ประธานบริษัทในญี่ปุ่นแห่งหนึ่งยื่นฟ้องเจ้าของอาคารสำนักงานและผู้ผลิตสุขภัณฑ์ หลังพบว่าโถปัสสาวะรุ่นใหม่ ทำให้ปัสสาวะกระเด็นเปรอะเปื้อนกางเกงมากกว่าปกติ
|
|
คลิก!!!
|
ประธานบริษัทชาวญี่ปุ่นรายนี้ ได้เช่าอาคารสำนักงานแห่งหนึ่งในนครโอซากามานาน 9 ปี จนกระทั่งในเดือนพฤษภาคม ทางอาคารได้ปรับปรุงห้องน้ำใหม่ โดยติดตั้งโถปัสสาวะรุ่นใหม่ที่มีขนาดแคบลงกว่าเดิม โดยหลังจากได้ใช้ปลดทุกข์มาระยะเวลาหนึ่ง ท่านประธานรู้สึกว่าโถปัสสาวะรูปทรงเพียวบางแบบใหม่นี้ทำให้ปัสสาวะกระเด็นเปรอะเปื้อนกางเกง สร้างความหงุดหงิดให้กับเขาอย่างมาก
เพื่อพิสูจน์สมมุติฐานว่าโถปัสสาวบกพร่องจริง ท่านประธานถึงกับจดบันทึกจำนวนครั้งที่ปัสสาวะกระเด็น และเมื่อครบ 100 ครั้งเขาจึงตัดสินใจร้องเรียนไปยังเจ้าของอาคารและบริษัทผู้ผลิตสุขภัณฑ์
หลังได้รับเรื่องร้องเรียน ทางบริษัทผู้ผลิตสุขภัณฑ์ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาหารือกับท่านประธาน ซึ่งนักธุรกิจหนุ่มได้พาเจ้าหน้าที่ไปยังห้องน้ำชาย พร้อมสาธิตให้ดูโดยสาดน้ำเข้าไปที่โถปัสสาวะ เพื่อพิสูจน์ให้เห็นกับตาว่าโถปัสสาวะมีปัญหาจริงๆ
ทางบริษัทผลิตสุขภัณฑ์ ระบุว่า ไม่สามารถรับประกันได้ว่าโถปัสสาวะจะไม่มีการกระเด็น แต่เจ้าหน้าที่จะติดตั้งเครื่องหมายที่ด้านในของโถปัสสาวะ เพื่อเป็นเป้าหมายให้ผู้ใช้งานเล็งองศาที่จะทำให้ปัสสาวะกระเด็นน้อยที่สุด นอกจากนี้ทางบริษัทยังได้เปลี่ยนโถปัสสาวะใหม่เป็นรุ่นที่มีระบบน้ำไหลอัตโนมัติ ที่คาดว่าจะช่วยลดการเปรอะเปื้อนได้
หลังปรับปรุงโถปัสสาวะใหม่ ท่านประธานบริษัทพบว่ายังมีการกระเด็นอยู่ถึงแม้จะน้อยลงก็ตาม จึงยืนยันให้ทางเจ้าของอาคารเปลี่ยนโถปัสสาวะกลับไปเป็นแบบรุ่นเก่าที่มีขนาดใหญ่ แต่ทางเจ้าของอาคาร ระบุว่าโถปัสสาวะรุ่นเดิมนั้นยกเลิกการผลิตไปแล้ว จึงไม่สามารถหามาเปลี่ยนให้ได้
ท่านประธานจึงตัดสินใจฟ้องร้องเจ้าของอาคารและผู้ผลิตสุขภัณฑ์ต่อศาลเมืองโอซากา โดยเรียกค่าชดเชย 1ล้าน 1แสนเยน และจะระงับการจ่ายค่าบำรุงรักษาอาคารจนกว่าจะได้รับการเปลี่ยนโถปัสสาวะใหม่ โดยเขายังได้แนบผลการทดลองด้วยตัวเองว่า โถปัสสาวะรุ่นนี้ทำให้มีการกระเด็นเปรอะเปี้อนเพิ่มขึ้นจาก 44 ครั้ง เป็น 99 ครั้ง
ทั้งนี้ ศาลได้ตัดสินว่า การทดลองของท่านประธานนั้นไม่อาจพิสูจน์ได้ว่าการกระเด็นเปรอะเปื้อนนั้นเกิดขึ้นเพราะการออกแบบโถปัสสาวะจริงหรือไม่? อย่างไรก็ตาม นักธุรกิจหนุ่มใหญ่ผู้อับอายจากปัสสาวะกระเด็นเปรอะเปื้อน ระบุว่าจะยื่นอุทธรณ์ต่อศาลสูงนครโอซากาต่อไป
ขอขอบคุณที่มา http://manager.co.th/
