บริษัทผู้ผลิตอาหารของญี่ปุ่นขึ้นราคาสินค้าในปีงบประมาณใหม่วันที่ 1 เมษายน โดยอ้างว่าได้รับผลกระทบจากจากค่าเงินเยนที่อ่อนลง และต้นทุนที่แพงขึ้น

คลิก!!!

บริษัทผลิตอาหารรายใหญ่ของญี่ปุ่นอย่างเมจิและเม็กมิลก์ สโนว์แบรนด์ ประกาศขึ้นราคาผลิตภัณฑ์จากนม โยเกิร์ต เนย และชีส ร้อยละ 2-8 ตั้งแต่วันพุธที่ 1 เมษายน ซึ่งเป็นวันเริ่มต้นปีงบประมาณใหม่ของธุรกิจในญี่ปุ่น

เมจิยังระบุว่า ทางบริษัทวางแผนจะขึ้นราคาผลิตภัณฑ์ช็อกโกแลตบางรายการ หรือลดปริมาณลงโดยคงราคาไว้เท่าเดิมด้วย เริ่มตั้งแต่กลางเดือนเมษายน

จากการสำรวจในซุปเปอร์มาเก็ต พบว่า สินค้าที่ขึ้นราคาส่วนใหญ่เป็นหมวดอาหาร เช่น นม, น้ำมันพืช, กาแฟสำเร็จรูป, ซอสปรุงรส รวมทั้งอาหารแปรรูปต่างๆ มีราคาแพงขึ้นราวร้อยละ 4-13

สำนักข่าว NHK ได้สัมภาษณ์คุณฮิเดะโอะ คุมะโนะ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์แห่งสถาบันวิจัยบริษัทประกันชีวิตไดอิชิ ซึ่งอธิบายสาเหตุที่สินค้าญี่ปุ่นหลายประเภทขึ้นราคา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าอาหารว่าเป็นเพราะค่าใช้จ่ายการนำเข้าสินค้าเพิ่มขึ้น เนื่องจากมูลค่าเงินเยนลดลงราวร้อยละ 16 ตั้งแต่เดือนมีนาคมปีที่แล้ว เงินเยนที่อ่อนค่าลงทำให้ต้นทุนการนำเข้าของบรรดาผู้ผลิตอาหารหลายรายสูงขึ้น โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์นมเป็นสินค้าอย่างหนึ่งที่ขึ้นราคามากที่สุด เพราะญี่ปุ่นพึ่งพาการนำเข้าอาหารสัตว์ที่ใช้เลี้ยงวัว ดังนั้นเมื่อเงินเยนอ่อนค่าทำให้ราคาอาหารสัตว์แพงขึ้น ซึ่งทำให้ราคานมแพงขึ้นด้วย

นโยบายเศรษฐกิจของนายกฯชินโส อะเบะ ที่กดค่าเงินเยนให้ต่ำลงเป็นประวัติการณ์ ทำมให้บรรดาผู้ส่งออกของญี่ปุ่นมีกำไรมหาศาล หากแต่สินค้าที่ต้องนำเข้า โดยเฉพาะอาหารได้แพงขึ้นตั้งแต่ราวเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว และแนวโน้มนี้จะดำเนินต่อไป

ราคาอาหารที่เพิ่มขึ้นอาจจะทำให้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลง เศรษฐกิจจะได้รับความเสียหายหากผู้บริโภคไม่ยอมใช้จ่ายเงิน

อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบโลกที่ลดต่ำลงเป็นประวัติการณ์เช่นเดียวกัน โดยราคาเมื่อเดือนมีนาคมอยู่ที่ราว 50 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ได้ช่วยบรรเทาผลกระทบต่อเศรษฐกิจของญี่ปุ่นไว้ได้ในระดับหนึ่ง ถึงแม้ราคาสินค้าอาหารและสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิตจะเพิ่มขึ้นก็ตาม

ขอขอบคุณที่มา http://manager.co.th/