เมื่อในเร็ว ๆ ที่ผ่านมานี้ นักแสดงสุดฮอตที่กำลังรุ่งพุ่งแรงแบบสุด ๆ อย่าง ‘คิม ซอนโฮ’ นั้นได้เข้าร่วมการสัมภาษณ์กับสำนักข่าวดัง ‘Sports Chosun’ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นการสัมภาษณ์กับแบบตัวต่อตัวภายหลังการสิ้นสุดการออกอากาศของซีรี่ส์ยอดนิยมอย่าง ‘Start Up’ แทบจะครั้งแรก ๆ เลยทีเดียว

โดยถึงแม้ว่าในตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา (ก่อนหน้า) นี้ ‘คิม ซอนโฮ’ จะปรากฎตัวในซีรี่ส์มาแล้วมากมายหลายเรื่องด้วยกัน แต่ก็ต้องยอมรับอย่างปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเป็นเพราะบทบาทในฐานะตัวละคร ‘ฮัน จีพยอง’ ภายในซีรี่ส์เรื่อง ‘Start Up’ นี้เอง ที่ส่งผลให้สถานะในฐานะนักแสดงของ ‘คิม ซอนโฮ’ นั้นได้เติบโตขึ้นมาในอีกระดับอย่างก้าวกระโดดมากที่สุด

โดยตัว ‘คิม ซอนโฮ’ เองก็ได้บอกเล่าความรู้สึกของตัวเองเกี่ยวกับประเด็นนี้ว่า “ในทุก ๆ โปรเจ็คที่ผมได้มีส่วนร่วมมา ผมรับงานโดยที่ไม่เคยคาดหวังว่ามันจะต้องกลายเป็นโอกาสที่ส่งให้ตัวผมโด่งดังเป็นพลุแตกแบบนี้เลยครับ ผมไม่เคยแม้แต่จะคิดถึงมันเลยด้วยซ้ำนะครับ และแม้แต่ตอนนี้ ผมเองก็ยังแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าการที่ผมได้รับทั้งความรัก และความสนใจจากทุก ๆ คนมากมายขนาดนี้นั้นเป็นเรื่องจริง (ณ ตอนนั้น) ผมก็แค่อยากทำให้มันออกมาดีมากที่สุดเหมือนกับทุก ๆ ครั้ง ผมแค่อยากมีส่วนร่วมในซีรี่ส์เรื่อง ‘Start Up’ นี้เพราะผมชอบตัวละคร ‘ฮัน จีพยอง’ มาก ๆ แค่นั้นเองครับ”

นอกจากนี้ ‘คิม ซอนโฮ’ ยังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกด้วยว่า “จนกระทั่งในช่วงที่ซีรี่ส์กำลังจะดำเนินมาถึงจุดสิ้นสุด (การออกอากาศในตอนสุดท้าย) ในบัญชีอินสตาแกรมของผม ผมได้รับข้อความคิดเห็นจากแฟน ๆ มากมายเลยครับ พวกเขาบอกประมาณว่า ‘ซอนโฮ คุณทำมันออกมาได้ดีมาก ๆ เลยนะ’ และเมื่อตอนสุดท้ายได้ฉายออกไปจริง ๆ และผมที่ได้กลับมาอ่านข้อความพวกนี้อีกครั้ง ผมก็รู้สึกขอบคุณมาก ๆ จนถึงกับร้องไห้ออกมาเลยครับ – มันมีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นกับผมในระหว่างถ่ายทำซีรี่ส์เรื่องนี้ ผมมีความคิดมากมายเต็มหัวไปหมด แต่สุดท้ายแล้ว [เพราะข้อความเหล่านั้น] ผมก็รู้สึกเหมือนได้รับทั้งพลัง และกำลังใจจากทุก ๆ คนที่คอยเชียร์ผมอยู่เสมอครับ”

ทั้งนี้ เนื่องด้วยซีรี่ส์เรื่อง ‘Start Up’ นี้มีเนื้อหาเรื่องราวเกี่ยวกับกลุ่มคนหนุ่มสาวในช่วงอายุวัย 20 ปีที่มีความฝันเป็นของตัวเอง และต้องการทำให้สำเร็จอย่างการเข้าทำงานที่ ‘Sandbox’ หรือสถานที่ที่เป็นดั่งซิลิคอนวัลเลย์ในอุดมคติของประเทศเกาหลีใต้ นักแสดงหนุ่ม ‘คิม ซอนโฮ’ ที่ตัวเขาเองก็มีความฝันเช่นเดียวกันจึงได้กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า “ผมรู้สึกว่าตัวของผมเองมีความเชื่อมโยงกับตัวละครในเรื่องนี้มาก ๆ ครับ เพราะไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ผมก็เชื่อว่าพวกเราทุกคนในช่วงวัยประมาณ 20 ปีจะต้องมีสักครั้งหนึ่ง ที่รู้สึก หรือมีมุมมองเกี่ยวกับตัวเองในแบบที่มันทั้งน่าอึดอัด แต่ก็น่าหลงใหลไปพร้อม ๆ กันครับ มันเป็นอะไรที่ชวนให้นึกถึงอยู่เสมอครับ และแน่นอน ผมเองก็เป็นแบบนั้นเหมือนกันครับ”

