เมื่อไม่นานมานี้ อีจูมยอง (Lee Joo Myung) ได้ร่วมพูดคุยกับสำนักข่าว Newsen เกี่ยวกับซีรีส์เรื่องล่าสุดของเธอ Twenty Five, Twenty One
คลิก!!!
|
Twenty Five, Twenty One เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงปลายปี 1990 ของผู้คนวัยหนุ่มสาวที่ต้องเจอกับเรื่องราวมากมาย ทั้งความรัก ความฝัน ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจ IMF คิมแทรี (Kim Tae Ri) รับบทเป็น นาฮีโด นักกีฬาฟันดาบที่มุ่งมั่นทำตามความฝันของเธอ ร่วมกับ นัมจูฮยอก (Nam Joo Hyuk) รับบทเป็น แพคอีจิน นักข่าวหนุ่มที่ครอบครัวต้องแยกย้ายกันไปคนละทิศคนละทางเนื่องจากล้มละลาย ซีรีส์เรื่อง Twenty Five, Twenty One ออกอากาศตอนสุดท้ายไปเมื่อวันที่ 3 เมษายน และได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากผู้ชม
อีจูมยอง รับบทเป็น จีซึงวาน ในเรื่อง Twenty Five, Twenty One ตัวละครของเธอเป็นคนซื่อตรง หัวหน้าห้อง และอันดับ 1 ของโรงเรียน เธอพูดถึงตัวละครของตัวเองว่า “ตอนที่ไปออดิชั่นครั้งแรกและได้รับบทละคร แม้ว่าจะเคยไปออดิชั่นมาหลายครั้ง แต่ฉันคิดว่าไม่เคยเห็นบทที่สนุกและมีเสน่ห์แบบนี้มาก่อน ฉันรู้สึกกังวลมากขึ้น ฉันไปออดิชั่นด้วยความคิดที่ว่าอยากทำออกมาให้ดีและแสดงในฐานะซึงวาน”
เธอพูดต่อ “แม้ว่า [ซึงวาน] จะยังเป็นเด็ก แต่ฉันอิจฉาที่เธอสามารถซื่อตรงได้มากกว่าฉันตอนที่เธอบอกความรู้สึกของตัวเองและฉันคิดว่ามันคือเสน่ห์ค่ะ นอกจากนั้นแล้วฉันชอบที่เธอทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่แล้วก็ทำตามความฝันไปด้วย”
เนื่องจากซีรีส์ได้รับความนิยมมาก ทำให้ผู้ชมหลายคนมีส่วนร่วมและจินตนาการเนื้อเรื่องเอาเอง อย่างเช่นคิดว่า แพคอีจิน และ โกยูริม (รับบทโดย โบนา (Bona) วง WJSN)) อาจเสียชีวิต หรือสุดท้ายตัวละครของเธอจะลงเอยกับ มุนจีอุง (รับบทโดย ชเวฮยอนอุค (Choi Hyun Wook)) รวมไปถึงมีข้อความฆ่าตัวตายของโยนออฟอาร์คของจีซึงวานที่ทำให้ผู้ชมคิดไปไกลกว่าเดิม อีจูมยองได้พูดถึงทฤษฎีเหล่านี้ว่า “ฉันคิดว่าเสน่ห์ของเนื้อเรื่องคือมีการจัดฉากเรื่องข้อความฆ่าตัวตาย ซึ่งทำให้น่าสนใจมากขึ้นค่ะ”
