จาก Hotel Del Luna ถึงพระพุทธรูปอุลตราแมน
2019-09-19 09:40:39
Advertisement
Pyramid Game

 

ดูซีรีส์เกาหลีมาหลายปี คุณมี “คนเขียนบท” ในดวงใจบ้างหรือเปล่าคะ?

ถ้าถามความเห็นส่วนตัว หนึ่งในผู้เขียนบทที่ได้รับความไว้วางใจจากเราเสมอ ก็คือ “ฮงซิสเตอร์” (Hong Sisters) สองพี่น้องฮงจองอึน และฮงมีรัน ค่ะ พวกเธอได้ชื่อว่าเป็น “เจ้าแม่ซีรีส์โรแมนติกคอเมดี้” พอได้ยินคำนี้ในยุคที่เกาหลีใต้เป็นประเทศสุดชิค ร่ำรวยวัฒนธรรม K-POP ก็คงไม่ได้รู้สึกพิเศษอะไร แต่ลองย้อนเวลากลับไปสักเกือบ 20 ปีก่อนสิคะ ซีรีส์และภาพยนตร์เกาหลียุคนั้น ยังผูกติดกับความ “บัลลาด” โศกนาฏกรรมความรักต่างๆ ปีหนึ่งๆ มีพระเอกนางเอก(ตามท้องเรื่อง) เป็นลูคีเมีย หรือมะเร็งในสมองตายไปกี่คน และยิ่งถ้าย้อนดูซีรีส์และภาพยนตร์ยุคเก่ากว่านั้น ก็จะเจอพล็อต ความรักต้องห้าม หรือรักที่ถูกพรากจากด้วยสงคราม ซึ่งก็ไม่แปลก เนื่องจากประวัติศาสตร์เกาหลีเองก็มีครรลองเช่นนั้นมาทุกยุคทุกสมัย

กวีญี่ปุ่นท่านหนึ่งขนานนามความรู้สึกงดงามปนขื่นขมระทมดวงใจ สไตล์เกาหลีว่า “ฮัน” (มาจากรากศัพท์คำว่า 恨 (เหิ้น) คนละคำกับ “ฮัน” 韩 (หาน) ที่แปลว่า “ประเทศเกาหลี” (ฮันกุก)) คำนี้แปลเป็นภาษาไทยตรงๆ ยาก แม้จะแปลเป็นภาษาอังกฤษยังลำบาก เอาเป็นว่า เป็นความรู้สึกเหมือนเวลาได้ฟัง “เพลงบัลลาดเกาหลียุคเก่าๆ” เจ็บปวด เยียบเย็น เหมือนยืนอยู่กลางหิมะแล้วถูกกรีดให้เป็นแผลช้าๆ แต่กลับยิ้มได้ทั้งน้ำตา และมองมันว่า บาดแผลนั้นช่างสวยงาม วงการบันเทิงเกาหลีก็เติบโตมาด้วยบรรยากาศเช่นนั้นค่ะ แม้แต่วงการ “นิยายพื้นบ้านเกาหลี” ที่เล่าสืบมาเป็นมุขปาถะก็ด้วย

