สะเทือนใจ! พ่อเป็นเริมจูบลูกทำลูกเสียชีวิต
2014-10-05 16:09:00
Advertisement
คลิก!!!

       อุทาหรณ์เตือนใจคนเป็นเริม ไม่ควรสัมผัสทารกแรกคลอด หลังมีครอบครัวชาวอังกฤษครอบครัวหนึ่งที่ต้องสูญเสียลูกน้อยไปเพราะความประมาทดังกล่าวออกมาเปิดเผยประสบการณ์สุดเศร้าให้โลกได้ทราบ
       
       โดยความประมาทดังกล่าวเกิดขึ้นจากการจูบลูกด้วยความรักของพ่อผู้ให้กำเนิด แต่กลับเป็นการคร่าชีวิตลูกน้อยไปอย่างไม่มีวันกลับ เพราะเชื้อไวรัส “เริม” ได้แพร่จากพ่อสู่ลูกวัยแรกเกิดผ่านการจูบนั้น และพรากชีวิตของเด็กน้อยไปในที่สุด โดยที่เด็กมีอายุได้เพียง 8 สัปดาห์เท่านั้น
       
       โดย Kaiden หนูน้อยเคราะห์ร้ายรายนี้ต้องอยู่ในเครื่องช่วยชีวิตนาน 6 สัปดาห์ก่อนจะจากโลกนี้ไป หลังจากที่ทางครอบครัวพบว่า เมื่อคลอดและกลับมาพักที่บ้านได้สองสัปดาห์ หนูน้อยก็เริ่มมีอาการผิดปกติที่รุนแรงถึงกับหยุดหายใจ จนทำให้ทางครอบครัวต้องรีบเรียกรถพยาบาลมาโดยด่วน และเมื่อไปถึงโรงพยาบาลก็พบว่าเด็กไม่สามารถหายใจได้เองแล้ว
       
       สุดท้ายหลังจากอยู่ด้วยเครื่องช่วยหายใจมานาน 6 สัปดาห์ แพทย์จึงต้องแจ้งแก่พ่อแม่ของเด็กถึงทางเลือกที่เจ็บปวดที่สุด นั่นก็คือการถอดเครื่องช่วยหายใจ เพื่อให้ลูกจากไปอย่างสงบ ซึ่งแม่ของหนูน้อยเล่าว่าในวินาทีที่พ่อและแม่ตัดสินใจจะถอดเครื่องช่วยหายใจนั้น ลูกได้วางมือลงบนมือของเธอคล้ายเป็นคำบอกลา ก่อนจะจากไปอย่างไม่มีวันกลับ
       
       เหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดขึ้นเมื่อเดือนมีนาคมของปีที่ผ่านมา โดยคุณพ่อหัวใจสลายรายนี้มีชื่อว่า Carl Maclaren วัย 34 ปี ทุกวันนี้คุณพ่อท่านนี้ก็ยังเฝ้าโทษตัวเองว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้ลูกเสียชีวิต หากเขาไม่เข้ามาใกล้ลูก หรือไม่มาจูบลูก วันนี้ ลูกน้อยก็คงยังมีชีวิตอยู่ ด้าน Marrie-Claire McCormick ผู้เป็นแม่จึงต้องเศร้าเป็นทวีคูณ ทั้งสูญเสียลูกน้อย และต้องเห็นสามีเฝ้าโทษตัวเองตลอดเวลา อย่างไรก็ดี ครอบครัวดังกล่าวก็กำลังจะมีข่าวดีอีกครั้ง เมื่อผู้เป็นแม่กำลังตั้งครรภ์ทารกเพศหญิงและใกล้จะถึงกำหนดคลอดในไม่ช้านี้
       
       รายงานจากเดลิเมลอ้างด้วยว่า เชื้อไวรัสเริมสามารถติดต่อได้ผ่านทางการจูบ หรือแม้แต่การให้นมบุตร ซึ่งในผู้ใหญ่นั้น อาจมีเชื้อเริ่มอยู่ได้โดยไม่ทำอันตรายต่อร่างกาย แต่สำหรับทารกที่ยังไม่มีภูมิคุ้มกันแล้ว อันตรายมาก ยิ่งในช่วง 6 สัปดาห์แรกของชีวิตยิ่งอันตรายที่สุด
       
