ซงฮเยคโย (Song Hye Kyo) และ จางกียง (Jang Ki Yong) ได้ร่วมถ่ายแบบให้กับนิตยสาร Dazed Korea พร้อมพูดถึงผลงานซีรีส์เรื่องใหม่ของพวกเขา “Now We Are Breaking Up”

“Now We Are Breaking Up” เล่าเรื่องราวโรแมนติกของชีวิตจริงที่มีการรักและเลิกรา ของผู้คนในวงการแฟชั่น ซงฮเยคโย รับบทเป็น ฮายองอึน แฟชั่นดีไซน์เนอร์ผู้มองโลกตามความเป็นจริง ส่วน จางกียง รับบทเป็น ยุนแจกุก ช่างภาพฝีมือเยี่ยมที่รักอิสระ ชายหนุ่มผู้เข้ามาเปลี่ยนมุมมองความรักของฮายองอึน

ซงฮเยคโยพูดถึงตัวละครของตัวเองว่า “ยองอึนเป็นคนที่อยากใช้ชีวิตอิสระโดยไม่ให้อารมณ์ส่วนตัวของเธอส่งผลกระทบต่อเรื่องงาน อย่างไรก็ตามความรักได้ตามเธอเจออีกครั้ง อย่างไรก็ตามเธอก็ยังตัดสินใจและคิดในแบบที่ดีต่อตัวเอง นี่เป็นจุดที่ฉันได้เรียนรู้จากการรับบทเป็น [ตัวละครนี้] ค่ะ”

ขณะเดียวกัน จางกียงบอกว่า “แจกุกเป็นคนที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและความมั่นใจ แต่กับเรื่องงานเท่านั้นนะครับ ไม่ใช่สำหรับชีวิตของเขา เขาเป็นคนใจเย็นแม้จะเป็นเรื่องความรัก และมักจะทำตัวเป็นผู้ใหญ่ เขาแตกต่างจากตัวละครอื่นที่ผมแสดงมาก่อนหน้านี้ ผมเลยกังวลมาก [ในการถ่ายทอดบทของเขา]”

เมื่อถาถึงการทำงานร่วมกันว่าเป็นอย่างไร จางกียงบอกว่าการได้มาร่วมงานกับซงฮเยคโยทำให้เขารู้สึกเหมือนได้บรรลุเป้าหมายที่ห่างไกลแสนไกล

“การได้ทำงานกับซงฮเยคโย ผมจะพูดยังไงดี? มันเหมือนกับเป้าหมายที่อยู่ไกลมากเลยครับ สิ่งที่ผมเคยแค่จินตนาการเอาไว้มาถึงเร็วแบบที่ไม่คาดฝัน ทำให้ตั้งแต่เราอ่านบทกันครั้งแรก ผมก็รู้สึกทึ่งแล้วครับ สิ่งที่ผมคิดมีแต่ ‘ผมต้องทำให้ดี’ เวลาที่ซงฮเยคโยและผมยืนอยู่ด้วยกัน ผมอยากให้เรากลายเป็น ฮายองอึน และยุนแจกุก ไม่ใช่รุ่นพี่รุ่นน้องในวงการ”

ซงฮเยคโยได้กล่าวชื่นชมถึงความสบายๆของจางกียงในกองถ่าย “อาจจะเป็นเพราะความใสซื่อ, สดใส, ร่าเริง และเป็นผู้ชายน่ารักคนหนึ่ง เขาสามารถตามฉันได้ตั้งแต่ต้นจนจบการถ่ายทำเลยค่ะ แม้ว่าจะมีเรืองยากหลายอย่างก็ตาม” ซงฮเยคโยพูดต่อ “เพราะว่าเขาเหมือนเป็นเด็กในร่างผู้ใหญ่ ที่ไม่อายที่จะขอความช่วยเหลือหรือถามคำถามเกี่ยวกับสิ่งที่เขาไม่รู้ ทำให้ฉันสามารถช่วยเหลือเขาได้ง่ายๆเหมือนกันค่ะ”

เธอพูดต่อด้วยความชื่นชม “ฉันคิดว่ากียงเป็นคนที่ได้รับความรักมากมายไม่ว่าเขาจะไปที่ไหน”

จางกียงบอกว่าทั้งผู้กำกับ อีอิลบก และ ซงฮเยคโยให้คำแนะนำเขาหลายอย่างระหว่างการถ่ายทำ

“มันรู้สึกแตกต่างจากโปรเจคที่ผมเคยร่วมงานครับ” เขาอธิบาย “ปกติผมต้องใช้เวลาซักพักถึงจะเข้ากับกองถ่ายได้ แต่ว่าครั้งนี้ผมไม่ค่อยกังวลแบบที่เคยเป็น ความอบอุ่นของผู้กำกับอีกิลบกเป็นพลังที่ทำให้ผมเข้มแข็ง เขาบอกว่าเวลาที่นักแสดงไม่สามารถโฟกัสได้ หรือเวลาที่กองถ่ายทำให้ยากในการทำงาน นั่นคือความรับผิดชอบของผู้กำกับที่ต้องจัดการและมอบคำแนะนำที่เหมาะสม”

จางกียงบอกต่อว่า “[ระหว่างการถ่ายทำ] ผมพึ่งพาผู้กำกับหลายอย่าง เพราะเขาสามารถชี้ให้เห็นได้ชัดเจนว่าสิ่งใดที่ผมทำได้ดี หรือแบบไหนทำได้ไม่ดี รวมถึงฮเยคโย ขอบคุณสำหรับความรักของทั้ง 2 คนนี้ ผมสามารถเอาชนะความยากต่างๆมาได้ครับ”

เมื่อถามถึงประสบการณ์ที่ได้รับจากการถ่ายทำ ซงฮเยคโยตอบอย่างถ่อมตัวว่า “เช่นเคยค่ะ [การแสดง] ในครั้งนี้ก็ยากอีกเช่นเคย ตอนที่ฉันยังเด็ก ฉันเคยคิดว่า ‘ยิ่งฉันโตขึ้น การแสดงก็คงง่ายขึ้น ง่ายขึ้นเรื่อยๆ’ แต่ฉันมองข้ามบางอย่างไปคือ ตัวละครที่ฉันแสดงก็อายุมากขึ้นตามฉันไปด้วยเช่นกัน”

“ตอนที่เรายังวัยรุ่น ก็จะเป็นบทที่ต้องเป็นคนที่อายุรุ่นนั้นแสดงเท่านั้น” เธอพูดต่อ “และพอเวลาผ่านไป ตัวละครที่ฉันต้องแสดงก็มีความซับซ้อนและมีอารมณ์ที่ลึกซึ้งมากขึ้นค่ะ”

ที่มา ( 1 ) ( 2 )