(5 ต.ค.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าตรู่วันนี้ เกิดเหตุปะทะระหว่างตำรวจและกลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงอีกรอบ โดยมีรายงานว่า ตำรวจปราบจลาจลได้ใช้กระบองและแก๊สน้ำตาเพื่อตอบโต้กลุ่มผู้ประท้วง ในขณะที่กลุ่มผู้นำนักศึกษาได้เริ่มการเจรจากับทางการเกาะฮ่องกงแล้ว

การปะทะดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากกลุ่มผู้เรียกร้องประชาธิปไตยจำนวนหลายหมื่นคนได้ปักหลักประท้วงในย่านการค้าของฮ่องกงใกล้สำนักงานใหญ่ที่ทำการผู้บริหารเกาะฮ่องกงรวมทั้งยังได้ยึดพื้นที่หลายแห่งในฮ่องกงเป็นจุดปักหลักประท้วง เพื่อเรียกร้องให้จีนเปลี่ยนกระบวนการเลือกตั้งผู้ว่าเกาะฮ่องกง ให้มีการเลือกตั้งโดยตรงจากชาวฮ่องกง  

ทั้งนี้ กลุ่มสหภาพนักศึกษาฮ่องกงยังได้ออกแถลงการณ์ เรียกร้องให้รัฐบาลฮ่องกงสอบสวนต่อกรณีตำรวจปล่อยให้กลุ่มที่ต่อต้านประชาธิปไตย ทำร้ายกลุ่มนักศึกษาระหว่างการชุมนุมซึ่งทางการฮ่องกงควรจะชี้แจงเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด โดยเหตุปะทะดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ (3 ต.ค.) ในพื้นที่ 2 เขตใหญ่ โดยกลุ่มคัดค้านการชุมนุมได้ถือธงชาติจีน และได้เข้าปะทะกับกลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตย ด้วยการรื้อสิ่งกีดขวางป้องกันตัวของกลุ่มเรียกร้องประชาธิปไตยฮ่องกง

ขณะเดียวกันตำรวจฮ่องกงได้แถลงข่าวยืนยันว่าตำรวจฮ่องกงไม่ได้จ้างสมาชิกแก๊งอั้งยี่เข้ามาเป็นกลุ่มคัดค้านการประท้วงและใช้เป็นเครื่องมือปะทะกับกลุ่มผู้เรียกร้องประชาธิปไตยฮ่องกง โดยจากเหตุการณ์ปะทะกันเมื่อวันศุกร์ ระหว่างทั้งสองกลุ่ม ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 12 ราย รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ 6 รายด้วย

อย่างไรก็ตาม ยังได้เกิดกระแสการกล่าวหาอย่างกว้างขวางว่า มีการลวนลามและล่วงละเมิดทางเพศต่อนักศึกษาหญิงที่เข้าร่วมการชุมนุมประท้วงครั้งนี้โดยสมาชิกกลุ่มผู้ชุมนุมอ้างว่า ได้เห็นตำรวจใช้ผ้าคลุมตัวนักศึกษาหญิง 3 ราย ที่อยู่ในสภาพร้องไห้ขึ้นรถตำรวจ ซึ่งเชื่อว่านักศึกษาทั้งสามได้ถูกกระทำการล่วงละเมิดทางเพศระหว่างร่วมชุมนุมในย่านคอสเวย์ เบย์

ที่มา  มติชนออนไลน์