คาดว่าสาว ๆ ที่รักการแต่งหน้าจำนวนไม่น้อย ไม่เคยใช้ลิปสติกจนหมดเกลี้ยงทั้งแท่ง ส่วนใหญ่มักจะเหลือลิปสติกก้อนหนึ่งที่โคนแท่งเอาไว้ ที่จะใช้ก็ไม่ค่อยสะดวกเสียแล้ว แต่จะทิ้งไปเลยก็เสียดาย เลยยังคงเก็บเอาไว้อย่างนั้น หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีลิปสติกพวกนี้เก็บไว้และยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับพวกมันดี เคล็ดลับการปรุงชีวิตใหม่ให้กับลิปสติกแท่งเก่าที่กระปุกดอทคอมนำมาฝากกันในวันนี้ จะต้องถูกใจคุณแน่นอนเลยค่ะ

ผู้หญิงทุกคนต่างฝันถึงการมีเวลายามเช้าอย่างเหลือเฟือเพื่อที่จะได้บรรจงแต่งหน้าอย่างตั้งใจ ทว่าความเป็นจริงไม่ได้ใจดีกับสาว ๆ อย่างเราแบบนั้นเลยค่ะ ชั่วโมงยามเช้าที่เร่งรีบ นอกจากจะต้องกันเวลาไว้แต่งหน้าแล้ว ยังมีเวลาสำหรับอาหารเช้า (รวมถึงเตรียมอาหารให้คนรักและลูก ๆ) เวลาที่ต้องแบ่งให้การอาบน้ำแต่งตัว แถมยิ่งทำให้เสร็จได้เร็วเท่าไหร่นั่นก็หมายถึงมีเวลาเผื่อรถติดบนท้องถนนมากขึ้น ไปถึงที่ทำงานเร็วขึ้นด้วย (เอ๊ะ หรือว่าแค่สายน้อยลง ^^") มีเวลานั่งพักผ่อนสบาย ๆ สักครู่หนึ่งก่อนจะเริ่มต้นทำงานในช่วงเช้า ฟังดูแล้วก็รู้สึกว่าเวลายามเช้าทุก ๆ นาทีนั้นแสนมีค่าเสียจริง ๆ จะให้ทุ่มเวลากับการแต่งหน้าอย่างเดียวคงไม่ได้การ แต่จะให้ข้ามขั้นตอนนี้ไปเลยก็ยอมไม่ได้เหมือนกัน ถ้าอย่างนั้นเรามาเรียนรู้เคล็ดลับแต่งหน้ายามเช้าให้เสร็จเร็วทันใจ ใช้เวลาไม่นานด้วยเครื่องสำอางเพียง 4 ชิ้น ไปพร้อม ๆ กันเลยดีกว่าค่ะ

สาว ๆ ที่มีผิวคล้ำ ไม่ต้องน้อยเนื้อต่ำใจที่เกิดมาไม่ขาวสวยเหมือนอย่างใคร ๆ เขา วันนี้กระปุกดอทคอทขอเอาใจสาวที่มีผิวสีน้ำผึ้ง ผิวสองสี ไปจนถึงผิวคล้ำ ด้วยการนำเคล็ดลับการแต่งหน้าให้สวยเริ่ดมาฝาก ขอบอกว่าคุณจะกลายเป็นสาวผิวคล้ำที่ดูมีเสน่ห์น่าหลงใหลไม่แพ้สาวผิวขาวทั้งหลายเลยแหละ ^^

เดี๋ยวนี้หมดสมัยของการแต่งหน้าแบบโบ๊ะเต็มที่จนมองไม่เห็นผิวที่แท้จริงแล้ว เพราะสาว ๆ รุ่นใหม่มองหาอะไรที่เป็นธรรมชาติมากกว่านั้น ด้วยขั้นตอนการแต่งหน้าที่สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องแต่งหน้าตามขั้นตอนเดิมอีกต่อไป ซึ่งบีบีครีม คือผู้ช่วยที่จะทำให้การแต่งหน้าของสาว ๆ เป็นเรื่องง่ายแถมยังประหยัดเวลาอีกด้วย

เครื่องสำอางกับผู้หญิงเป็นของคู่กัน โดยเฉพาะสาว ๆ หลายคน ที่จะแอบเสียความมั่นใจถ้าไม่ได้แต่งหน้าก่อนออกจากบ้าน เช่น สาวหมวยก็ขอกรีดอายไลเนอร์ให้ตากลมโตขึ้น หรือถ้าเป็นสาวหน้ามันก็ขอแอบทาแป้งฝุ่นสักหน่อย เพราะไม่อยากปล่อยให้หน้ามันเยิ้มทอดไข่ได้ ใช่ไหมล่ะ

