คำเตือน: เนื้อหามีสปอยล์

อีจองแจ (Lee Jung-jae) โลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงเกาหลีมากว่า 28 ปี เขาเคยรับบทเป็นตัวร้ายในเรื่อง The Face Reader (2013), ยากูซ่าที่โหดเหี้ยมในเรื่อง Deliver Us From Evil (2020) และตอนนี้ซีรีส์เรื่องล่าสุดของเขาที่ทำให้เขาเป็นที่จดจำจากผู้ชมทั่วโลก คงหนีไม่พ้นเรื่อง Squid Game ทาง Netflix ที่เขารับบทเป็น ซองกีฮุน หนุ่มใหญ่ใจดีที่ล้มเหลวในชีวิต เขาติดหนี้พนัน หย่าร้าง และแม่ป่วย

“ผมอยู่ในช่วงที่กำลังคิดว่า โปรเจคต่อไปของผมเป็นเรื่องอะไรดี เพราะว่าผมแก่ตัวลง ส่วนใหญ่บทที่เสนอมาก็มีแต่บทตัวร้าย หรือบทที่ดูป่าเถื่อน” เขาบอกขณะให้สัมภาษณ์กับ The Korea Times

“และเพราะว่าผมอยากจะแสดงบทอื่นบ้าง ผู้กำกับฮวังดงฮยอก เลยเสนอบท กีฮุน ให้กับผม เพราะผมอยากจะแสดงบทตัวละครที่พบได้ทั่วไป”

ซีรีส์ความยาว 9 ตอนเรื่องนี้ เล่าถึงการแข่งขันชิงรางวัลจำนวน 45.6 พันล้านวอน โดยผู้เข้าแข่งขันจะมาแข่งเกมที่เด็กเกาหลีเล่นกัน

จุดนี้ของซีรีส์นี่เองที่ทำให้อีจองแจสนใจ “การนำเกมที่เราเล่นตอนเด็กมาทำเป็นเกมเซอร์ไววัล มันทั้งแปลกและน่าสนใจ”

“และเรื่องนี้ไม่เหมือนกับผลงานแนวเดียวกันเรื่องอื่น ซีรีส์ได้เล่าถึงความทุกข์ของคนที่เข้าร่วมเกมอย่างใกล้ชิด และค่อยๆเล่าเรื่องราวของพวกเขา ดังนั้นพอถึงตอนที่ตัวละครนั้นต้องจากไป มันเลยทำให้รู้สึกเหมือนพวกเขาได้รับการปลดปล่อยจริงๆ”

อีจองแจ รับบทเป็น กีฮุน ชายหนุ่มที่ติดการพนันหลังจากถูกเลิกจ้างงานอย่างกะทันหัน เขาถึงขั้นขโมยเงินของแม่ที่แก่ชรา ลูกสาวของเขาถูกแยกไปอยู่กับอดีตภรรยาที่แต่งงานใหม่และกำลังจะย้ายไปต่างประเทศ

เขาเข้าร่วมเกมเพราะอยากหาเงินให้มากพอเพื่อจะได้สิทธิเลี้ยงดูลูกและให้แม่เข้ารับการผ่าตัด เขาเข้าร่วมเกมโดยไม่รู้ว่าต้องเจอกับอะไร

ภาพลักษณ์ของนักแสดงอีจองแจในเกาหลี เป็นหนุ่มเรียบหรู ดูเนี้ยบ การที่เขามารับบทในเรื่องนี้ถือเป็นการฉีกภาพเก่าของเขาเช่นกัน

“ผมอยากจะดูเหมือนคนที่อาศัยอยู่ในชั้นใต้ดินของตึกซังมุนดง ตอนที่มาฟิตติ้ง ผู้กำกับฝ่ายคอสตูมให้ผมใส่เสื้อที่ไม่พอดีกับตัว และดูดีน้อยที่สุด ผมบอกว่า ‘ผมจะใส่อะไรก็ตามที่คุณให้ผม’”

“ในฐานะนักแสดง ผมทำทุกอย่างเพื่อจะถ่ายทอดบทของกีฮุน ผมไม่เคยรู้สึกอายกับลุคของตัวเอง” สำหรับลุคของกีฮุน เขาบอกว่าเขาไปศึกษาด้วยการดูผู้คนบนท้องถนนเพื่อช่วยเพิ่มรายละเอียดในการแสดง

