เปิดบ้าน "หรเวชกุล" คุยกับคุณแม่ "นิชคุณ" แห่งวง 2PM
2014-10-24 13:16:55
Advertisement
คลิก!!!

        กล่าวได้ว่า การเป็นแม่ที่เลี้ยงดูลูกให้เติบโตเป็นเด็กดี และเป็นที่รักของคนอื่น เป็นหนึ่งในความสำเร็จ และความภูมิใจของพ่อแม่ทุก ๆ คน เช่นเดียวกับผู้หญิงที่ชื่อ "เย็นจิต หรเวชกุล" คุณแม่ของ "นิชคุณ" ศิลปินไทยที่เข้าไปเป็นสมาชิกวง 2PM ภายใต้สังกัดเจวายพีของเกาหลีใต้ และคุณแม่ของลูก ๆ อีก 3 คน ที่ไม่ได้คาดหวังอะไรมาก เพียงขอให้ลูกทั้ง 4 เป็นคนดีของสังคมเท่านั้น
       
       โดยการสร้างลูกให้เป็นเด็กดีสไตล์ "คุณแม่เย็นจิต" นั้น เธอเปิดใจผ่าน ทีมงาน Life & Family เป็นที่แรกว่า ทัศนคติในการใช้ชีวิตของลูกขึ้นอยู่กับพ่อแม่เป็นส่วนใหญ่ การเลี้ยงลูกต้องอยู่บนพื้นฐานของความรัก พร้อมทั้งให้อิสระในการคิด และเปิดโอกาสให้ลูกทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยตัวเอง ที่สำคัญ การมีลูกหลายคนต้องท่องไว้เสมอว่า ลูกทุกคนไม่เหมือนกัน พ่อแม่ต้องเรียนรู้ และทำความเข้าใจกับลูกแต่ละคนอย่างลึกซึ้ง
       
       "ตัวแม่เอง แม่รักลูกเท่ากันนะ แต่ความไว้วางใจ หรือความเชื่อใจไม่เหมือนกัน เพราะสไตล์ของแต่ละคนแตกต่างกัน บางคนต้องการอิสระ ไม่อยากให้เราเข้าไปยุ่งมาก ขณะที่อีกคนต้องการให้เราเป็นที่ปรึกษา อย่างลูกคนโต (ณิชฌาน) เขาจะชอบทำอะไรด้วยตัวเอง ลูกคนนี้เราจะไปจุกจิกจู้จี้เขาไม่ได้ ส่วนนิชคุณจะแตกต่างกับพี่ เวลามีอะไรน้องคุณจะเข้ามาปรึกษาเรา" รายละเอียดในการเลี้ยงลูกถูกอธิบาย
       
       แต่กระนั้น การเป็นที่ปรึกษาของลูก เธออธิบายเพิ่มเติมว่า ไม่ใช่เป็นผู้ชี้นำ แต่จะเป็นผู้ชี้แนะแนวทางให้เท่านั้น ส่วนลูกจะตัดสินใจอย่างไร เป็นสิ่งที่เธอ และสามีจะให้ความเคารพ
       
       "ถ้าลูกอยากได้อะไร เขาจะมาถามเราว่า แม่แบบนี้ดีไหม เราก็แค่แจกแจงถึงข้อดี ข้อดี ส่วนการตัดสินใจจะเป็นหน้าที่ของเขา เราจะไม่เข้าไปยุ่ง เช่น ลูกอยากไปเรียนต่างประเทศ ก็บอกให้เขาฟังว่า ถ้าลูกไป ลูกต้องเจอกับสิ่งที่ดีแบบนี้นะ สิ่งไม่ดีแบบนี้นะ ดังนั้นการใช้ชีวิตแม่จะบอกลูก ๆ เสมอว่า ต้องไม่ประมาท หากก้าวพลาด คุณจะโทษใครไม่ได้นอกจากตัวเราเอง" นี่คือสิ่งที่เธอเน้นย้ำกับลูกทั้ง 4 คน
       
       ส่วนอีกเรื่องที่เธอยึดมั่นกับตัวเองมาตลอด ก็คือ "อย่าทำตัวเป็นพ่อแม่ช่างเปรียบ" เพราะถือเป็นการทำร้ายจิตใจเด็กอย่างร้ายแรง อาจนำไปสู่การเบียดเบียนให้เด็กท้อถอยในชีวิตตามมาได้

