รีวิว My liberation notes กับบทสรุปสุดท้ายอย่างเสรี
2022-06-01 09:32:26
Advertisement
คลิก!!!

(มีสปอยล์ ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ยังไม่ได้รับชม)

 

เรื่องราวการค้นหาคำตอบบางอย่างที่เป็นพลังให้เรามีชีวิตต่อไปได้ ถูกถ่ายทอดผ่าน 3 พี่น้อง และ 1 บุรุษปริศนา

ผู้ชมได้ร่วมกันเฝ้าสังเกตการณ์การเดินทางของพวกเขาตั้งแต่ซันโพจนถึงโซล คอยเฝ้ามองการเปลี่ยนแปลงของพวกเขาในแต่ละตอน เหมือนกับการเปลี่ยนผ่านของฤดูต่างๆ

 

การอธิบายเรื่องนี้ค่อนข้างซับซ้อน เพราะตัวละครรู้จักเรียนรู้ เติบโตและมีพัฒนาการเสมอในทุกๆครั้งที่เราได้เจอพวกเขา เหมือนกับคนเราที่ได้เรียนรู้ เติบโตอยู่ทุกๆนาที

 

นับว่าความเรียลนี้...เป็นเสน่ห์ของเรื่องนี้เลยก็ว่าได้

 

และช่วงท้าย..

แต่ละคนก็ได้เริ่มหัดปลดปล่อยตัวเองจากคนเดิมไปสู่อิสรภาพทางใจ ที่ทำให้เรากลายเป็นอะไรก็ได้ที่ใจเรามีความสุข แม้ความสุขจนล้นเอ่อที่รอคอยนั้นอาจจะยังไม่ใช่วันนี้ก็ตาม

 

ในซีนจบที่หลายคนคาใจกับคุณกู

(ซีรีส์เล่าภาพด้วย Symbolic พอสมควร ความเข้าใจหรือการรับสารของผู้ชมอาจจะแตกต่างกันได้)

 

 หลังจากฝากข้อความเสียงถึงรุ่นพี่ว่า..

[ เขาพร้อมจะต้อนรับและยิ้มให้อยู่เสมอ ]

 

ในประโยคที่มีจองแนะนำมาน่าจะหมายถึง...รู้จักอภัยคือการทำให้ใจเราเบาลง เพราะความโกรธ ความแค้น หรือความเกลียดชังเป็นเหมือนก้อนหิน ที่ยิ่งมากก็ยิ่งหนักในหัวใจ ยิ่งทำให้เราจมดิ่งลงไปไม่รู้จบ หากเต็มไปความรู้สึกเหล่านั้นที่อัดแน่นจนเต็ม ไม่มีที่ว่างจะเติมความรู้สึกอื่นลงไปได้เลย เหมือนกับกอดไว้ก็มีแต่เจ็บตัว

 

ผิดกับความเมตตา ความรัก เป็นความรู้สึกที่เบาเหมือนปุยนุ่น ให้ความรุ้สึกที่เบาใจ ทำให้หัวใจได้ปลดปล่อย ล่องลอย และโบยบินได้

 

(ถ้ารู้สึกว่าออกแนวคริสต์ ก็น่าจะมีอิทธิพลพอสมควร สังเกตจากสร้อยกางเขนที่คุณกูใส่ตลอดที่อยู่ซันโพ เรื่องนี้น่าจะแฝงความคริสต์ไว้ระดับนึง ไม่รวมถึงการเข้าโบสถ์ของครอบครัวแทฮุนอีก)

 

และคนที่ได้รับประโยชน์ที่สุด มีความสุขที่สุด จากการปล่อยก้อนหินพวกนัิน ก็คือตัวเราเอง เป็นการปลดโซ่ตรวนในหัวใจได้อีกข้อหนึ่งของคุณกู ให้หัวใจได้คลายความเจ็บปวดลงบ้าง

 

หลังจากกวาดเงินที่เก็บไว้ แล้วเดินทางไปที่ใดที่หนึ่ง เขาแวะซื้อเหล้าที่ร้านสะดวกซื้อ

 

ในตรงซีนนี้..คุณกูก็เตรียมจะไปโลกเดิม ด้วยพฤติกรรมเดิม ก็คงจะวนลูปเดิมแบบที่เป็นมา ที่เป็นเหมือนหมาล่าเนื้อ คอยวิ่งไล่ล่าตามคำสั่งเจ้านาย จนกระทั่งเหรียญเจ้ากรรมดันมาหล่นกลิ้งไปค้างอยู่บนปากท่อ..

