คิมฮยอนจุง (Kim Hyun Joong) ได้เข้าร่วมเป็นแขกรับเชิญในรายการ Ask Us Anything Fortune Teller ทางช่อง KBS Joy ที่ออกอากาศเมื่อวันที่ 4 มกราคม ในรายการเขาได้เล่าเรื่องราวตลอด 3 ปีที่ผ่านมา และนี่ถือเป็นรายการวาไรตี้แรกตลอด 3 ปี

Pyramid Game

Ask Us Anything Fortune Teller เป็นรายการที่ให้แขกรับเชิญนำเรื่องไม่สบายใจมาปรึกษา 2 พิธีกร อีซูกึน (Lee Soo Geun) และ ซอจางฮุน (Seo Jang Hoon) โดยคิมฮยอนจุง นักแสดงหนุ่มและศิลปินวัย 36 ปี ได้บอกเรื่องไม่สบายใจของเขาว่า “ในแต่ละวันของผม ผมเอาแต่คิดว่าคนอื่นจะมองผมอย่างไร ก่อนหน้านี้ผมเป็นคนสดใส แต่ตอนนี้ผมกลับรู้สึกตัวเล็ก ผมจะมีชีวิตโดยเศร้าใจน้อยลงและกระปรี้กระเปร่าได้อย่างไรครับ?”

ซอจางฮุนบอกว่ามีเรื่องหลายอย่างเกิดขึ้นกับคิมฮยอนจุง เขาถามว่าคิมฮยอนจุงรู้สึกแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ซึ่งปัญหานี้เกิดจากเรื่องราวการฟ้องร้องที่เริ่มต้นในปี 2014 กับแฟนสาวของเขา ซึ่งในตอนนี้เสร็จสิ้นลงแล้ว คิมฮยอนจุงได้ตอบคำถามซอจางฮุนว่า “ตอนนั้นผมอายุ 29-30 ครับ เรื่องเกิดขึ้นเมื่อ 5 ปีที่แล้ว” ถึงแม้คดีของเขาจะได้รับการตัดสินไปแล้วเมื่อเดือนพฤศจิกายน แต่เขาก็ยังไม่มีโอกาสกลับมาแสดงซีรีส์ ผลงานเรื่องล่าสุดของเขาคือ When Time Stopped ทางช่อง KBS W เมื่อปี 2018

คิมฮยอนจุงบอกว่า “ผมคงพูดไม่ได้ว่าผมเป็นคนถูก แต่ผมฝันแบบเดิมซ้ำกันทุกวัน ผมรู้สึกไม่สบายใจเมื่ออยู่ต่อหน้าครอบครัว และรู้สึกไม่มีกำลังใจเมื่อเจอกับคนใหม่ๆ ผมรู้สึกเหมือนคนคนนั้นจะตัดสินผม ผมพบว่าตัวเองไม่กล้าเข้าไปคุยกับเพื่อนนักแสดงด้วยกัน รู้สึกว่าการมีอยู่ของผมคือสิ่งน่ารำคาญ ผมคิดว่าพวกเขาคงไม่ได้รับประโยชน์อะไรถ้ามารู้จักกับคนอย่างผม”

อย่างไรก็ตามนี่ไม่ได้หมายความว่าคิมฮยอนจุง หลีกเลี่ยงการทำงานกับคนอื่น เขาอธิบายว่า “ผมทำงานอยู่ตลอดนะครับ แต่คนอื่นอาจจะไม่เห็น เลยคิดว่าผมไม่ได้ทำอะไร เมื่อไม่นานมานี้ ผู้จัดการเอาบทของหนังเรื่อง Indian Pink มาให้อ่าน ตอนแรกผมก็ปฏิเสธ แต่พอผู้กำกับบอกว่าบทนี้ต้องเป็นผมเล่น ผมก็ตอบตกลง พอมาอยู่หน้ากล้อง ผมถามตัวเองว่า ‘นี่คือสิ่งที่เราทำได้ดี แล้วเราจะรออะรออยู่?’ ผมตัดสินใจทำมันสุดความสามารถ ให้เหมือนกับว่ามันคือโอกาสสุดท้ายที่ผมได้รับในชีวิต”