#ฮงซิสเตอร์กับผลงานซีรีส์ที่ไม่ธรรมดา

เมื่อมองย้อนกลับไป เกือบ 20 ปีก่อน การจะมีซีรีส์โรแมนติกคอเมดี้สุดสดใสในทีวีสักเรื่อง ไม่ใช่จริตปกติของสถานีโทรทัศน์เกาหลีเลย ฐานผู้ชมส่วนใหญ่ที่เป็นแม่บ้านเกาหลี ชื่นชมมหรสพแนว “เมโลดราม่า” มากกว่า ผลงานซีรีส์ Sassy Girl Chun-Hyang ของนักเขียนบทหน้าใหม่ ฮงจองอึน และ ฮงมีรัน จึงเป็นอะไรที่นอกกระแสมากสำหรับยุคนั้น ตั้งแต่หน้าโปสเตอร์ที่เป็นเรื่องราวความรักใสๆ ของเด็กวัยมัธยม ไปจนถึงการเลือกนักแสดงนำ ที่ชาวบ้านเห็นปุ๊บก็ต้องอุทาน “จะเอาคนนี้มาเล่นจริงดิ่?” พระเอก แจฮี นักแสดงหนังอินดี๊อินดี้ ที่ช่วงนั้นเพิ่งมีผลงานภาพยนตร์ 3-Iron ของผู้กำกับฯ สุดแนว อย่าง คิมคีด็อก (Kim Ki-Duk) ต้องมาประชันบทบาทกับ ฮันแชยอง นักแสดงสาวที่โด่งดังสุดๆ จากบทดาวร้ายในซีรีส์ Autumn in my Heart ขึ้นแท่นพรีเซ็นเตอร์ยอดนิยม แต่ความโด่งดัง ณ ขณะนั้นมาพร้อมคำครหา ทั้งเรื่องความสวยเหมือนตุ๊กตาบาร์บี้ และการศัลยกรรมหน้าอกของเธอ ซึ่งสวนทางกับความสามารถทางการแสดงในขณะนั้นสุดๆ ผู้ชมพากันลงมติว่า เธอคือนางเอกที่ “สวยแต่รูป” เลยเถิดไปถึงขั้น “สวยแต่ดูไม่ฉลาด” (คล้ายๆ กับที่ชาวตะวันตกมีอคติล่วงหน้ากับสาวผมบลอนด์ ทำนองนั้น) “ฮงซิสเตอร์” บอกว่า จะสลัดภาพจำที่ชาวเกาหลีมีต่อนักแสดงทั้งสองให้สิ้นคราบ จับฮันแชยอง มารับบท “ชองชุนฮยาง” หญิงสาวผู้เฉลียวฉลาดและสู้ชีวิตแห่งเมืองนัมวอน ชอลลานัมโด ใครเลยจะคิดว่า ซีรีส์รักใสๆ วัยนักเรียนเรื่องนั้นจะทำเรตติ้งทะลุถึง 31%

ว่าไปผลงานเดบิวต์ของพี่น้อง ฮงซิสเตอร์ Sassy Girl Chun-Hyang นั้น มีแรงบันดาลใจจาก “นิยายพื้นบ้าน” ของเมืองนัมวอน จ.ชอลลานัมโด ที่อยู่ทางตอนใต้ของเกาหลีด้วยซ้ำค่ะ เรื่องราวของ ชองชุนฮยาง หญิงสาวผู้ซื่อสัตย์ เธอเฝ้ารอ อีมงรยง สามีของเธอที่ไปสอบควากอ(จอหงวน) ที่เมืองหลวงด้วยความอดทน แม้จะถูกนายอำเภอ พยอนฮักโด บีบบังคับและทรมานสารพัด แน่นอนเนื้อหาต้นฉบับเป็นความรักแสนเศร้า สำหรับสั่งสอนสตรีภายใต้บริบทสังคมขงจื๊อ (Neo-Confucianism) ที่มีแนวคิดชายเป็นใหญ่ แต่พี่น้องตระกูลฮง ก็ดัดแปลงให้กลายเป็นซีรีส์รอม-คอม สาวใสหัวใจแกร่งได้

หลังแจ้งเกิดจากผลงานแนว “เล่นแร่แปรธาตุ” พี่น้องตระกูลฮง ก็ยังทดลองอะไรใหม่ๆ ไม่ว่าจะคว้าตัวนักแสดงสาว ฮันเยซึล ที่คนว่ามีลุคหรูหราเข้าไม่ถึง มาแปลงโฉมเป็นคุณนายนาซังชิล จอมเพี้ยน ที่ซู้ดบะหมี่ดำจาจังมยอนได้แบบไม่ห่วงลุค ในซีรีส์ Couple of Fantasy จับเอา คงฮโยจิน นางเอกสายฮิปที่ดูยังไง๊ ยังไงก็ไม่น่าจะมาทาง K-POP ให้มารับบทอดีตเกิร์ลกรุ๊ปตกอับ ในซีรีส์ The Greatest Love หรือแม้แต่พระเอกสายเมโลดรามาอย่าง โซจีซอบ ก็กลายมาเป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้าสุดฮาในซีรีส์ Master’s Sun (ซึ่งปัจจุบันนี้ โซจีซอบ เจิดจรัสในบทน่ารักกุ๊กกิ๊กไปแล้ว)

