เมื่อในวันที่ 20 ตุลาคม ที่ผ่านมา เพื่อเป็นการให้การต้อนรับการคัมแบ็คเพลงใหม่ในภาษาญี่ปุ่น ที่กำลังจะได้รับการเผยโฉมในเร็ว ๆ นี้จากเกิร์ลกรุ๊ป ‘IZ*ONE’ สำนักข่าวของประเทศญี่ปุ่นอย่าง ‘Oricon News’ จึงได้ตีพิมพ์บทสัมภาษณ์สุดพิเศษกับไอดอลชื่อดัง ‘มิยาวากิ ซากุระ’ มาให้แฟน ๆ ได้รับรู้กัน

ซึ่งในระหว่างการให้สัมภาษณ์ ‘ซากุระ’ นั้นได้เปิดใจอย่างหมดเปลือกเกี่ยวกับเส้นทางอาชีพของตัวเธอเอง ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน ทั้งในฐานะสมาชิกของวงไอดอลระท๊อปของประเทศญี่ปุ่นอย่าง ‘HKT48’ ‘AKB48’ และวงไอดอลเคป๊อปชื่อดังอย่าง ‘IZ*ONE’ โดย ‘ซากุระ’ ได้เริ่มต้นบทสนทนานี้ว่า “ตอนแรก ฉันเข้าใจว่าฉันสามารถทำกิจกรรมทั้งในประเทศญี่ปุ่น และประเทศเกาหลีควบคู่กันไปได้ค่ะ (กิจกรรมของทั้ง ‘HKT48’ ‘AKB48’ และ ‘IZ*ONE’) เพราะแบบนั้น ตอนที่ได้รับแจ้งว่าฉันต้องหยุดการทำกิจกรรมทั้งหมดในประเทศญี่ปุ่นไว้ชั่วคราวก่อน ฉันจึงรู้สึกตกใจมาก ๆ ค่ะ อีกทั้ง ณ ตอนนั้น ฉันไม่รู้ภาษาเกาหลีเลย ฉันจึงกังวลมาก ๆ ว่าตัวเองอาจจะปรับตัว (ให้เข้ากับวัฒนธรรมเกาหลี) ไม่ได้”

นอกจากนี้แล้ว ‘ซากุระ’ ได้กล่าวต่อว่า “ทุก ๆ ขั้นตอน และกระบวนการถ่ายทำ (รายการ Produce 48) ล้วนเป็นภาษาเกาหลีทั้งหมด เพราะแบบนั้น ในช่วงแรก ฉันตามไม่ทันเลยค่ะ ฉันไม่เข้าใจอะไรเลย แต่ด้วยเพราะในตลอดช่วงเวลาที่การถ่ายทำดำเนินไป ฉันก็ได้ความช่วยเหลือจากผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ โดยเฉพาะเด็กฝึกหัดชาวเกาหลีที่สามารถพูดภาษาญี่ปุ่นได้ นอกจากนี้แล้ว ฉันยังใช้ดิกชันนารี เพื่อช่วยแปลความหมายคำศัพท์อยู่บ่อย ๆ ด้วยค่ะ” 

เมื่อถึงตรงนี้ ‘ซากุระ’ จึงได้เปิดใจเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่างวัฒนธรรมของเกาหลี และญี่ปุ่นที่เด่นชัดมาก ๆ ในความคิดของตัวเธอเองว่า “โดยปกติแล้ว สำหรับผู้คนชาวญี่ปุ่น พวกเราจะไม่ค่อยแสดงความรู้สึกที่แท้จริงออกมาค่ะ พวกเราพยายามที่จะเลี่ยง ไม่พูดสิ่งที่ตัวเองคิดอยู่จริง ๆ ออกมา – แต่กับประเทศเกาหลี สำหรับฉัน ผู้คนที่นี่ตรงไปตรงมากับความรู้สึกของตนเองมาก ๆ ค่ะ พวกเขาจะแสดงความคิดเห็นของตัวเองออกมาอย่างหนักแน่น และไม่อ้อมค้อมว่า ‘ไม่’ หรือ ‘ฉันไม่ชอบ’ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่สร้างความประหลาดใจให้กับฉันมาก ๆ ในช่วงแรก ๆ ค่ะ”