คิมฮยอนจุงได้รับรางวัลจากเทศกาลหนังอิสระอเมริกันจากผลงานการแสดงของเขา แต่เขาเสียดายที่คนไม่ได้ติดตามมันมากนัก

เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา คิมฮยอนจุงมีข่าวว่าเขาได้ช่วยชีวิตชายคนหนึ่งเอาไว้ คิมฮยอนจุงได้พูดถึงเรื่องนี้ว่า “เวลาผมว่างจากการทำงาน ผมไปเรียนดำน้ำ ผมเลยรู้วิธีการช่วยเหลือชีวิตเบื้องต้น มีอยู่วันหนึ่งผมกำลังออกจากร้านอาหารกับเพื่อน ตอนที่ได้ยินว่าในร้านอาหารมีผู้ชายล้มลงไปชักเกร็งและหมดสติ ผมเข้าทำ CPR ประมาณ 3 นาที แต่ไม่มีสัญญาณชีพ ตอนนั้นบอกตามตรงว่าผมกลัวครับ ผมคิดว่าผมเอาตัวเองไปยุ่งกับเรื่องที่ไม่ควรยุ่งหรือเปล่า และเพราะว่าผู้ชายคนนั้นไม่ได้สติเป็นเวลานาน ผมคิดว่าตัวเองอาจตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากถ้ามีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับเขา เป็นความคิดที่เห็นแก่ตัวมากครับ”

คิมฮยอนจุงเล่าต่อ “โชคดีที่เขาฟื้น ตอนนั้นผมรู้สึกละอายต่อตัวเอง ผมเลยรีบออกจากที่นั่น หลังจากนั้นมีคนติดต่อมา แต่ผมกังวลมากเลยครับ ผมเลยดื่มและเข้านอน วันต่อมา ผมตื่นมาและพบว่าชื่อของผมขึ้นอันดับคำค้นหา ผมไม่ได้กดเข้าไปอ่านด้วยซ้ำ บริษัทของผมติดต่อมาและบอกว่าผู้ชายคนนั้นติดต่อนักข่าวเอง”

คิมฮยอนจุงบอกว่าเรื่องราวนั้นเหมือนปาฏิหาริย์ เขาบอกว่าบางคนพูดถึงคดีเก่าของเขาจากเหตุการณ์นี้ และทำให้เขาเริ่มคิดว่าจะกลับมาลองสู้กับชีวิตดูอีกครั้ง

หลังจากได้ฟังเรื่องราวของคิมฮยอนจุง ซอจางฮุนบอกว่า “คุณประสบความสำเร็จตอนที่เดบิวต์เมื่ออายุ 19 ตอบผมมาตามตรง คุณอยากกลับไปช่วงเวลานั้นหรือไม่?” คิมฮยอนจุงตอบว่า “ไม่ครับ”

อีซูกึนบอกว่าหลายคนต้องเคยรู้สึกว่าถูกคนอื่นวิจารณ์ แต่จุดสำคัญคือเราสามารถนำคำวิจารณ์นั้นมาเป็นคำแนะนำได้ การกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารร์เกิดจากความผิดพลาด และเราควรยอมรับผลของการกระทำ

ซอจางฮุนแนะนำว่า “คุณไม่สามารถลบอดีต แล้วเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด สิ่งนี้ไม่สามารถแก้ไขได้อย่างสมบูรณ์แบบ คุณแค่ต้องใช้ชีวิตไปกับมัน”

คิมฮยอนจุงพูดในตอนท้ายว่า “คุณบอกว่าความเจ็บปวดของผมไม่มีทางรักษาได้อย่างหายขาด แต่ผมคิดว่าวิธีการรักษามันให้หายขาดคือการที่ผมต้องแบกรับความเจ็บปวดนี้ไปกับผม นี่เป็นคำปลอบใจต่อตัวผมครับ”

ที่มา https://entertain.naver.com

แปลโดย http://popcornfor2.com