อีกแนวทางที่ ฮงจองอึน และฮงมีรัน หยิบมาใช้กับผลงานของพวกเธอประจำ ก็คือการดัดแปลง “นิทานท้องถิ่น” มาทำให้โมเดิร์น ถัดจาก Sassy Girl ChunHyang ก็ยังมีเรื่องราวของ

ฮงกิลดง (Hong Gil Dong) ตำนานจอมโจรขวัญใจประชาชน คล้ายๆกับโรบินฮู้ดของเมืองจางซอง จ.ชอลลานัมโด 

ตำนานจิ้งจอกเก้าหาง (My Girlfriend is Nine-Tailed-Fox) ปีศาจสาววายร้าย ที่ถูกจองจำวิญญาณไว้นานถึง 500 ปี โผล่มาอีกทีในคราบสาวสุดน่ารักในยุคปัจจุบัน

ไปจนถึงตำนานเทพไซอิ๋วสไตล์เกาหลี ใน The Korean Odyssey

หรือจะเป็นเรื่องยัยสาวเห็นผี Master’s Sun ที่รวมมิตรตำนานผีมากมายมาผูกโยงให้เป็นซีรีส์รอมคอมแสนสนุก

มีคนเคยชมว่าพวกเธอคือนักเขียนอัจฉริยะ แต่พี่น้องฮงกล่าวอย่างถ่อมตัว

“ฉันมี IQ แค่ 100 เองค่ะ น้องสาวฉันก็มีอีก 100 พอรวมกันพวกเราเลยมี IQ200”

รับชมผลงานการเขียนบทของ ฮงซิสเตอร์

My Girlfriend is Gumioh - http://bit.ly/2kTTiQx
Master's Sun - http://bit.ly/2lWcCgo
Hotel Del Luna - https://bit.ly/2LnGcqB

 

Hotel Del Luna เรือนรับรองแห่งจันทรา การทดลองครั้งใหม่ของฮงซิสเตอร์

ห่างหายไปปีเศษๆ ฮงจองอึน และ ฮงมีรัน ก็กลับมาพร้อมผลงานซีรีส์ชิ้นใหม่ “Hotel Del Luna” (โฮเทล เดล ลูน่า) ครั้งนี้สถานี tvN ทุ่มทุนสร้างครั้งใหญ่ เนรมิต “เรือนรับรองแห่งจันทรา” สุดโอ่อ่าแฟนตาซีเหนือจินตนาการ รวมไปถึงคอสตูมสวยๆ ไม่อั้น ให้กับ ไอยู ดีว่าสาวผู้มารับบทบาท “จางมันวอล” เถ้าแก่เนี้ยเจ้าของโรงแรม โฮเทล เดล ลูน่า แห่งนี้

Hotel Del Luna เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นหลังอาณาจักรโคกูรยอล่มสลาย ราว 1,300 ปีก่อน จางมันวอล (รับบทโดย ไอยู) กบฏสาวพเนจร รอนแรมจนมาถึง “เรือนรับรองแห่งจันทรา” และพบกับ “คุณป้ามาโก” ที่ออกมาต้อนรับเธอด้วยสุราพิเศษ ด้วยเหตุผลบางอย่าง ทำให้ดวงวิญญาณของ จางมันวอล ไปผูกติดกับ “ต้นไม้จันทรา” และเวลาของชีวิตเธอก็ถูกหยุดไว้ ณ ตอนนั้น

เธอกลายเป็นหญิงสาวอายุกว่า 1,300 ปี ที่อยู่ในร่างของสาวสวยสะพรั่ง ซีรีส์ช่วงต้นไม่ได้บอกกับเราว่า จางมันวอล เป็นคนหรือเป็นผี แต่เธอก็อยู่แบบสาวสวยๆ (ที่มีองค์มนุษย์ป้าประทับ) ของเธอไปแบบนี้ ในฐานะเจ้าของโรงแรม โฮเทล เดล ลูน่า

