อีกวางซู (Lee Kwang Soo) พูดถึงการสร้างสมดุลให้ตัวเองในบทบาทนักแสดงและสมาชิกรันนิ่งแมน
2020-09-27 08:24:20
Advertisement
Pyramid Game

อีกวางซู (Lee Kwang Soo) ได้พูดถึงอาชีพของเขาและอีกหลายเรื่องในบทสัมภาษณ์กับนิตยสาร Esquire Korea

อีกวางซูเพิ่งคว้ารางวัล นักแสดงสมทบยอดเยี่ยมจากงาน Baeksang Arts Awards ครั้งที่ 56 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมาจากผลงานการแสดงเรื่อง Inseparable Bros โดยคะแนนของเขาเป็นเอกฉันท์ อีกวางซูพูดถึงเรื่องนี้ว่า “ผมเห็นแล้วครับ และรู้สึกยินดีมาก”

“พูดตามตรง ผมยังไม่เชื่อว่าเป็นคนจริง จนกระทั่งงานจบ” เขาพูดต่อ “ถึงไม่ได้รับรางวัล หนังเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่มีความหมายสำหรับผมมาก แต่ตอนที่ได้รับรางวัลและได้รับการแสดงความยินดีจากรุ่นพี่ที่บอกว่าพวกเขาชอบหนัง มันทำให้ผมคิดอีกครั้งถึงเรื่องจำนวนผู้ชมที่ผมคิดว่าไม่ใช่ทุกสิ่ง แต่หลังจากงานประกาศรางวัล ผลคิดว่า ‘มันคงจะดีถ้ามีคนดู Inseparable Bros เยอะๆ’ แน่นอนว่าผมรู้สึกขอบคุณคนที่ดูเรื่องนี้แล้วนะครับ”

 

เมื่อถามว่าเขาเลือกเล่นภาพยนตร์เรื่องนี้เพราะรู้ว่าจะประสบความสำเร็จอยู่แล้วใช่หรือไม่ อีกวางซูตอบว่า “ผมไม่แน่ใจครับ บอกตามตรงว่าผมไม่ค่อยรู้ว่าหนังอะไรจะไปได้ดีหรือเปล่า แล้วก็ไม่ค่อยพยายามคิดอะไรพวกนี้ ผมแค่รับเล่นเพราะรู้สึกว่าน่าเล่นและตัวละครน่าสนใจ และตัวผมเองอยากลองแสดง เอาตามตรงคือไม่มีใครรู้หรอกครับว่าอะไรจะเกิดขึ้น จำนวนคนดูจะเท่าไหร่ คือมันก็ดีถ้าคนไปดูหนัง ทุกคนที่ทำงานก็มีความสุขและไม่ขาดทุน แต่สำหรับผม ผมรู้สึกว่าทุกสิ่งมีความหมาย ถึงมันจะไม่ได้สำเร็จมากมายก็ตาม”


Esquire พูดถึงหนังเรื่อง Inseparable Bros ว่าเป็นการท้าทายความสามารถของเขา เพราะตัวละคร ดงกู ที่เขารับบทนั้นน่าสนใจและสร้างจากเรื่องราวของคนจริงๆ

อีกวางซูเห็นด้วยกับเรื่องนี้ เพราะว่ามีสิ่งที่ต้องระวัง ไม่ใช่บทที่จะรับแสดงได้ง่ายๆ “แต่ว่านะครับ ตอนอ่านบทครั้งแรก เรื่องก็น่าสนใจและทำให้ผมอยากแสดง” เขาเล่า “ผู้กำกับให้ความมั่นใจกับผมเป็นอย่างมาก ผมเลยคิดเยอะเลยว่าจะเตรียมตัวอย่างไร ตอนนั้นผู้กำกับพูดกับผมว่า ‘ถึงแม้ตัวจริงจะยังอยู่ แต่มันจะดีกว่าถ้าคุณแสดงดงกูในแบบของคุณ และแตกต่างจกาเขา’ เราคุยเรื่องนี้กันเยอะมาก และตอนที่ถ่ายทำครั้งแรก เขาทำให้ผมรู้สึกว่าการกำกับของเขาคือทิศทางที่ถูกต้องแล้ว”