ในกรณีนี้ ‘ซากุระ’ ได้ยกตัวอย่างเกี่ยวกับความตรงไปตรงมาในการแสดงความคิดเห็นของชาวเกาหลี ที่ทำให้เธอรู้สึกตกใจอย่างมาก ในครั้งแรกที่ได้ยินว่า “บางครั้งในการสัมภาษณ์ มันจะมีประเภทคำถามในลักษณะที่ว่า ‘ถ้าคุณเลือกเกิดใหม่ได้ คุณจะเลือกเกิดเป็นสมาชิกคนไหน?’ ซึ่งเมื่อได้ยินคำถามนี้ ไอดอลเกาหลีบางคนก็สามารถตอบออกมาได้อย่างมั่นใจเลยว่า ‘ฉัน! ฉันจะเกิดเป็นตัวเอง’ และนั่นมันทำให้ฉันรู้สึกตกใจมากค่ะ”

“อันที่จริง พวกแนวคำถามประเภทนี้ก็ถูกใช้ที่ประเทศญี่ปุ่นด้วยเหมือนกัน อย่างฉันเองก็เคยถูกถาม และได้เห็นคนอื่น ๆ ที่ถูกถามด้วยคำถามแบบนี้มาก่อนเหมือนกัน แต่ฉันมั่นใจว่าไม่เคยได้ยินใครให้คำตอบแบบนี้ (เหมือนที่ไอดอลเกาหลีตอบ) มาก่อนเลยค่ะ และฉันไม่ได้กำลังหมายถึงว่ามันไม่ดีนะคะ การได้ยินคำตอบแบบนี้ หรือการได้เห็นคนที่มีความมั่นใจ และพอใจกับที่ตัวเองเป็นอยู่แบบนี้ จริง ๆ แล้วมันเป็นแรงบันดาลใจที่ดีมาก ๆ เลยค่ะ มันเป็นประสบการณ์การเรียนรู้ที่ดีมาก ๆ สำหรับฉัน”

นอกจากนี้แล้ว ‘ซากุระ’ ยังได้เปรียบเทียบเกี่ยวกับความแตกต่างในแง่ของ ‘วัฒนธรรมของไอดอล’ ระหว่างไอดอลเกาหลี และญี่ปุ่นอีกด้วย ซึ่งสำหรับ ‘ซากุระ’ แล้ว ไอดอลญี่ปุ่นส่วนใหญ่นั้นมีประสบการณ์การฝึกฝนก่อนเดบิวต์ที่น้อยมาก หรือกับบางคนที่แม้จะได้เดบิวต์ แต่ก็มาสามารถเรียกได้ว่าไม่เคยได้รับการฝึกมาก่อนเลยเหมือนกัน ในทางกลับกัน ไอดอลเกาหลีทุกคนที่ได้เดบิวต์คือ คนที่ผ่านระบบการฝึกฝนมาอย่างยาวนาน และเข้มงวด โดย ‘ซากุระ’ เองก็ได้ยืนยันว่า ‘ระบบการฝึกไอดอลตามวัฒนธรรมของเกาหลี’ นั้นมันยากสำหรับเธอมาก ๆ   

“(หลังจากที่มาอยู่ที่เกาหลี) ฉันคิดกับตัวเองตลอดว่า ‘นี่ฉันจะเป็นไอดอลมา 7 ปีแล้วนะ แต่ทำไมฉันกลับทำอะไรไม่ได้เลย’ และช่วงเวลาก่อนการเดบิวต์อย่างเป็นทางการ (ของวง IZ*ONE) พวกเราทุกคนซ้อมกันอย่างน้อย 10 ชั่วโมงต่อวัน และเพราะฉันไม่เคยต้องทำอะไรแบบนี้มาก่อน มันเลยยากมาก และฉันต้องใช้เวลานานพอสมควรเลยค่ะกว่าจะปรับตัวได้”

“ในช่วงแรก ๆ เพราะฉันทั้งรู้สึกเครียด เป็นกังวล และสงสัยในความสามารถของตัวเองมาก ๆ ว่าฉันจะไม่สามารถปรับตัว และเปิดรับสิ่งใหม่ ๆ พวกนี้ได้ เพราะแบบนั้น แม้แต่ตอนนี้ฉันก็ยังจำได้ดีเลยค่ะ ว่าก่อนหน้าการเดบิวต์ฉันร้องไห้หนักขนาดไหน ฉันจำภาพที่ตัวเองนั่งร้องไห้อยู่คนเดียวกับตัวเองได้ดีเลยค่ะ”

อย่างไรก็ตาม ณ เวลานี้ สำหรับ ‘ซากุระ’ แล้ว ‘ชีวิตในฐานะไอดอลเคป๊อป’ นั้นไม่ใช่สิ่งที่ยากเกินความสามารถของเธออีกต่อไป โดย ‘ซากุระ’ ในตอนนี้นั้นสามารถฝึกซ้อมได้เป็นชั่วโมง ๆ ได้โดยที่ไม่รู้สึกว่า ‘มันยากมาก ๆ’ อีกต่อไปแล้ว