“โฮเทล เดล ลูน่า” ไม่ใช่โรงแรมที่สร้างไว้สำหรับมนุษย์ แต่เป็นสถานที่มอบความสุขครั้งสุดท้ายให้กับดวงวิญญาณก่อนจะเดินทางไปปรโลก มองจากภายนอก “โฮเทล เดล ลูน่า” เป็นเพียงโรงแรมเล็กๆ เก่าคร่ำคร่า ที่ซ่อนตัวอย่างเงียบเชียบในย่าน มยองดง (ชื่อ มยองดง หรือเมียงดง명동 เขียนเป็นอักษรจีนได้ว่า 明洞 ความหมายตามตัวอักษรอีกอย่างหนึ่งคือ แสงอาทิตย์日 บดบังดวงจันทร์月จนมองเห็นแค่รำไร ซึ่งก็คล้ายกับ โฮเทล เดล ลูน่า ที่มองจากโลกคนเป็นแทบไม่เห็น ทว่าเมื่อเข้าสู่โลกแห่งคนตายแล้ว ที่นี่กลับยิ่งใหญ่อลังการ) ภายในโฮเทล เดล ลูน่า โอ่อ่าเกินที่คนภายนอกจะจินตนาการได้ ตึกสูงระฟ้ากว่า 100 ชั้น , ห้องรับรองและบาร์สุดหรู , สระว่ายน้ำที่ใหญ่โตเท่ากับทะเลจริงๆ และหลังจากดวงวิญญาณได้ใช้เวลาดื่มด่ำที่โรงแรมจนหมดห่วง ยมทูตก็จะพาพวกเขาขึ้นรถบัส ผ่านอุโมงค์สามแยก สะพานแห่งความตาย เพื่อกลับมาเกิดในภพชาติใหม่

ความที่เป็นโรงแรมที่อยู่ตรงกลางระหว่างโลกคนเป็นและโลกคนตาย โฮเทล เดล ลูน่า จึงจำเป็นต้องมี “ผู้จัดการมนุษย์” ไว้คอยทำธุระกับโลกคนเป็น หวยเลยมาตกที่ กูชานซอง (รับบทโดย ยอจินกู) หนุ่มไฟแรงที่เพิ่งจบจาก ม.ฮาวาร์ด ดูเผินๆ “ผู้จัดการลำดับที่ 99” คนนี้ ไม่น่าต่างจากผู้จัดการคนอื่นๆ ที่ผ่านมา ทว่า กูชานซองกลับมีชะตากรรมบางอย่าง ที่เชื่อมโยงกับ จางมันวอลในอดีต ทำให้ต้นไม้แห่งจันทรา ที่เหี่ยวเฉามากว่า 1,300 ปี กลับมาเบ่งบานอีกครั้ง

#ก่อนจะไหว้พระเราเคยไหว้ผี

คนเกาหลีส่วนใหญ่ “ไม่นับถือศาสนา” และบางส่วนนับถือศาสนาคริสต์ที่เข้ามาพร้อมกับมิชชันนารี คาบเกี่ยวกับยุคพระนารายณ์มหาราชของไทย แต่กระนั้นย้อนกลับไปยุคโครยอ (ยุคถัดจากโคกูรยอ ต้นกำเนิด Hotel Del Luna) พุทธศาสนาเคยรุ่งเรืองถึงขีดสุด ว่ากันว่าพระไตรปิฎกภาษาเกาหลี 84,000 พระธรรมขันธ์ แปลไม่ผิดแม้แต่ตัวเดียว ทว่าพุทธศาสนาถูกปราบปรามในยุคโชซอน หลักความเชื่อแบบขงจื๊อเข้ามาแทนที่ คนเกาหลีรับขงจื๊อเข้ามาในรูปแบบ “หลักปฏิบัติชีวิต” มิใช่ “ศาสนา” ดังนั้นปัจจุบัน แม้คนส่วนใหญ่ไม่นับถือศาสนา พวกเขายังคงเชื่อแบบขงจื๊อ