       สัญญาณแรกที่อาจสังเกตได้ในช่วงแรกคือ การที่ทารกไม่ยอมดูดนมเหมือนเคย ซึม มีไข้ และ ร้องไห้อย่างไม่ทราบสาเหตุ หากพบว่ามีอาการดังกล่าวควรรีบพาไปพบแพทย์ในทันที
       
       สำหรับไวรัส Herpes simplex virus (HSV) เป็นไวรัสที่รู้จักกันทั่วไปว่าเป็นสาเหตุก่อโรคเริม มี 2 ชนิด คือ Herpes simplex virus type 1 (HSV-1) และ Herpes simplex virus type 2 (HSV-2) ไวรัสทั้งสองชนิดนี้เป็นสาเหตุก่อโรคในคนได้หลายแบบ มีการติดเชื้อเฉพาะที่ (localized infection) และอาจมีการติดเชื้อแบบทั่วไป (systemic infection) พบตั้งแต่ไม่มีอาการโรค จนถึงมีอาการโรครุนแรงมากจนเสียชีวิต
       
       ทั้งนี้สามารถติดต่อเข้าสู่ร่างกายโดยการสัมผัสผู้ป่วยโดยตรงทางผิวหนัง หรือเยื่อบุที่เปิด ทางตา หรือติดต่อผ่านทางเพศสัมพันธ์ และจากมารดาสู่บุตร
 ไวรัสจะเจริญในเซลล์บริเวณที่ได้รับเชื้อนั้น ทำให้เกิดพยาธิสภาพและมีอาการโรคปรากฏ ลักษณะที่พบได้บ่อยมากคือ ตุ่มน้ำใส (vesicle) ขึ้นที่บริเวณที่ติดเชื้อ ในบางรายจะพบรอยโรคนี้กระจายทั่วไปที่อวัยวะต่างๆ และก่อพยาธิสภาพขึ้น เช่นที่ตา ทำให้มีอาการตาแดง เป็นต้น ส่วนใหญ่ในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันปกติ การติดเชื้อมักจะไม่แสดงอาการของโรค มีส่วนน้อยที่จะแสดงอาการของโรคซึ่งมักจะเป็นการติดเชื้อเฉพาะที่ แต่ถ้าผู้ป่วยมีภาวะภูมิต้านทานต่ำ เช่น ทารกแรกคลอด ผู้ที่รับยากดภูมิต้านทาน เชื้อสามารถแพร่เข้ากระแสเลือดไปยังอวัยวะต่างๆ ทำให้เกิดการติดเชื้อแบบทั่วไปได้ 
       
       สำหรับครอบครัวดังกล่าว เมื่อได้มีเวลาเยียวยาแผลใจแล้ว ก็ได้ออกมาเรียกร้องให้หน่วยงานภาครัฐให้ความสำคัญกับการให้ความรู้เกี่ยวกับโรคดังกล่าวให้มากในหมู่พ่อแม่ รวมถึงการให้ความรู้แก่ผู้ป่วยด้วยโรคดังกล่าวว่าควรหลีกเลี่ยงการสัมผัส หรือจูบทารกแรกคลอดโดยเด็ดขาดเพื่อที่จะได้ไม่มีผู้ต้องเผชิญเรื่องน่าเศร้าเช่นนี้อีกนั่นเอง
       
       เรียบเรียงจากเดลิเมล
       อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจากบทความเรื่อง "การติดเชื้อ Herpes simplex virus ในคนไข้ภูมิคุ้มกันบกพร่องและการตรวจวินิจฉัยทางห้องปฏิบัติการ" ของ รองศาสตราจารย์ ดร. ภาวพันธ์ ภัทรโกศล
ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะแพทยศาสตร์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

       ที่มา  http://www.manager.co.th/

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X