อีกวางซูบอกว่า เขาคุยกับ ชินฮาคยอน (Shin Ha Kyun) และ อีซม (Esom) นักแสดงร่วมงานของเขาเยอะมาก และทำให้การถ่ายทำเป็นไปอย่างสบายใจ “ไม่ได้บอกว่ามันง่ายนะครับ แต่ว่า ผมมีความสุขและสนุกเวลาถ่ายทำ”

 

Esquire ยังได้พูดถึงบทสัมภาษณ์ของอีกวางซู ที่พูดถึงตัวละคร ยอมซังซู ในเรื่อง Live ซึ่งเขาเคยบอกว่าเป็นตัวละครที่เขารักมากที่สุด และเขามักบอกว่าตัวละครทุกตัวมีค่าสำหรับเขา

“ผมว่าผมมีความคล้าย ยอมซังซู หลายอย่างครับ” อีกวางซูอธิบาย “ผมคิดว่าผมได้เรียนรู้เกี่ยวกับความรับผิดชอบต่อหน้าที่ตอนที่ถ่ายทำ เขาเป็นตัวละครที่จริงใจมาก แต่ความจริงใจกลับทำให้เกิดความผิดพลาดแบบไม่ได้ตั้งใจและเกิดเรื่องตามมา ผมเข้าใจตัวละครยอมซังซูนะครับว่าเขากำลังอยู่ในช่วงเติบโต และตัวผมเองก็เหมือนเขา”

อีกวางซูมักถูกพูดถึงในฐานะ ‘จิตวิญญาณแห่งนักสู้’ นักเขียนบท โนฮีคยอง ซึ่งเคยทำงานกับอีกวางซู 3 โปรเจค รวมถึงเรื่อง Live บอกว่าเธอชอบจิตวิญญาณแห่งนักสู้ ของอีกวางซู 

“ผมพยายามทำให้ดีที่สุด” อีกวางซูตอบ “ผมมีความรู้สึกว่า ถ้าผมไม่ทำให้เต็มที่ ช่วงเวลานั้นก็ไม่มีความหมาย ผมคิดว่าตัวเองเป็นคนเข้มงวดกับการทำให้ดีที่สุด ยกตัวอย่างเช่น เวลาผมแสดง หรือถ่ายรายการรันนิ่งแมน ผมไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองทำงานไม่เต็มที่ ตอนที่ถ่ายทำเสร็จเลย”

อีกวางซูทำให้ผู้สัมภาษณ์อึ้งไปกับคำตอบของเขาที่ตลอดระยะเวลามากกว่า 10 ปีในการทำรายการรันนิ่งแมน เขาไม่เคยรู้สึกไม่เต็มที่กับการทำงานเลย

“แน่นอนว่ามันต้องมีช่วงเวลาที่ผมผิดหวัง” กวางซูบอก “แต่ว่าจนถึงตอนนี้ ผมไม่เคยดว่า ‘ผมไม่ได้พยายามมากพอในวันนี้’ เลยแม้แต่ครั้งเดียว ผมคิดว่าทัศนคตินี้แหละครับที่คุณโนฮีคยองเห็นจิตวิญญาณแห่งนักสู้ในตัวผม”

 

อีกวางซูเพิ่งพูดในคำกล่าวรับรางวัลในงาน Baeksang Arts Award ไปว่า “ผมจะทำตัวเองให้เป็นคนที่ทำให้คุณหัวเราะ และมีความสุข และทำให้คุณรู้สึกอยากเดินต่อไปข้างหน้า” ผู้สัมภาษณ์รู้สึกว่าอีกวางซูไม่ได้พูดในฐานะนักแสดง ที่เขาจะทำสิ่งเหล่านั้นให้กับผู้ชม เหมือนกับว่าเขาไม่ได้ให้คำนิยามตัวเองว่าเป็นนักแสดง

“ผมคิดว่าใช่ครับ ผมรู้สึกแบบนั้นแหละ” อีกวางซูบอก “ผมอยากให้คนหัวเราะ และทำให้คนมีแรงสู้ต่อไปผ่านการแสดงของผม แต่ผมก็อยากทำมันผ่านรายการรันนิ่งแมนด้วย พูดตามตรง การที่จะเรียกตัวเองว่า นักแสดงอีกวางซู มันทำให้ผมรู้สึกแบบ...” เมื่อถามว่าทำไมเขาถึงลังเลที่จะเรียกตัวเองว่าเป็นนักแสดง อีกวางซูบอกว่าคนมองเขาในแบบอื่นไปแล้ว และเขาก็ไม่ได้อยากสร้างตัวตนใหม่ เขาชอบที่คนมองเขาแบบอื่นมากกว่า

