ผลการสำรวจพบว่าญี่ปุ่นไม่ใช่ประเทศที่มีค่าครองชีพแพงติดอันดับ 1 ใน10 ของโลกอีกต่อไปเนื่องจากค่าเงินเยนที่ลดลงอย่างมาก โดยค่าครองชีพในกรุงโตเกียวยังถูกกว่าฮ่องกง สิงคโปร์ เซี่ยงไฮ้ และปักกิ่ง
|
|
คลิก!!!
|
ผลการสำรวจค่าครองชีพในเมืองต่างๆทั่วโลกของบริษัท Mercer ซึ่งทำธุรกิจที่ปรึกษาด้านการจ้างงาน พบว่า กรุงโตเกียว เมืองหลวงของญี่ปุ่นที่เคยมีค่าครองชีพสูงอันดับที่ 7 ของโลกเมื่อปีที่แล้ว ได้หล่นไปอยู่ในอันดับที่ 11ในปีนี้ ขณะที่นครโอซากาก็มีอันดับค่าครองชีพลดลงจากที่ 23 ในปีที่แล้ว เป็นที่ 32 ในปีที่นี้ ส่วนเมืองนาโกยา มีค่าครองชีพสูงเพียงแค่อันดับ 80 จาก 207เมืองสำคัญทั่วโลก
ทั้งนี้ในการสำรวจในอดีต เมืองสำคัญของญี่ปุ่นล้วนติดอันดับ1 ใน 10 เมืองที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดในโลก โดยเฉพาะกรุงโตเกียวเคยครองอันดับ 1 ต่อเนื่องกันมานานหลายปี
การสำรวจของบริษัท Mercer เป็นการเทียบค่าครองชีพในด้านต่างๆ 200 รายการ เช่น ค่าเช่าบ้าน, ค่าเดินทาง , ค่าอาหาร และของใช้ในชีวิตประจำวัน โดยเปรียบเทียบกับนครนิวยอร์กของสหรัฐฯ
ร้านค้าในญี่ปุ่นต่างลดราคาเพื่อแย่งชิงลูกค้า
ค่าครองชีพในเมืองสำคัญของญี่ปุ่นลดลงอย่างมาก เนื่องจากค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลงเป็นประวัติการณ์จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของนายกรัฐมนตรีชินโสะ อะเบะ
โดยเมื่อเปรียบเทียบแล้ว ค่าครองชีพในญี่ปุ่นยังถูกกว่าหลายเมืองของประเทศจีน เช่น ฮ่องกง (อันดับ2), เซี่ยงไฮ้ (อันดับ6), ปักกิ่ง(อันดับ7) รวมทั้ง สิงคโปร์ (อันดับ4) และกรุงโซลของเกาหลีใต้ (อันดับ8 ) ส่วนกรุงเทพฯ มีค่าครองชีพแพงขึ้นกว่าปีที่แล้ว แต่ก็ยังอยู่ในลำดับที่ 45
ส่วนเมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลกจากการสำรวจของบริษัทที่ปรึกษาแห่งนี้ คือ เมืองลูอันดา ประเทศแองโกล่า เนื่องจากสินค้าแทบทุกอย่างต้องพึ่งพาการนำเข้า และค่าใช้จ่ายในการดูแลความปลอดภัยในชีวิตก็สูงอย่างยิ่ง
ขอขอบคุณที่มา http://manager.co.th/
