หนทางที่ดีที่สุดในการปกป้องผิวไม่ให้ถูกทำร้ายจากแสงแดดก็คงไม่พ้นหลบแดด ให้มากที่สุด เดินภายใต้หลังคากำบังหรือกางร่ม รวมทั้งทาครีมกันแดดด้วยเสมอ โดยเฉพาะแดดในช่วง 11-13 นาฬิกานั้นแสนจะจัดจ้า และร้อนตับแล่บอย่าบอกใคร แต่จะบอกให้ว่าวิธีการป้องกันผิวจากรังสียูวีที่มีอยู่ในแสงแดดนั้น ไม่ได้ทำได้เฉพาะเรื่องการหลบแดดและทาครีมเท่านั้น หากรู้จักเลือกรับประทานอาหารก็จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของผิวให้สู้ รังสีที่จะมาทำร้ายได้เหมือนกันค่ะ เรื่องนี้รับรองมาแล้วโดยสมาคมแพทย์ผิวหนังของแห่งประเทศอังกฤษ ถ้าอย่างนั้นลองมาดูกันหน่อยดีกว่าว่าจะมีอาหารแบบไหนบ้างที่ช่วยปกป้องผิว สวย ๆ ของเราจากรังสียูวีในแสงแดดได้

         มะเขือเทศ

          สุดยอดอาหารผิวสวย ได้แก่ มะเขือเทศ สีแดงสุกปลั่งของมันเป็นแหล่งของไลโคปีน ซึ่งเป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ที่จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับผิวได้ โดยการกินมะเขือเทศบดวันละ 5 ช้อนโต๊ะ จะช่วยให้ผิวมีความแข็งแรง ต้านแสงแดดได้เท่ากับค่า SPF 1.3 โดยประมาณ

          นอกจากนี้ การกินมะเขือเทศยังช่วยเพิ่ม "โปรคอลลาเจน" ซึ่งเป็นต้นเค้าของคอลลาเจน ทำให้ผู้ที่รับประทานมะเขือเทศเป็นประจำมีผิวที่อ่อนเยาว์ ริ้วรอยตีนกาและความร่วงโรยจะมาเยือนช้ากว่าคนทั่วไปด้วยนะคะ

         ผักผลไม้สีส้ม

          ผักผลไม้ที่มีสีส้มต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น แครอท มันเทศ มะม่วง แอปริคอต เมล่อน แคนตาลูป รวมไปถึงผักใบเขียวปี๋อย่าง ผักโขม วอเตอร์เครส บรอกโคลี ฯลฯ ล้วนอุดมไปด้วยสารแอนตี้ออกซิแดนท์ที่มาในรูปของ เบต้าแคโรทีน ซึ่งนักวิจัยจากเยอรมันกลุ่มหนึ่งได้ทดลองมาแล้วว่าการรับประทานอาหารเสริม ที่มีเบต้าแคโรทีนเป็นเวลา 10 สัปดาห์ติดต่อกัน ช่วยให้ผิวแข็งแรงต้านทานกับรังสียูวีในแสงแดดได้ดีขึ้น และมันจะดีกว่าแค่ไหนถ้าเรารับประทานมันได้จากผักผลไม้สด ๆ จริงไหมคะ
 

         อาหารอุดมวิตามินซี

          ผลไม้กลุ่มซิตรัส ผลไม้ตระกูลเบอร์รีต่าง ๆ แบล็คเคอร์แรนท์ กีวี นั้นอุดมไปด้วยวิตามินซีที่พิสูจน์มาแล้วว่าทำให้ผิวแข็งแรง ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยอันเป็นผลอย่างหนึ่งจากการปะทะแสงแดดบ่อย ๆ ได้

         อาหารอุดมวิตามินอี

          อาหารที่อุดมได้ด้วยวิตามินอี เช่น จมูกข้าวสาลี ถั่วต่าง ๆ ธัญพืช อะโวคาโด น้ำมันเมล็ดทานตะวัน น้ำมันข้าวโพด ฯลฯ จะช่วยลดความรุนแรงที่แสงแดดเข้าทำร้ายผิว ถึงปกป้องไม่ได้เสียทีเดียว แต่ก็ช่วยผ่อนหนักเป็นเบาได้ แถมมันยังมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่จะแทรกซึมเข้าไปที่ชั้นผิวเพื่อปกป้องผิว จากการถูกทำร้ายต่าง ๆ รวมทั้งไขมันเหล่านี้ยังช่วยให้ร่างกายเราดูดซึมไลโคปีน และเบต้าแคโรทีนได้ดีขึ้นด้วย