 

ภาพถ่ายย้อนจากซี่กรงขึ้นมา..เหมือนตัวคุณกูที่ถูกกักขังไว้อยู่กำลังมองเหรียญที่เหมือนชีวิตของเขา ที่ยังไม่ได้ร่วงหล่นไป มันก็ยังมีโอกาสเพราะเหรียญยังคงอยู่ตรงระหว่างทางเลือก...ซึ่งชีวิตเขาเองก็ยังไม่หมดหนทางเช่นกัน

 

และก็เป็นเขาคนเดียวเท่านั้นที่จะเลือกอะไร

• จะหยิบเหรียญขึ้นมา พร้อมหิ้วขวดเหล้ากลับไปเป็นคนเก่า

• หรือจะยอมแพ้แล้วปล่อยให้ชีวิตเมาๆได้เป็นไป

• หรือจะคว้ามันมาเป็นโอกาสที่สองแล้วกลายเป็นคนใหม่

 

แม้ไม่อาจเปลี่ยนได้ในข้ามคืน แต่หากลองพยายามเข้าหน่อย ค่อยๆก้าวไปทีละก้าว ค่อยๆใช้ชีวิตไป ก็คงจะหลุดพ้นเข้าได้สักวัน

 

ทั้งหมดนั้นขึ้นอยู่กับคุณกู ที่ต้องเลือกด้วยตัวเองว่าจะอยากเป็นอิสระจากวังวนพวกนี้หรือเปล่า

 

สุดท้าย...เขาเลือกหยิบเหรียญ วางขวดเหล้าทิ้งไว้ แล้วเดินไปพร้อมรอยยิ้ม อย่างน้อยเขาปลดปล่อยคุณกูคนเก่าไปได้บ้างแล้ว แม้จะยังไม่ทั้งหมด แต่เป็นการปลดโซ่ตรวนอีกข้อสำหรับเขา

 

เราไม่อาจรู้ได้ว่าสุดท้ายชีวิตคุณกูจะเป็นยังไง การเดินทางครั้งนี้จะไปแห่งใด เหมือนชีวิตของเราทุกคน เราไม่อาจรู้ภาพจบที่ชัดเจน ซีรีส์ก็คงไม่อาจสรุปชีวิตคุณกูให้ได้เช่นกัน รู้เพียงแต่ว่า แค่ได้เริ่มวางบางอย่างที่หนักในหัวใจ ที่แบกเอาไว้มาเนิ่นนาน ค่อยๆปลดโซ่ทีละข้อที่รั้งเราไว้ ให้เริ่มมีช่องว่างสำหรับใส่บางอย่างลงไป ให้พอขยับได้มากขึ้น ก็ถือว่าเริ่มต้นได้ดีแล้ว และทั้งหมด...เราเลือกได้ทั้งนั้น

 

แต่ถ้าวิเคราะห์ตาม Symbolic ที่ใส่มา หรือความหมายอย่างยอนรีจี เราก็รู้แล้วว่า คุณกูจะไปต่อได้ในวิถีใหม่ของเขาอย่างไม่โดดเดี่ยวอีกแล้ว ต่อให้การก้าวแต่ละครั้งต้องใช้เวลา หรือยากลำบากแค่ไหนก็ตาม เขาจะยังมีคนอีกคนที่ทั้งรัก ศรัทธา และเชิดชูในตัวเขา มอบความหมายในการมีชีวิตต่อไปให้แก่เขาตลอดไป

 

 

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X