        "การเปรียบเทียบ เป็นสิ่งที่ผิดมาก ๆ นะสำหรับคนเป็นพ่อเป็นแม่ ขนาดนิ้วมือคนเรายังไม่เท่ากันเลย ฉะนั้น เราต้องเข้าใจว่า คนเราเกิดมาไม่ได้เก่ง หรือดีเหมือนกันหมด เขาอาจจะมีดีในเรื่องอื่น ๆ ที่เราต้องมองให้เห็น และสนับสนุนเขาอย่างเต็มที่" คุณแม่เย็นจิตเล่า
       
       ไม่เพียงแต่เธอจะเป็นคุณแม่ที่เลี้ยงลูกเท่านั้น เธอยังเป็นยาบรรเทาทุกข์ให้กับลูก ๆ ทุกคนในยามที่มีปัญหา หรือมีเรื่องไม่สบายใจด้วย
       
       "เวลาที่ลูกมีเรื่องไม่สบายใจ หน้าที่เราคือช่วยพยุง และประคองเขา ยกตัวอย่างตอนที่ลูกไปเรียนต่อต่างประเทศ เราเข้าใจดีว่าเขาเหงา และต้องใช้ชีวิตด้วยตัวเอง ซึ่งเราจะไปเยี่ยมเขาเมื่อมีโอกาส รวมทั้งเขียนจดหมาย หรืออีเมลส่งข่าวบอกให้เขารู้ว่าเรายังอยู่ข้าง ๆ คุณนะ สบายใจได้ จะตอบหรือไม่ตอบกลับไม่เป็นไร ขอให้เขารู้ว่า เรารัก และเป็นห่วงเขาก็พอ"


        สำหรับเรื่องการเลือกคบเพศตรงข้าม เป็นสิ่งที่เธอพยายามทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีให้ลูกเห็นว่า การเลือกคบผู้หญิง ต้องเลือกในความพร้อมที่จะเป็นแม่ของลูกในอนาคต ซึ่งต้องมีความรับผิดชอบ รู้จักให้อภัย และปรับตัวเข้าหากันได้ ไม่ใช่มองแค่ว่า สวย และน่ารักอย่างเดียว เพราะหากวันหนึ่งเกิดมีลูกด้วยกัน ถ้าเธอคนนั้นไม่มีความเป็นแม่ที่ดีแล้ว ปัญหาก็จะเกิดตามมา
       
       ด้านสามีในบทบาทคุณพ่อ ถือเป็นตัวช่วยสำคัญในการเลี้ยงลูกเป็นอย่างมาก ซึ่งเธอบอกว่า เขาจะให้ความสำคัญกับดนตรี ศิลปะ และกีฬา เพราะเป็นกิจกรรมที่สามารถทำร่วมกันในครอบครัวได้
       
       "สามีเป็นคนมีวินัย และจะเน้นให้ลูกทั้ง 4 คนเล่นกีฬา ดนตรี และศิลปะ อย่างน้อย ๆ วันเสาร์ หรือวันอาทิตย์ ลูก ๆ จะต้องมีสิ่งเหล่านี้ เพราะเขาอยากให้ลูกได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ มีสุขภาพกาย และสุขภาพใจที่แข็งแรง" เธอเล่าถึงบทบาทของสามี
       
       ถึงวันนี้ แม้ลูกชายคนที่ 2 จะเป็นถึงหนึ่งในศิลปินไทยที่มีชื่อเสียงในเกาหลี แต่ความภูมิใจก็ยังมีความห่วง และความกังวลอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะตัวตนของลูกที่กลัวจะหายไปกับกระแสความดัง และความมีชื่อเสียง
       
       "สิ่งที่แม่กลัว และห่วงลูกก็คือ ความเหลิงจนลืมตัวตนว่าทุกคนก็มีความเป็นมนุษย์เหมือนกัน ดังนั้น แม่จะบอกน้องคุณเสมอ ๆ ว่า เราคือคนคนหนึ่งที่มีโอกาสมากกว่าคนอื่น แต่ในขณะเดียวกัน คุณไม่มีโอกาสไปเหยียบคนอื่น" นี่คือสิ่งที่เธอบอกกับลูกมาตลอด
       
       ดังนั้น คงไม่มีสิ่งใดที่ทำให้พ่อแม่ภูมิใจ และมีความสุขเท่ากับการเห็นลูกเติบโตเป็น "เด็กดี" และเป็น "ที่รัก" ของทุกคน และคงจะไม่เกินไปนักถ้าจะบอกว่า ความสำเร็จของลูก ๆ ในวันนี้เกิดจากความละเอียดในการเลี้ยงลูกในฐานะแม่ของเธอ


ที่มา  http://www.manager.co.th/

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X