เมื่อไม่นานมานี้ พัคฮาซอน (Park Ha Sun) ได้พูดถึงชีวิตการแต่งงานของเธอกับ รยูซูยอง (Ryu Soo Young)

พัคฮาซอน ได้เข้าร่วมเป็นแขกรับเชิญในรายการ Problem Child in House ทางช่อง KBS 2TV เมื่อวันที่ 11 มกราคม ร่วมกับ ควอนยูล (Kwon Yool) ระหว่างช่วงคำถาม มีการเปิดเผยว่าคู่แต่งงานหลายคู่เลือกที่จะนอนแยกเตียง ทำให้พัคฮาซอนถูกถามถึงชีวิตการแต่งงานของเธอเช่นกัน เธอบอกว่า “เรามีเตียงใหญ่มากเลยค่ะ เป็นเตียงคิงไซส์แบบตะวันออกที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาเตียงคิงไซส์ ทำให้เราไม่รู้สึกอึดอัดค่ะ แล้วก็มีบ้างที่เราใช้ผ้าห่มคนละผืนกัน”

พัคฮาซอน และ รยูซูยอง พบกันในกองถ่ายซีรีส์เรื่อง Two Weeks เมื่อปี 2013 และเริ่มออกเดทกันในปี 2014 พวกเขาแต่งงานกันในปี 2017 และมีลูกสาวด้วยกัน 1 คน ซงอึนจี (Song Eun Yi) ถามในรายการว่า “จากที่รู้ก็คือ สามีของคุณเป็นคนที่กล้าแสดงออกและคุยเก่ง เขาเป็นคนที่ชอบปล่อยมุกตลก ส่วนฮาซอนเป็นคนที่ค่อนข้างเงียบและจะพูดอะไรแค่ที่ต้องพูดเท่านั้น” เป็นบุคลิกที่มีความแตกต่างโดยสิ้นเชิง

เมื่อถามว่าฮาซอนยังคงรู้สึกใจเต้นกับสามีอยู่อีกหรือไม่ พัคฮาซอนตอบว่า “มันก็มีมุมมองที่หลากหลายขึ้นค่ะ แต่พูดตามตรงคือ ฉันแต่งงานกับเขาเพราะรู้สึกชอบและสบายใจเวลาอยู่กับเขา ถ้าความสัมพันธ์มีแต่ความตื่นเต้นและใจเต้นตลอด ตอนจบมักไม่ค่อยดีเท่าไหร่ใช่ไหมคะ หรือว่าถ้าเราทะเลาะกันเยอะเกินไป ฉันคิดว่าการที่รู้สึกใจเต้นเป็นเรื่องที่ไม่ได้จำเป็นขนาดนั้น ฉันชอบเขา ฉันรู้สึกสบายใจ เขาให้ความรู้สึกเหมือนครอบครัว และฉันเชื่อว่าเขาจะไม่ทิ้งไปถ้าฉันป่วย”

พัคฮาซอนยังบอกอีกว่า “สิ่งที่ฉันเซอร์ไพรส์ก็คือ ถึงแม้ว่าเราจะพยายามจะไม่ให้เกิดขึ้น แต่เวลามาอยู่ด้วยกัน จะมีหลายครั้งเลยที่คุณได้เจอกันด้วยหน้าสดหรือใส่เสื้อผ้าที่ยุ่งเหยิง ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นเขาก็ยังบอกว่าฉันน่ารักและเขารักฉันมาก มันเป็นสิ่งที่ทำให้ฉันประทับใจค่ะ”

เมื่อถามว่าเธอเป็นลูกสะใภ้แบบใด พัคฮาซอนบอกว่า “ตอนที่ฉันแต่งงาน ฉันไม่สามารถพูดสิ่งที่ต้องการได้” จากนั้นเธออธิบายว่า “แต่ตอนนี้ฉันสามารถพูดสิ่งที่ตัวเองต้องการพูดได้พร้อมรอยยิ้ม คุณแม่สามีของฉันจะไม่ถือสาอะไรถ้าฉันยิ้มค่ะ”

ควอนยูล ถูกถามถึงครั้งสุดท้ายที่เขาออกเดท เขาตอบว่า “ก็ซักพักแล้วครับ น่าจะซัก 3 ปีครึ่ง หรือ 4 ปี ตอนนี้ก็เริ่มคิดแล้วว่าเหงาเหมือนกัน” พิธีกรบอกว่าต้องมีหลายคนสนใจในตัวเขาแน่ๆ ซึ่งเขาตอบว่า “ไม่มีเลยครับ เรื่องจริงเลย”

ที่มา ( 1 ) ( 2 )