กระแสการ์ตูนที่ดังอย่างรวดเร็วเรื่องหนึ่งของญี่ปุ่นคงหนีไม่พ้น “進撃の巨人” Attack on titanชื่อไทย ผ่าพิภพไททั่น เรื่องราวการต่อสู้ของมนุษยชาติกับสิ่งมีชีวิตปริศนาที่เรียกว่า “ไททั่น” ที่ดังเป็นพลุแตก ในเวลาอันสั้นก็สามารถผลิตออกมาทั้งในรูปแบบอนิเมชั่นซึ่งจบภาค1 ไปแล้ว ส่วนภาค2 แฟนๆ ก็กำลังติดตามรอคอยกันอยู่และภาพยนตร์ที่กำลังดำเนินการสร้างอยู่ ดังสำนวน “น้ำขึ้นให้รีบตัก” สินค้าและการตลาดของเรื่องนี้มาแรงมากจนหยุดไม่อยู่

คลิก!!!

ดาบที่ใช้กำจัดไททั่น…..

กลายมาเป็นเคสไอโฟน5/5s

มีด้ามปลดล็อคฝากล้องไอโฟน เสียบหูฟังสายชาร์จ กดปุ่มเพิ่มลดเสียงด้านข้างได้ตามปกติ แต่ใส่ใบมีดด้านบนไม่ได้นะ!

ร้านสะดวกซื้อ LAWSON ของญี่ปุ่นก็ได้วางจำหน่ายสินค้าของเรื่องไททั่นออกมาครอบคลุมทุกหมวดหมู่ไม่ว่าจะเป็นของกิน ของใช้ หรือแม้กระทั่งผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับความงาม

โยเกิร์ตที่มาพร้อมกับแก้วพิมพ์ลายตัวการ์ตูน

ช็อคโกแลตที่รู้สึกถึงพลังในการต่อสู้

มันฝรั่งทอดกรอบที่ใช้ซาช่า ตัวละครที่มีนิสัยกินเก่งเป็นตัวหลักบนถุงซอง

ทิชชู่กล่องสกรีนลายไททั่น เวอร์ชั่นน่ารักกับเวอร์ชั่นจริงจัง

ผลิตภัณฑ์เพื่อความสวยงามอย่างกระดาษเปียกเช็ดเหงื่อดับกลิ่น กระดาษซับหน้ามัน หรือ ลิปบาล์มก็มี

สำหรับผู้ปกครองที่เป็นห่วงว่าลูกหลานจะเอาแต่อ่านการ์ตูนขอแนะนำให้ใช้พลังความหมกมุ่น? ที่มีเต็มเปี่ยมนั้นให้เป็นประโยชน์โดยการดึงเข้าไปทางเรื่องเรียน สมุดโน้ตไททั่นที่มีออกมาหลายเซทอาจทำให้เด็กๆ อยากใช้สมุดนี้จดอะไรต่อมิอะไรจนมือสั่นเลยก็เป็นได้

โปรเจคสวนสนุก Universal Cool Japan โอซาก้า ก็เปิดโซนพิเศษที่นำการ์ตูนดังมาแสดงเรื่อง Attack on titan เองก็ได้รับเลือกมีทั้งโซนหุ่นโชว์ยักษ์ไททั่นและหุ่นของตัวละครดังขนาดเท่าคนจริง

งานนี้เปิดระยะเวลาจำกัดแค่ช่วง23มกราคม-10พฤษภาคม 2015 เท่านั้นใครจะไปก็ขอให้ไว

ตัวการ์ตูนที่ได้รับความนิยมอย่างท้วมท้นชนิดที่ว่าดังเกินตัวเอก “รีไวล์” ก็มาถึงขั้นได้ขึ้นปกนิตยสารสำหรับผู้หญิง

ไม่ว่าจะเป็นตัวละครหรืออุปกรณ์ในเรื่องทุกสิ่งสามารถหยิบจับนำมาทำสินค้าและเปิดตลาดการท่องเที่ยวดึงดูดผู้คนจากทั่วโลกได้

ต้องยอมรับว่าอุตสาหกรรมมังงะของญี่ปุ่นเป็นเรื่องที่น่าสนใจและมีอิทธิพลกับการตลาดเศรษฐกิจของญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก ถ้า Attack on titan อนิเมชั่นภาค2ออกมาก็น่าติดตามเหมือนกันว่าจะมีการตลาดที่น่าสนใจอย่างไรออกมากันอีก

เรื่องโดย : AME.dama www.marumura.com

ขอขอบคุณที่มา http://www.marumura.com/