หลายคนมองว่าการทำรายการวาไรตี้มักจะกลายเป็นดาบสองคนสำหรับนักแสดง เพราะเมื่อโปรโมทผลงานภาพยนตร์ที่มีคาแรคเตอร์ต่างออกไป บางคนกลัวที่จะเห็นภาพลักษณ์ของนักแสดงคนนั้นเปลี่ยนไป อีกวางซูได้พูดถึงเรื่องนี้ว่า “แน่นอนว่าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอยู่แล้วครับ แต่รันนิ่งแมนคือรายการที่ทำให้หลายคนรู้ว่าผมเป็นใครเหมือนกัน” เขาพูดต่อ “การที่เราจะเห็นว่าใครคนหนึ่งมีภาพลักษณ์อย่างไร พวกเขาต้องเห็นก่อนว่าผมเป็นคนยังไง และเรื่องนี้มีผลเวลาแคสติ้ง กรณีของผม ผมไม่เคยมีภาพลักษณ์ที่วางเอาไว้เลยก่อนหน้าที่จะเข้าร่วมรายการรันนิ่งแมน ผมรู้สึกขอบคุณและเข้าใจที่คุณพูด แต่ผมคิดว่าผมต้องมีทัศนคติก่อน ส่วนเรื่องภาพลักษณ์ผมจะคิดทีหลัง”

อีกวางซูได้พูดถึงเหตุผลที่เขาไปออกรายการวาไรตี้อื่นน้อยมาก
“รายการรันนิ่งแมน มีสมาชิกที่คอยช่วยเหลือผม รีแอคกับผม และด้วยสิ่งเหล่านี้ ผมจึงสามารถทำมันได้” เขาพูดต่อ “และนี่คือเหตุผล ที่ทำให้ผมคิดว่ารายการวาไรตี้อื่นค่อนข้างยาก ถ้าพวกเขาเชิญผม เขาก็คงคาดหวังจะเห็นสิ่งที่ผมทำในรันนิ่งแมน แต่ว่ามันจะออกมาแตกต่าง เพราะว่าผมทำงานกับสมาชิกมา 10 ปีแล้ว จะให้ไปเหมือนกับรายการอื่น ผมว่ามันไม่ง่ายเลย”

ถึงแม้อีกวางซูจะไม่ค่อยไปปรากฎตัวในรายการวาไรตี้อื่นๆ แต่ชื่อเสียงของเขาในการจัดอันดับคนดังจากรายการวาไรตี้ก็อยู่ในอันดับสูง (อยู่ในอันดับ 2 เมื่อเดือนกรกฎาคม) เมื่อถามถึงเสน่ห์ของตัวเอง อีกวางซูตอบว่าเขาก็ไม่แน่ใจ และพูดถึงคนหลายคนที่พยายามสุดความสามารถเช่นกัน

“ผมคิดว่าหลายคนชอบเพราะผมทำมันด้วยความสบายๆ เป็นตัวของตัวเอง สนุกกับตัวเอง และตลกไปเรื่อย” เขาตอบ “คิดว่าคนคงชอบผมเพราะผมดูเป็นคนที่อาจจะเหมือนกับคนในครอบครัว เหมือนน้องชายคนเล็ก แบบยังไม่รู้จักโต”

เมื่อถามว่าผู้กำกับซีรีส์และภาพยนตร์หวังจะเห็นภาพลักษณ์ของอีกวางซูเหมือนในรายการรันนิ่งแมนหรือไม่ อีกวางซูเห็นด้วย “มีผู้กำกับที่ไม่อยากเห็นภาพลักษณ์ในรันนิ่งแมนของผม แต่บางคนก็ต้องการให้เพิ่มไปเล็กน้อย” เขาพูดต่อ “ผมไม่ได้รู้สึกไม่ชอบที่ต้องทำมันจะครับ ผมคิดว่าเรามองมันเป็นด้านดีก็ได้”

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X