“เรียกได้ว่า เมื่อครั้งที่ได้เริ่มต้นทำงานเป็นครั้งแรก แม้จะไม่มีประสบการณ์อะไรเลย แต่ตัวผมกลับมีแรงบันดาลใจอย่างแรงกล้าที่อยากจะลองทำทุกอย่าง อยากลองท้าทายตัวเองอยู่ตลอดเวลา พูดตรง ๆ ก็คือ ตัวผมในตอนนั้นไม่มีแผนชีวิตหรืออะไรแบบนั้นเลยครับ ณ ตอนนั้น ผมก็แค่อยากมีโอกาสได้ทำการแสดง – หลังจากเรียนจบจากมหาวิทยาลัย ผมอยากที่จะได้มีโอกาสแสดงละครเวทีมาก ๆ เลยครับ ผมพร้อมที่จะทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างที่ผมมี ทั้งกายและใจ ผมอยากทำการแสดง และผมมีความสุขที่ได้ทำการแสดง แม้ว่าผมจะไม่มีอะไร (ประสบการณ์) เลยก็ตาม”   

“เพราะตัวผมที่เป็นแบบนั้น แนที่จะมานั่งกังวลเกี่ยวกับเส้นทางอาชีพในอนาคต ผมก็แค่อยากมีความสุขอย่างเรียบง่าย และผมก็ได้พบกับความสุขนั้นผ่านการแสดงครับ แต่ถึงจะพูดแบบนั้น แต่ในความเป็นจริงแล้วผมเองก็มีช่วงเวลาที่รู้สึกสิ้นหวังมาก ๆ เหมือนกันนะครับ และผมเองก็พยายามทำให้ตัวเองมองความสิ้นหวังนั้นเป็นเหมือนกับโอกาส และความหวังในอีกรูปแบบหนึ่ง โดยปกติ เมื่อไหร่ก็ตามที่ผมรู้สึกสงสัยในตัวเอง ผมมักจะหยุด และให้เวลากับการคิดถึงอนาคต เส้นทางที่ผมต้องการเดินต่อไปในอนาคต ผมจะเริ่มกำหนดเป้าหมายใหม่ ๆ ให้กับตัวเอง และท้าทายตัวเองด้วยการเผชิญหน้ากับทุกสิ่งทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นครับ – เช่นเดียวกัน สำหรับพวกคุณทุกคน ผมหวังว่าพวกคุณจะสามารถเปลี่ยนช่วงเวลาแห่งความสิ้นหวังนั้นให้กลายเป็น ‘โอกาสในการเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง’ ได้เช่นเดียวกันนะครับ” 

สุดท้ายนี้ ‘คิม ซอนโฮ’ ได้ออกมาพูดเกี่ยวกับผลงานที่เขากำลังมีส่วนร่วมอยู่ในปัจจุบัน อย่างรายการวาไรตี้ ‘2 Days & 1 Night Season 4’ ที่เขาร่วมเป็นพิธีกรประจำรายการอยู่ ว่า “ผมรับรู้ได้ถึงความกังวลมากมายเลยครับว่า ‘มันคงเป็นเรื่องที่ยากสำหรับผม ทั้งกายและใจ’ ที่จะต้องถ่ายละคร ร่วมแสดงในละครเวที และรายการวาไรตี้ไปพร้อม ๆ กัน หลาย ๆ คนคาดเดาว่าผมจะต้องถอนตัวออกจากรายการ (‘2 Days & 1 Night Season 4’) ในท้ายที่สุด แต่ผมอยากให้ทุก ๆ คนมั่นใจนะครับ [ว่าผมจะไม่ถอนตัวอย่างแน่นอน] เพราะพวกเราทุกคนเริ่มต้นรายการนี้มาด้วยกัน ผมก็อยากจะทำให้มันออกมาดีมากที่สุด ผมจะอยู่ร่วมรายการกับทุก ๆ คนไปจนถึงตอนสุดท้ายของรายการเลยครับ”