สาวคนไหนที่มีริมฝีปากเล็กบาง ซึ่งทำให้ทาลิปสติกไม่สวย และฝันว่าอยากมีริมฝีปากอวบอิ่มมีเสน่ห์ให้ได้อย่างดาราสุดฮ็อต แองเจลิน่า โจลี่ บ้าง แม้จะเพียรทาลิปกลอสเต็มพื้นที่ริมฝีปากให้ปากดูฉ่ำ ๆ วาว ๆ หรือค้นหาลิปสติกสีสด ๆ มาทา แต่ว่าเรียวปากก็ยังดูไม่อิ่มเอิบเต็มสวยอย่างใจ ถ้าอย่างนั้นลองมาดูอีกหนึ่งเคล็ดลับแสนง่าย ที่จะช่วยทำให้ริมฝีปากของคุณดูอิ่มสวยได้ทันใจกันนะคะ

เมื่อก่อนนั้นหากสาว ๆ ต้องการทำให้ดวงตาดูคมเข้ม โดดเด่นน่าสนใจมากขึ้น ก็ทำได้ด้วยการใช้ดินสอเขียนขอบตาและการปัดมาสคาร่า ส่วนปัจจุบันนี้ก็นิยมใช้อายไลน์เนอร์แทนนั่นเอง ซึ่งมีทั้งแบบเจล แบบน้ำ และแบบครีม ให้เลือกใช้กันได้ตามสะดวก แต่ในตอนนี้ถ้าใครอยากจะมีดวงตาโดดเด่นแบบไม่ให้ซ้ำกับใคร ๆ ต้องลองเทคนิคการแต่งตาที่เรียกว่า "กราฟฟิก อายไลน์เนอร์" ที่รับรองว่าจะกลายเป็นจุดสะกดสายตาทุกคู่ที่อยู่รอบ ๆ ได้แน่นอน

เมคอัพที่สาว ๆ ติดหนึบมากที่สุดคืออะไรคะ ? ติดมากขนาดที่ว่าต่อให้เวลาน้อยจนไม่พอจะแต่งหน้าขนาดไหน ก็ยังต้องใช้เมคอัพตัวนี้ให้ได้ หรือถ้าให้เลือกเครื่องสำอางติดตัวไปได้แค่หนึ่งชิ้น ก็จะต้องเป็นเจ้านี่แน่นอน หลาย ๆ คำตอบน่าจะเป็น บลัชออน มาสคาร่า และที่ดูจะขาดไม่ได้ก็ต้องมี ลิปสติก รวมอยู่ด้วยแน่นอน สาว ๆ จำนวนไม่น้อยต่อให้หน้าเปลือยขนาดไหนก็ขอทาลิปสติกไว้ก่อน นับเป็นเครื่องสำอางคู่ใจที่ขาดไม่ได้เลยทีเดียว ใครที่คิดว่าจะเลือกลิปสติกให้เป็นเครื่องสำอางคู่ใจของตัวเองบ้าง ลองมาดูคุณสมบัติที่ดีของลิปสติกที่จะมาเป็นเพื่อนคู่ใจของคุณกันค่ะ

เป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้หญิงจะรักการแต่งหน้าทาปาก เพราะไม่ว่าผู้หญิงคนไหนก็อยากดูดี จึงต้องการปกปิดจุดที่ทำให้ไม่มั่นใจ และเสริมจุดที่สวยดูดีให้โดดเด่นขึ้นมา (ใครที่สวยน่ารักได้โดยไม่ต้องแต่งหน้าจึงนับว่าโชคดีมากจริง ๆ) ผู้หญิงอย่างเราจึงคุ้นเคยกับการใช้คอนซีลเลอร์นิด ทารองพื้นหน่อย ตบแป้งตาม แต่งตา ทาปาก ปัดแก้ม เขียนคิ้ว ปัดขนตา ..กรรมวิธีอาจฟังดูยุ่งยากหลายขั้นตอน แต่สาว ๆ หลายคนก็สามารถทำออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ ดูแล้วก็สวยสบายตาดี แต่บางทีคุณผู้หญิงก็หนักมือเกินไปโดยไม่รู้ตัว กลายเป็นคนแต่งหน้าหนา ทาหน้าจัดไปเสียอย่างนั้น เอ้า แล้วทีนี้จะรู้ได้อย่างไรว่าแต่งหน้าขนาดไหนถึงจะเรียกว่าแต่งหน้าจัด มาดูสัญญาณ 5 ประการ ที่บ่งบอกว่าคุณแต่งหน้าจัดเกินไปกันดูค่ะ

สร้างความฮือฮาอยู่ ณ ขณะนี้ กับนวัตกรรมความงามที่กำลังฮิตและมาแรงที่สุดในเมืองไทย นั่นคือวิธีการ "ร้อยไหม"