ซึ่งถ้าย้อนกลับไปในยุคโคกูรยอ ก่อนที่พุทธศาสนาจะเข้ามาอีก คนเกาหลีนั้นนับถือศาสนาปฐมภูมิ ซึ่งก็คือ “นับถือผี” ไม่ต่างจากชาวอุษาคเนย์ โดยผีที่ว่าแบ่งเป็น “ชิลรยอง” ผีที่อยู่ในธรรมชาติ ถ้าเป็นบ้านเราก็เช่น เจ้าป่าเจ้าเขา เทพารักษ์ พระแม่ธรณี พระแม่โพสพ ฯลฯ เป็นผีที่ไม่เคยเป็นคน ทว่าเป็นเทพที่แฝงตัวอยู่ในสรรพสิ่งต่างๆ คอยปกปักษ์รักษาผู้คน อย่างเช่นคนเกาหลีทุกบ้านจะบูชา “โจวังชิน” เทพแห่งไฟที่สถิตอยู่ที่ฝาหม้อข้าว ส่วนผีอีกประเภทเรียกว่า “ควีชิน” คุ้นเคยกันดีในละครค่ะ ผีเหล่านี้มาจากวิญญาณคนตายที่ไม่ยอมไปปรโลก ยังคงวนเวียนอาฆาตอยู่ (แม่นาค กระสือ กระหัง ก็อยู่ในหมวดนี้) ควีชินนั้นยังรวมไปถึงผีบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วด้วย ตามความเชื่อโบราณ ผู้หญิง (ลูกสะใภ้) มี

หน้าที่ไหว้บูชา เปลี่ยนน้ำให้ผีบ้านผีเรือน ส่วนผู้ชายมีหน้าที่บูชาผีบรรพบุรุษ ดังนั้นการมีลูกชายสืบสกุลจึงจำเป็นมาก ไม่เช่นนั้นบรรพบุรุษจะถูกตัดขาดการติดต่อตลอดกาล

ในซีรีส์มีบท “คุณป้ามาโก” (รับบทโดย ซออีซุก) ผู้จองจำดวงวิญญาณ จางมันวอล ไว้ที่ Hotel Del Luna ใช่ไหมคะ หลายคนสงสัย หาก จางมันวอล อายุ 1,300 ปี แล้วป้ามาโกอายุเท่าไหร่ ทำไมไม่ไปผุดไปเกิด คำตอบคือ ป้ามาโก เป็นผีประเภท “ชิลรยอง” ค่ะ คนเกาหลีเรียกว่า “มาโกฮัลมี” (คุณย่ามาโก) เป็นหัวหน้าของเทพผู้ให้กำเนิดทั้งหมด เรียกว่าแม่ในแม่อีกที คล้ายๆกับ “พระแม่ธรณี” นั่นเองค่ะ เราจะเห็นเทพมาโกมีร่างแยกด้วย เป็นคุณป้าสามคนที่เป็นพี่น้องกัน นั่นก็คือ “ซัมชินฮัลมอนี” (แปลตรงตัวว่า นางฟ้าคุณย่าสามคน) คุ้นๆ มั้ยคะว่าเราเคยเจอท่านที่ไหน ใช่แล้วค่ะ คุณป้าสามคนคือนางฟ้าแม่ทูนหัว ในนิทานเจ้าหญิงนิทรา เกาหลีก็มีความเชื่อเรื่องนี้เหมือนกัน แถมเรายังเคยเจอ ซัมชินฮัลมอนี ในซีรีส์เรื่อง My Girlfriend is Nine-Tailed-Fox ของฮงซิสเตอร์อีกด้วย มาในบทเทพที่พันธนาการ คูมีโฮ (นางเอก) ให้สิ้นฤทธิ์นานถึง 500 ปี นั่นก็แสดงว่า นางฟ้าแม่ทูนหัวในความเชื่อของคนเกาหลี ให้ทั้งคุณและโทษ