อีจูมยองบอกว่าซีรีส์โฟกัสการเล่าเรื่องในมุมมองที่สมจริงของคนรุ่นมิลเลนเนียล “เพราะว่ามันเป็นพื้นฐานของเรื่อง และการเล่าเรื่องก็สนุกและชาญฉลาด ฉันเลยไม่ได้คาดว่าจะมีข่าวลือเกี่ยวกับเรื่องการตายของตัวละครเกิดขึ้นค่ะ ฉันคิดว่าผู้ชมก็คงดูซีรีส์ด้วยความรู้สึกที่คิดว่ามันเยียบยลเหมือนกัน ฉันคิดว่ามันน่าสนใจที่ซีรีส์ทำให้ผู้ชมคิดแบบนั้นได้ และฉันก็เข้าใจว่ามันมีสิ่งที่สามารถทำให้ตีความแบบนั้นได้ ฉันคิดว่าเพราะเนื้อเรื่องมีสิ่งที่น่าสนใจเยอะ และคนรับชมมันด้วยมุมมองที่หลากหลาย เรื่องแบบนี้ก็สามารถเกิดขึ้นได้ และมันน่าทึ่งค่ะ”
ตอนจบของ Twenty Five, Twenty One ได้รับกระแสตอบรับที่หลากหลาย อีจูมยองพูดถึงเรื่องนี้ว่า “มีความเห็นหลากหลายมากเลยค่ะ ตอนที่ได้รับบทซีรีส์ [ตอนสุดท้าย] ฉันชอบที่มันคือความสมจริง ฉันชอบบทสนทนาในฉากของแพคอีจินและนาฮีโดในตอนที่ 16 และเพราะมันสมจริงมันเลยทำให้ฉันชอบมันมากยิ่งขึ้น ฉันรู้ค่ะว่ามีหลายคนคงคิดว่าดีกว่าถ้าจบแบบแฮปปี้แอนดิ้งหรือมีตอบจบแบบอื่น แต่ฉันคิดว่านักเขียนบทเขียนให้มันเป็นตอนจบแบบปลายเปิดค่ะ”
เมื่อถามอีจูมยองว่า คิดว่า จีซึงวานจะเป็นอย่างไหร่ในปี 2022 อีจูมยองบอกว่า “ฉันได้คุยกับนักเขียนบทเยอะมากเลยค่ะ ซึงวานชอบอะไรที่สนุก ทำให้ [นักเขียนบท] คิดว่าเธอน่าจะเป็น พีดี เหมือนกับ พีดีนายองซอก และฉันเห็นด้วยแบบ 100% ความตลกของพีดีนายองซอกนั้นแตกต่างและเขามีไหวพริบ พอได้เห็นข้อความความคิดของเขา ฉันคิดว่าเขาคล้ายกับซึงวานมากเลยค่ะ”
อีจูมยองปิดท้ายบทสัมภาษณ์ด้วยการพูดถึงความหมายของ Twenty Five, Twenty One และตัวละครจีซึงวานที่มีต่อเธอ “เพราะว่ามันเป็นโปรเจคที่ทำให้ฉันได้รับความรักมากมาย ฉันคิดว่าคงจะจดจำมันไปอีกนานเท่านานเลยค่ะ”
“ฉันคิดเยอะมากเกี่ยวกับตัวละครของซึงวาน” และบอกว่าคิดถึงตัวละครของเธอขณะดูรายการ Street Woman Fighter และรายการ มุกบัง (โชว์กินอาหาร) “จนถึงตอนนี้ บางครั้งฉันยังถามตัวเองอยู่เลยว่า ‘ซึงวานจะทำอะไร?’ ฉันคิดว่าน่าจะจำบทนี้ในฐานะวัยรุ่นครั้งที่ 2 ของฉันค่ะ”
เธอได้ส่งข้อความถึงผู้ชมว่า “เพราะว่านี่คือความรู้สึกว่ามาถึงตอบจบของเราจริงๆ ฉันเลยอ่อนไหวนิดหน่อยค่ะ ฉันอยากจะบอกว่าขอบคุณที่ฟังและรับชมซีรีส์ของเราที่เหมือนกับเป็นเรื่องของคนข้างบ้าน และรัก ชอบ และเข้าถึงมันค่ะ ฉันจะทำงานให้หนักขึ้นเพื่อจะได้กลับมาเจอคุณด้วยความสนุกที่มากขึ้นและภาพลักษณ์ที่ต่างออกไป ฉันหวังว่าคุณจะติดตามกันนะคะ และขอบคุณอีกครั้งค่ะ”