“ดาวนีย์ จูเนียร์” รับค่าตัวสูงสุดทิ้งห่างซูเปอร์ฮีโร The Avengers คนอื่นกระจุย

นอกจากจะได้รับบทเป็นมหาเศรษฐีในเรื่องแล้ว ในชีวิตจริง “โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์” ก็ยังรวยไม่รู้เรื่องกับผลงานการแสดงเป็น “ไอออนแมน” ในหนังฟอร์มยักษ์ The Avengers ที่สื่อบันเทิงในสหรัฐฯ เปิดเผยว่า พระเอกวัย 47 ปี น่าจะทำเงินจากหนังเรื่องนี้ได้เกิน 50 ล้านเหรียญฯ สูงกว่าเพื่อนนักแสดงคนอื่นในเรื่องหลายเท่าตัว

Marvel ประสบความสำเร็จอย่างมากมายกับ The Avengers ที่ไม่ได้เพียงแค่กวาดเงินมหาศาลเท่านั้น แต่ทีมผู้สร้างยังสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างยอดเยี่ยม ดูแลไม่ให้งบประมาณบานปลายอย่างหนังหลายๆ เรื่อง เบ็ดเสร็จแล้วหนังใช้ทุนไปประมาณ 220 ล้านเหรียญ ถือว่าธรรมดามากในยุคที่หนังบางเรื่องใช้ทุนสร้างกันร่วม 300-400 ล้านเหรียญ จนทำให้หนังฟอร์มใหญ่เรื่องนี้มีความเสี่ยงน้อยมาก เมื่อเทียบกับหนังฟอร์มใหญ่เรื่องอื่นๆ ในวงการภาพยนตร์

อย่างไรก็ตาม แม้ผู้สร้างจะคุมงบประมาณอย่างเคร่งครัดเพียงใด ทั้งงบประมาณการถ่ายทำ และค่าตัวดารา แต่ก็ยังมีข้อยกเว้นสำหรับค่าตัวของพระเอกคนดัง โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ ผู้สวมบทบาทเป็น โทนี สตาร์ก/ไออนแมน ที่ยังคงได้รับเงินเต็มเม็ดเต็มหน่วยกับหนังเรื่องนี้ และสูงกว่านักแสดงที่รับบทซูเปอร์ฮีโรคนอื่นในเรื่องแบบไม่เห็นฝุ่น

จากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือของ The Hollywood Reporter โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ น่าจะได้รับค่าจ้างจากหนังเรื่อง The Avengers ไปสูงกว่า 50 ล้านเหรียญ ซึ่งมาจากทั้งค่าตัว, ส่วนแบ่งจากรายได้ และโบนัสพิเศษ ที่หนังประสบความสำเร็จสูงเช่นนี้

ซึ่งคงต้องรอคอยกันไปอีกพักใหญ่จึงจะสามารถสรุปตัวเลขรายได้สุดท้าย ที่พระเอกวัย 47 ปี จะได้รับจากหนังเรื่องนี้ได้ โดยรายรับก้อนโตนี้เป็นผลจากการเจรจาหลัง Iron Man 2 ทำเงินไปสูงถึง 585 ล้านเหรียญ ในปี 2008 ที่ตัวแทนทางกฏหมายของพระเอกคนดังสามารถเรียกร้องส่วนแบ่งรายได้จากหนังที่ โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ รับบทนำเป็น ไอออนแมน ในหนังเรื่องต่อๆ ไป ซึ่งแหล่งข่าวระบุว่า น่าจะอยู่ราว 5-7% กันเลยทีเดียว

ด้วยชื่อเสียงความโด่งดังโดยส่วนตัวของ โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทำให้เขาได้รับค่าจ้างสูงกว่านักแสดงคนอื่นในหนัง The Avengers นอกจากนั้น หนัง Iron Man ของเขายังทำเงินมากกว่าหนังของ Marvel Studios เรื่องอื่นๆ ด้วย

นั่นทำให้รายได้ของ ผู้สวมบทซูเปอร์ฮีโรเกราะเหล็กสูงแซงหน้าซูเปอร์ฮีโรในทีม The Avengers ไปอย่างไม่เห็นฝุ่น โดยแหล่งข่าวของ The Hollywood Reporter อ้างว่า คริส เฮมส์เวิร์ธ (ธอร์), คริส อีแวนส์ (กัปตันอเมริกา), เจเรมี เรนเนอร์ (ฮอว์กอาย) และ มาร์ค รัฟฟาโล (อัลค์) จะได้รับค่าตัวไปกันคนละ 2-3 ล้านเหรียญ บวกกับโบนัส ส่วน แซมมวล แอล.แจ็คสัน (นิค ฟิวรี)กับ สการ์เล็ตต์ โจแฮนสัน (แบล็ควีโดว์) จะได้รับค่าตัวมากกว่านั้นประมาณเท่านึง กับโบนัสอีกจำนวนหนึ่ง

ตัวเลข 50 ล้านเหรียญ จากหนังเรื่องเดียวดูจะเป็นจำนวนเงินที่มหาศาลสำหรับนักแสดงคนหนึ่ง แต่อันที่จริงแล้วก็ถือว่าเป็นค่าตัวที่สมเหตุสมผลในยุคที่ตลาดหนังนอกสหรัฐฯ กำลังขยายตัวและหนังหลายๆ เรื่องสามารถทำเงินเกินพันล้านได้อย่างไม่ยากเย็นนัก

โดยก่อนหน้านี้ เคยมีรายงานว่า จอห์นนี เดปป์ รับทรัพย์ก้อนโตถึง 250 ล้านเหรียญ จากหนัง Pirates of the Caribbean ทั้ง 4 ภาคที่ทำเงินไปเฉียด 4 พันล้านเหรียญ ส่วนผู้กำกับคนดัง ไมเคิล เบย์ ก็ได้เงินค่ากำกับ Transformers ภาคแรกภาคเดียวไปถึง 80 ล้านเหรียญ

สำหรับตอนนี้ The Avengers สามารถทำเงินรวมทั่วโลกไปได้แล้ว 1,016 ล้านเหรียญฯ ค่าตัว 50 ล้านเหรียญ ของ ไอออนแมน จึงคงไม่ใช่ประเด็นสำคัญอะไร ที่สำคัญ คงทำให้เจ้าของหนังอย่าง Disney หายใจทั่วท้องได้เสียที หลังจากเพิ่งล้มเหลวเสียเงินไปมากมายกับ John Carter ที่ว่ากันว่าอาจทำให้บริษัทบันเทิงยักษ์ใหญ่ขาดทุนหลายร้อยล้านเหรียญ

ข้อมูลจาก

http://www.manager.co.th