คุณป้ามาโกยังมีร่างแยกอื่นๆ อีก อาทิ ปีศาจผู้กราดเกรี้ยว , เทพีแห่งความร่ำรวย , เทพีแห่งความยากจน ฯลฯ ซึ่ง “มาโกฮัลมี” ตัวจริงๆ ก็มีร่างแยกมากกว่านั้นค่ะ อาทิ เทพีผู้ดูแลท้องทะเล เทพีแห่งฤกษ์งามยามดี ฯลฯ ดังนั้นร่างของป้ามาโกไม่ต้องไปเกิดใหม่ เพราะเกิดมาเป็นเทพอยู่แล้ว เช่นเดียวกับ ยมทูต และเทพแห่งบ่อน้ำ (อูมุลชิน) จะเหลือก็แต่ จางมันวอล และบรรดาดวงวิญญาณใน Hotel Del Luna นั่นแหละค่ะ ที่เป็น “ควีชิน” ต้องเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏ

#อยู่ก็ห่วงจากก็ห่วง

แขกที่เข้าพักใน Hotel Del Luna คือบรรดาดวงวิญญาณที่ยังมีห่วง โรงแรมแห่งนี้จึงเปิดโอกาสให้เคลียร์ทุกสิ่งที่คาใจ ก่อนจะเดินทางไปสู่ภพภูมิใหม่ บางคนอยู่แป๊บเดียวก็จากไป บางคนก็กอดเก็บความแค้นไว้นานไม่เลิกรา 70 ปี , 200 ปี , 500 ปี ถึงขั้นขอสมัครเป็นพนักงานใน Hotel De Luna จนกว่าจะสะสางความแค้นได้ทั้งหมด

เราชอบซีรีส์เรื่องนี้ตรงที่ฮงซิสเตอร์เล่นกับ “ห่วงอาวรณ์” ของสังคมในยุคสมัยต่างๆ บัณฑิตจอหงวนที่มิอาจรับราชการดังใจหวัง , ลูกสะใภ้ยุคโชซอน ที่ไม่ได้ให้กำเนิดลูกชาย นับเป็นกาลกิณีต่อวงศ์ตระกูลสามี , พี่น้องที่พลัดพรากในสงครามเกาหลี ไปจนถึงปัญหาที่พบในยุคสมัยใหม่ การกลั่นแกล้ง (bully) ในโรงเรียน , การแอบถ่ายคลิปลับ ที่แม้จะไม่ได้ฆ่าคนแต่ก็ทำให้เหยื่อค่อยๆ ตายทั้งเป็น ไปจนถึงการรวมตัวเป็นลัทธิประหลาดในเว็บไซต์ลึกลับ (Dark Web) ทั้งหมดนี้เป็นประเด็นที่สดใหม่ ถูกพูดถึงในโลกออนไลน์ไม่เว้นวัน ในซีรีส์ เด็กสาวที่ถูกเพื่อนที่โรงเรียนกลั่นแกล้งจนเสียชีวิต ได้เข้าไปสิงร่างเพื่อนคนนั้น และยึดเป็นร่างใหม่ , ดวงวิญญาณสาวที่ถูกถ่ายคลิปฉาวประจาน ก็ได้แก้แค้นแก๊งผู้ชายใจร้ายอย่างสาสม แต่ในโลกแห่งความเป็นจริง กี่ชีวิตที่ต้องสังเวยให้กับผู้คนเหล่านี้ พวกเขามีโอกาสได้ร้องเรียนหรือแก้ตัวอีกครั้งไหม? มีทางใดบ้าง ที่จะได้ปลดพันธนาการ “ห่วง” ที่ทำให้พวกเขาต้องตายอย่างไร้ความยุติธรรม

ไอยู นั้นมารับบทเป็น จางมันวอล ในช่วงชีวิตที่เหมาะสมที่สุด เธอกำลังเป็นสาวเต็มตัว สวย และใบหน้าสว่างใสไร้ริ้วรอยเหมือนกระเบื้องเคลือบ ร่างเล็กๆ ของเธอสอดรับกับเสื้อผ้าอาภรณ์สวยๆ ทุกยุคทุกสมัย ซึ่งนั่นล่ะค่ะ คือ จางมันวอล คุณยายวัย 1,300 ปีผู้อยู่ในร่างของสาวงาม ไม่มีวันแก่ ไม่มีวันตาย เธอใช้เวลาว่างกับการแต่งตัวสวย ทำเล็บ ดื่มเหล้าราคาแพง และคิดว่าต่อให้เธอกินเยอะเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน เธอจึงมีความสุขกับการเสาะหาของอร่อย ตามรอยราชานักหม่ำ คิมจุนฮยอน ความกลัวข้อเดียวในชีวิตของ จางมันวอล คือ เธอกลัวไม่มีเงินมาใช้จ่ายปรนเปรอสิ่งหรูหรา เหมือนที่โรงแรมเคยตกอับมานับครั้งไม่ถ้วน จากภัยสงครามบ้าง พิษเศรษฐกิจ IMF บ้าง