ต่อมา ‘ซากุระ’ ได้เปิดเผยเกี่ยวกับ ‘ความชอบ’ หรือสิ่งที่เธอรู้สึกว่ามันมีเสน่ห์มาก ๆ จากประสบการณ์ตรงของตัวเอง ในการเป็นไอดอลที่มีโอกาสได้ลิ้มลองวิธีการทำงานในวงการบันเทิงทั้งญี่ปุ่น และเกาหลีมาแล้วว่า “สำหรับวงการไอดอลเคป๊อปของประเทศเกาหลีนั้น มันสำคัญมาก ๆ เลยค่ะที่คุณจะต้องมีภาพลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบนับตั้งแต่วันแรกที่เดบิวต์ อีกทั้งในเวลาทำการแสดงบนเวที หรือในคอนเสิร์ต คุณจะตั้งใจต้องทำทุก ๆ การแสดงออกมาให้เพอร์เฟคมากที่สุดเพื่อแฟนคลับ โดยเฉพาะกับการเต้น”

ในทางกลับกัน “สำหรับวงการไอดอลของญี่ปุ่นนั้น เพราะด้วยไอดอลบางคนเดบิวต์มาโดยที่ไม่มีประสบการณ์การแสดง หรือการฝึกฝนใด ๆ มาก่อนเลย บรรดาแฟนคลับจึงเน้นไปที่การเชียร์ และการให้กำลังใจจากที่ไกล ๆ แบบสบาย ๆ เพื่อไม่ให้ตัวไอดอลเกิดความรู้สึกกดดัน อีกทั้งแฟน ๆ ชาวญี่ปุ่นยังชื่นชอบที่จะได้เห็นพัฒนาการที่ดีมากขึ้นเรื่อย ๆ จากตัวไอดอลมากกว่า (ต้องการให้ไอดอลเพอร์เฟคทุกด้านตั้งแต่เดบิวต์)”

สำหรับ ‘ซากุระ’ แล้ว “แฟน ๆ ชาวญี่ปุ่นก็เหมือนกับคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องการเห็นลูก ๆ เติบโต และเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ไปเรื่อย ๆ ในขณะที่แฟน ๆ ชาวเกาหลีเป็นเหมือนกับผู้สนับสนุนหลัก ที่ต้องการเห็นไอดอลทำทุกอย่างให้ออกมาดีมากที่สุด ซึ่งสำหรับฉันแล้ว มันดีมาก ๆ ทั้งสองแบบเลยนะคะ ฉันชอบความรู้สึกที่ได้รับจากแฟน ๆ ทั้งหมดเลย แต่กับแฟน ๆ ชาวเกาหลี ฉันจะแอบรู้สึกดีใจมากกว่านิดนึง ในเวลาที่พวกเขาพูดชมฉันว่า ‘การร้องของเธอพัฒนาขึ้นนะ’ หรือ ‘การเต้นของเธอดูดีมากขึ้นจริง ๆ’ อะไรทำนองนี้ค่ะ มันเหมือนกับว่าพวกเขามองเห็นการเติบโตของฉันแล้ว” 

สุดท้าย ‘ซากุระ’ ได้ฝากผลงานเพลงอัลบั้มเต็มชุดแรกของ ‘IZ*ONE’ อย่าง ‘Twelve’ ที่กำลังจะได้รับการเปิดตัวในประเทศญี่ปุ่นเร็ว ๆ ว่า ตัวเธอนั้นได้มีส่วนร่วมในการจัดทำทั้งในกระบวนการเรียบเรียง และเขียนเนื้อร้องด้วยตัวเองอีกด้วย 

“มีเมมเบอร์คนหนึ่งที่บอกว่า ‘ฉันชอบเพลงนี้’ โดยที่เธอไม่รู้มาก่อนว่าฉันมีส่วนร่วมในการผลิตด้วยค่ะ เพราะได้ยินแบบนั้น ฉันเลยบอกเธอไปว่า ‘ฉันร่วมแต่งเพลงนี้ด้วยนะ’ และเธอก็ดูที่จะชอบเพลงนี้มากขึ้นไปอีกด้วยค่ะ และเพราะแบบนั้น ฉันมีความสุขมาก ๆ ค่ะ”

โดยผลงานอัลบั้มเต็มชุดแรกของสาว ๆ ‘IZ*ONE’ ในชื่ออัลบั้ม ‘Twelve’ นี้ มีกำหนดการวางขายอย่างเป็นทางการทั่วประเทศญี่ปุ่นในวันที่ 21 ตุลาคม ที่จะถึงนี้แล้ว ดังนั้นแล้ว แฟน ๆ ทุกคน! สามารถตั้งตารอคอยผลงานชุดใหม่นี้ได้เลย!