"ชีนุก" เป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ใช้ประจำการในกองทัพสหรัฐอเมริกามายาวนานตั้งแต่ปี 1962 และแม้ว่าจะไม่โด่งดัง ขึ้นหน้าขึ้นตาเหมือนกับแบล๊กฮอว์กและอาปาเช่ ที่เป็นพาหนะประจัญบานของหน่วยรบพิเศษ แต่ชีนุกก็ได้ชื่อว่าเป็น "กระดูกสันหลัง" ด้านลำเลียงพลและส่งกำลังบำรุงของกองทัพสหรัฐมายาวนาน และได้รับการคาดหมายว่า จะทำหน้าที่รับใช้กองทัพไปจนถึงทศวรรษ 2030 ที่จะทำให้มันกลายเป็นช็อปเปอร์ลำแรกที่ประจำการอยู่ยาวนานถึง 100 ปี

กระทรวงกลาโหมสหรัฐใช้วิธีทั้งปรับปรุงสภาพของรุ่นเดิมๆ ให้ใหม่และทันสมัยยิ่งขึ้น ทั้งซีเอช-47จี และเอ็มเอช 47ดี/อี นอกจากนั้นยังตกลงกับโบอิ้งให้ผลิตรุ่นใหม่ออกมาอีกจำนวน 15 ลำ ใช้ชื่อรุ่นว่า เอ็มเอช 47จี ซึ่งจะกลายเป็นชีนุกที่ทันสมัยที่สุด สำหรับปฏิบัติการรบพิเศษหลังแนวข้าศึกโดยเฉพาะ

ฮ.ลำเลียงพลและส่งกำลังบำรุงรุ่นใหม่นี้เป็น ฮ.ดับเบิลพร็อพ ความยาว 98 ฟุต ใช้เครื่องยนต์ไลคัมมิ่ง 4,733 แรงม้า เทอร์โบชาฟต์ 2 ตัว สามารถลำเลียงพลหน่วยรบพิเศษในชุดปฏิบัติการพิเศษครบเครื่อง 55 นาย หรืออพยพแคร่ผู้บาดเจ็บ 24 ชุด พร้อมผู้ดูแลที่จำเป็น น้ำหนักบรรทุกรวมนั้นสามารถรองรับได้ถึง 28,000 ปอนด์ (ราว 12,700 กก.) ที่ความเร็วสูงสุดถึง 196 ไมล์ต่อชั่วโมงในระยะทางสูงสุด 450 ไมล์ (ราว 724 กม.) ติดปืนกล 7.62 มม. หรือลูกเล่นอีกบางอย่างสำหรับหน่วยปฏิบัติการพิเศษเมื่อต้องอพยพผู้คนระหว่างถูกระดมยิง

จุดเด่นที่สุดของชีนุกรุ่นใหม่คือ ระบบสถาปัตยกรรมการบินร่วมดิจิตอล ที่เรียกกันว่า ซีเอเอเอส ซึ่งเป็นระบบรวมอยู่กับระบบบัญชาการเต็มรูปแบบ ระบบคอมพิวเตอร์สำหรับการบินนี้ได้ชื่อว่าเป็นระบบการบินเฮลิคอปเตอร์ที่ทันสมัยที่สุดของโลกในเวลานี้ ที่สำคัญก็คือ มันจะมีความสามารถปฏิบัติการบินระดับต่ำด้วยเรดาร์ชนิดเกาะตามภูมิประเทศที่ทำการบิน และฟอร์เวิร์ด ลุกกิ้ง อินฟราเรด หรือเอฟแอลไออาร์ ที่เป็นกล้องถ่ายภาพอินฟราเรดสมรรถนะสูง ทำให้เล็ดลอดการจับของเรดาร์ได้เหมือนกับล่องหนเข้าหาศัตรู ลำตัวใช้โครงสร้างแบบโมโนลิธิค เฟรม ขยายถังน้ำมันเพิ่มเป็นสองเท่า เพื่อเพิ่มระยะเวลาในการลอยตัวนิ่งกลางอากาศให้มากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย

8 ลำแรกของเอ็มเอช 47จี กำหนดส่งมอบในราวต้นปี 2015 ส่วนอีก 7 ลำจะตามมาสมทบในสิ้นปีเดียวกัน


ที่มา  มติชนออนไลน์