เห็นแบบนี้แล้วคุณอาจอิจฉา จางมันวอล ที่ “สตาฟ” ช่วงเวลาอันงดงามที่สุดของชีวิตไว้ได้อย่างเหมาะเหม็ง แต่ท้ายที่สุด ฮงซิสเตอร์ก็ทำให้เห็นว่า การที่เวลาเดินทางไปตามครรลองของมันต่างหาก คือสิ่งที่ควรจะเป็นไปใน “ธรรมชาติ” จางมันวอล 张满月 (จางหม่านเยว่) ชื่อของนางเอก มีความหมายว่า “พระจันทร์เต็มดวงอันยาวนาน” จริงอยู่ค่ำคืนที่พระจันทร์เต็มดวงนั้นสวยสมบูรณ์แบบที่สุด แต่หากพระจันทร์เต็มดวงอย่างไม่มีวันจบสิ้น ความรู้สึกแห่งการรอคอยอันเปลี่ยวเหงาคงเข้ามาแทนที่ การเข้ามาของ ชานซอง 闪星 (ส่านซิง) ที่แปลว่าดวงดาวอันเจิดจ้า นั้นแม้จะทำให้แสงจันทร์เศร้าหม่นไป แต่ท้องฟ้าคืนนี้ก็ไม่เหมือนเดิม ในวันที่ดอกไม้เบ่งบานเต็มสวน ก็อย่ากลัวว่ามันจะร่วงหล่นตายไป เกิด แก่ เจ็บ ตาย ธรรมชาติของฤดูกาลไม่ใช่หรือ คือสิ่งที่ประคองให้โลกใบนี้ยังคงความสมดุล

เมื่อเร็วๆ นี้ประเทศไทยมีข่าว นักศึกษาวาดภาพ “พระพุทธรูปอุลตราแมน” ร้อนถึงคนรักศาสนากลุ่มหนึ่ง ต้องออกมาปกป้อง เรียกร้องเอาผิดกับผู้วาด โทษฐานทำให้ศาสนาแปดเปื้อน ... ซึ่งเราไม่ว่ากัน ไม่ว่าคุณจะอยู่ทีมที่มองว่า พระพุทธศาสนาต้องได้รับการปกป้อง หรือทีมที่มองเห็นผลงานในแง่การสร้างสรรค์ศิลปะ แต่เชื่อเถอะ สิ่งหนึ่งที่ไม่มีทางแปดเปื้อนได้เป็นอันขาดจากกรณีนี้ ก็คือ แก่นแท้ของหลักพระพุทธศาสนา ไม่จำเป็นต้องมาในสัญลักษณ์พระพุทธรูป หรือแม้แต่ไม่ต้องบอกสักคำด้วยซ้ำ ว่านี่เรากำลังพูดเรื่องพุทธศาสนา Hotel Del Luna เป็นตัวอย่างที่ดีของ “ทุกข์-สมุทัย-นิโรธ-มรรค” สิ่งที่เกิดขึ้นและตั้งอยู่ สักวันต้องมีวันดับสูญ ความทุกข์ในใจก็เช่นกัน หากกอดเก็บมันไว้ ก็อาจอยู่ได้เป็นพันปี สุดท้ายแม้แต่ Hotel Del Luna ก็ดับทุกข์ให้คุณไม่ได้ เพราะทุกข์ที่แท้จริง เกิดขึ้น และดับได้ ด้วยหัวใจของเราเอง

รับชมซีรีส์ Hotel Del Luna ได้ที่ https://bit.ly/2LnGcqB

@bluesherbet_

 

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X