         ถั่วบราซิล

          เมล็ดถั่วบราซิล มีคุณประโยชน์ให้ธาตุเซเลเนียมสูง (selenium) นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเอดินเบิร์กพบว่า ผิวที่ได้รับธาตุเซเลเนียมจะทนต่อการถูกทำร้ายจากรังสียูวีได้มากกว่าผิวที่ ไม่ได้รับเซเลเนียมเลย และแนะนำว่าการรับประทานให้ร่างกายได้ธาตุเซเลเนียมวันละ 200 ไมโครกรัม หรือประมาณถั่วบราซิล 10 เมล็ด ก็เพียงพอให้ผิวสุขภาพดีขึ้นแล้ว ส่วนแหล่งธาตุเซเลเนียมจากอาหารอื่น ๆ ก็ยังมีจาก ไข่ ปลา และหอย กุ้ง ปู ต่าง ๆ เช่นกัน

         ผักใบเขียว

          พลพรรคพืชผักสีเขียวอย่างผักโขม กะหล่ำดาว คะน้า บรอกโคลี ถั่วฝักสีเขียว ไม่เพียงมีเบตาแคโรทีนที่ช่วยปกป้องทั้งผิวและดวงตา แต่ยังมีสารลูเทอิน และซีแซนธิน (lutein และ zeaxanthin) ที่จะช่วยเพิ่มความแข็งแรง ปกป้องดวงตาจากแสงจ้าได้ จะว่าไปก็เป็นเหมือนแว่นกันแดดธรรมชาตินั่นเอง

         ชาเขียว

          ในชาเขียวมีสารที่ชื่อว่า "คาเทชิน" (catechins) โดยพบว่าผู้ที่ดื่มชาเขียวทุกวันเป็นประจำนานอย่างน้อย 12 สัปดาห์ จะมีความแข็งแรงของผิวเพิ่มขึ้น ต้านทานการถูกทำร้ายจากรังสียูวีในแสงแดดได้มากกว่าคนทั่วไปถึง 25% เลยทีเดียว

         ดาร์กช็อกโกแลต

          ใครที่ชอบกินช็อกโกแลตเป็นชีวิตจิตใจได้ยินแล้วคงยิ้มแก้มปริ แต่ช็อกโกแลตที่ว่านี้ต้องเป็นดาร์กช็อกโกแลตขม ๆ เข้ม ๆ เท่านั้นนะจ๊ะ จากการศึกษาของนักวิทยาศาสตร์จากลอนดอนพบว่า การกินดาร์กช็อกโกแลตวันละ 20 กรัม บวกกับดื่มโกโกที่ชงจากผงโกโก้เข้มข้นอีกวันละ 1 ถ้วย เป็นเวลา 12 สัปดาห์ ผิวจะแข็งแรงขึ้นมากกว่าเมื่อเทียบกับผู้ที่กินช็อกโกแลตธรรมดา ทั้งยังทนรังสียูวีบีได้มากกว่าถึง 2 เท่าเลยทีเดียวเชียว เคล็ดลับความหมัศจรรย์ของมันก็ไม่ใช่อะไรที่ไหน แต่เป็นสาร "โฟลวานอยด์" ที่พบได้ในโกโก้นั่นเองค่ะ


          เห็นอย่างนี้แล้วก็หายสงสัยว่าการกินให้ผิวสวยนั้นเป็นเรื่องที่ได้ผลจริง ทั้งบำรุงผิวพรรณให้สดใสเปล่งปลั่งโดยตรง แล้วยังทำให้ผิวแข็งแรงต้านทานแสงแดดได้ดีขึ้น แต่อย่างไรก็ดีการกินเพื่อต้านทานแสงแดดและรังสีก็ยังนับว่าได้ผลเป็นสัด ส่วนน้อยนิดหากเทียบกับวิธีทาครีมกันแดด กางร่ม หลบแดด และแต่งตัวมิดชิด เพราะฉะนั้นถึงกินแต่ของมีประโยชน์แล้วแต่ก็ยังต้องทาครีมและหลบแดดอยู่นะคะ หากแต่ว่าครั้งนี้เมื่อผิวคุณแข็งแรงก็จะถูกทำร้ายน้อยลง ฟื้นฟูตัวได้ไวขึ้น และผิวสวยขึ้นกว่าเก่าได้แน่นอน :)

ข้อมูลจากกระปุกดอทคอม