“สิ่งที่ผมทำซึ่งแตกต่างออกไป [จากผลงานก่อนหน้า] คือผมจะออกไปเดินตอนกลางคืนก่อนจะถ่ายทำ มองดูผู้คนบนท้องถนน เพื่อหาสิ่งที่จะเพิ่มเข้าไปในตัวละครของผม” เขาบอกว่าการแสดงเป็นคนธรรมดา ยากยิ่งกว่าการแสดงบทในผลงานก่อนหน้าของเขาเสียอีก

“สำหรับตัวละครตัวร้าย มันไม่ยากที่จะแสดง ในเมื่อคุณรู้อยู่แล้วว่านี่คือตัวร้าย แต่ว่า [สำหรับตัวละครตัวนี้] มันมีหลายอย่างที่ต้องใส่ลงไปเพื่อให้ออกมาดูมีความเป็นธรรมชาติ”

ซีรีส์ถ่ายทอดรายละเอียดอารมณ์ของตัวละครกีฮุน ที่เขาเสี่ยงตายมาในทุกเกม อีจองแจบอกว่าตัวละครที่เห็นอกเห็นใจคนอื่นของเขา เป็นตัวละครที่นำสารหลักของซีรีส์ไปยังผู้ชม “ผมไม่แน่ใจว่าผู้ชมต่างประเทศจะเห็นด้วยไหมที่ตัวละครตัวนี้ยังช่วยเหลือคนอื่น แม้ว่าจะอยู่ในสถานการณ์อันตราย แต่ว่าผมคิดว่านี่เป็นสิ่งที่ชาวเกาหลีมีครับ”

“สำหรับผม เขาเป็นผู้ชายที่จิตใจดีและอบอุ่น ไม่มีจุดไหนเลยที่ผมไม่เข้าใจ เขากล้าหาญและเผชิญหน้ากับสิ่งที่เขาไม่จำเป็นต้องทำก็ได้ และนี่เป็นสิ่งที่ตัวละครตัวนี้ต้องการจะสื่อ ผมคิดว่าอย่างนั้นครับ”

อีจองแจบอกว่าเขาตั้งใจแสดงในทุกฉาก และเซอร์ไพรส์เมื่อได้เห็นการแสดงของเขา “ตอนที่ผมเห็นการแสดงของตัวเองครั้งแรก ผมหัวเราะไปพักใหญ่เลย...ผมทำท่าทางและสีหน้าที่ปกติไม่ค่อยทำ และผมไม่ได้ทำหน้าแบบนั้นมาซักพักแล้วด้วย”

“ยิ่งเกมแผ่นน้ำตาล (Dalgona) ผมคิดกับตัวเองว่า ‘ผมต้องเลียมันจริงๆเหรอ?’ แต่พอคิดว่าถ้าชีวิตตัวเองกำลังตกอยู๋ในอันตราย ก็พอเข้าใจได้ว่าคงยอมทำทุกอย่าง ผมรู้สึกกดดันในทุกเกมเลยครับ”

อีจองแจบอกว่า ฉากของซีรีส์ทำให้เขาทึ่ง เขาชื่นชมทีมงานที่สามารถนำเรื่องแต่งให้มามีชีวิตชีวาทางหน้าจอได้

“ขนาดของฉากเหมือนสนามเด็กเล่นเลยครับ ทำเอาทึ่งไปเลย คนออกแบบสุดยอดมาก เหมือนเป็นงานจัดแสดงศิลปะแบบโมเดิร์น” เขาบอก “ผมตั้งตารอเลยว่าฉากต่อไปจะเป็นแบบไหน และเวลาไปที่กองถ่าย ผมเอาแต่ถ่ายรูปเลยครับ”

ตอนนี้อีจองแจกำลังถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องใหม่ของเขา เขาบอกว่าสนุกที่ติดตามว่ากระแสตอบรับของซีรีส์เป็นอย่างไรผ่านทางอินเตอร์เน็ต

“ผมเห็นวิดีโอที่ผู้ชมล้อเลียน ซึ่งมันตลกดี ผมคิดว่าพวกเขามีไอเดียเยอะกว่าพวกเราอีก” และบอกว่ากระแสนิยมที่เกิดขึ้นนี้รู้สึกเหมือนเป็นความฝัน

“ผมขอบคุณทุกคน รวมถึงสื่อที่ดูเหมือนจะชอบซีรีส์เช่นกัน และสิ่งที่ผมทำอยู่ตลอดเลยก็คือ ผมพยายามทำให้ดีที่สุดครับ”