เฟซบุ๊กของซีซีทีวีนิวส์เผยแพร่ภาพที่กำลังเป็นกระแสโกรธแก้นอย่างรุนแรงบนโลกออนไลน์ เมื่อกลุ่มนักปกป้องสิทธิสัตว์ปล่อยภาพเทศกาลฆ่าวาฬประจำปีที่หมู่เกาะแฟโร ซึ่งเป็นเขตปกครองตนเองของเดนมาร์กออกมา แสดงให้เห็นน้ำทะเลเป็นสีแดงฉานเพราะเลือด เนื่องจากปลาวาฬนำร่องครีบยาวจำนวนมหาศาลถูกฆ่าตายอย่างทารุณ

 รายงานระบุว่า บรรดานักกิจกรรมจากองค์กรสังเกตการณ์สัตว์น้ำชื่อซี เช็พเพิร์ด ถ่ายภาพเหล่านี้ไว้ขณะที่พยายามเข้าไปขัดขวางมิให้ชาวบ้านจัดกิจกรรมที่อำมหิตนี้ ทำให้นักกิจกรรมหลายคนถูกจับกุมเพราะไปรบกวน

  ส่วนปลาวาฬที่เห็นในรูปนั้นอพยพผ่านหมู่เกาะมาในช่วงเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม ก่อนจะถูกชาวบ้านดักจับและฆ่าอย่างโหดร้ายด้วยหอก โดยตัวเลขในปีนี้คาดว่ามีปลาวาฬถูกฆ่าไปแล้วประมาณ 250 ตัว

  ประเพณีการฆ่าวาฬเป็นเทศกาลที่จะจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีบริเวณหมู่เกาะแฟโรแห่งนี้มาเป็นเวลานับร้อยๆปีแล้ว โดยมีจุดประสงค์คือทั้งเพื่อนำเนื้อมาบริโภค โดยสามารถใช้ในการลดน้ำหนักได้ และชั้นไขมันของปลาวาฬก็สามารถนำไปแปรรูปเป็นน้ำมันได้ต่อไป ทำให่้แต่ละปีจะมีปลาวาฬถูกฆ่าเกือบ 1,000 ตัว ซึ่งแม้ว่าเดนมาร์กจะเป็นประเทศในสหภาพยุโรปที่ต่อต้านการล่าปลาวาฬก็ตาม แต่หมู่เกาะแฟโรอันเป็นเขตปกครองตนเองกลับไม่มีข้อห้ามเรื่องนี้

  ชาวบ้านโดยมากถือว่าการล่าวาฬนำร่องครีบยาวเป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งต่อวัฒนธรรมการบริโภคอาหาร โดยเนื้อปลาวาฬนั้นหากประเมินแล้ว มีมูลค่าสูงกว่าอาหารชนิดอื่นๆในพื้นที่ถึงร้อยละ 30 

 ทั้งหมดนี้จึงทำให้ชาวเน็ตพากันประณามว่าเป็นการทารุณสัตว์ที่ป่าเถื่อนและอำมหิต

 "ฉันขอค้านแบบสุดซอยเลย! เสียแรงที่อุตส่าห์คิดว่าเดนมาร์กเป็นดินแดนที่รักธรรมชาติ แต่ทำไมทำเรื่องเลือดเย็นแบบนี้กันได้" ชาวเน็ตคนหนึ่งโพสต์ลงบนซินล่างเวย์ปั๋วอย่างเดือดดาล

 ในขณะที่อีกคนโพสต์ว่า "เห็นแล้วตกใจมาก ถ้าเกิดคนพวกนี้โดนธรรมชาติเอาคืนเมื่อไหร่ล่ะก็ ไม่ต้องสงสัยหรอกว่านั่นเป็นกฎแห่งกรรมแน่นอน"

ขอขอบคุณที่มา  ข่าวสดออนไลน์