ผมคิดว่ามันเป็นไปได้นะ คือผมก็ไม่เคยรู้หรอก แต่ว่าพอได้ดูเรื่อง Sh**ting Stars ผมก็เริ่มคิดว่ามันน่าจะเกิดขึ้นได้”

หลังจากปลดประจำการจากกองทัพเมื่อเดือนมีนาคม 2022 อีจองชินมีภาพลักษณ์ที่เป็นผู้ใหญ่ขึ้น เขาอธิบายการเติบโตนี้ว่า “ผมกำลังพยายามหาทางที่ทำให้ร่างกายของตัวเองดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นครับ ผมไม่ชอบภาพลักษณ์ของตัวเองช่วงที่อายุ 20 เลย ไม่ว่าจะทำอะไร ผมก็ยังดูไม่เป็นผู้ใหญ่ซักที คือไม่ได้ดูเป็นหนุ่มด้วยนะครับแต่ผมดูเหมือนเด็กเลย เป็นสิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกเสียดายพอมองย้อนกลับไปในวัย 20 ของผม แต่ตอนนี้ผมอายุ 30 กว่าแล้ว และร่างกายของผมก็เปลี่ยนไป ผมชอบนะครับ”

อีจองชินอธิบายว่าเขาชอบภาพลักษณ์ของตัวเองในตอนนี้ และความคิดของเขาก็โตขึ้นด้วยเช่นกันหลังจากทำงานในวงการบันเทิงมา 12 ปี เขาบอกว่า “ผมอยากจะเป็นนักแสดงและนักร้องที่ดี แต่ผมคิดว่าเป้าหมายของผมคือการเป็นคนดี ผมคิดว่าผมต้องเป็นคนดีเพื่อจะได้ทำสิ่งดีๆ และในอนาคต ผมก็จะยังตามหาการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ครับ”
 

อีจองชินพูดต่อ “ในฐานะนักแสดง ผมคิดว่าผมไม่ได้ลองบทบาทที่หลากหลายนัก ผมคิดว่าตัวผมมีหลายด้านและคิดว่ายังไม่ได้โชว์มันออกไปเท่าที่ควร” ในอนาคต อีจองชินบอกว่าเขาอยากลองแสดงบทที่กดดันและเข้มข้นมากขึ้น

อีจองชินปิดท้ายด้วยการพูดถึงบทบาทของเขาในฐานะนักแสดงและสมาชิกของวง CNBLUE “ผมรู้อยู่แล้วว่าการทำงานใน 2 บทบาทนั้นเป็นเรื่องยาก และรู้ด้วยว่าบางคนก็มองนักแสดงที่เคยเป็นไอดอลมาก่อนแตกต่างจากนักแสดงทั่วไป ตอนนี้ [ความคิดแบบนี้] ดีขึ้นแล้วเพราะว่ารุ่นพี่ของผมที่พิสูจน์ฝีมือให้เห็นว่าเราไม่ได้ขาดสิ่งที่หลายคนคิด”

เขาพูดต่อ “เมื่อไม่นานมานี้ อีจุนโฮ (Lee Junho) วง 2PM ทำผลงานได้ดี และ ยุนอา (YoonA) วง Girls’ Generation เป็นตัวอย่างที่ดี ผมอยากจะเป็นแบบนั้นเช่นกัน แม้ว่าหนทางจะยังอีกไกล คงต้องใช้เวลา ถ้าผมได้เจอกับโปรเจคที่ดีและโชคดี ผมคงได้เจอกับคนที่มองผมด้วยความใจดีครับ”

ที่มา ( 1 ) ( 2 ) ( 3 )