สื่อต่างประเทศวิเคราะห์สาเหตุ "กรุงเทพ" ร้อนหนักเพราะการวางผังเมืองแย่!!

รอยเตอร์สรายงานเมื่อวันที่ 4 พ.ค.เกี่ยวกับสถานการณ์อากาศร้อนระอุของเมืองไทย โดยระบุว่า หลังจากเมืองไทยต้องเผชิญกับภาวะน้ำท่วมรุนแรงที่สุดในรอบครึ่งศตวรรษเพียงช่วง 5 เดือนก่อน ขณะนี้กรุงเทพต้องเผชิญกับภาวะคลื่นร้อนโดยอุณหภูมิสูงสุดในรอบ 30 ปี และทำให้เกิดกระแสโต้เถียงถึงการวางผังเมืองและแผนประชากรของกรุงเทพซึ่งเป็นเมืองที่ร้อนที่สุดและใหญ่ที่สุดของเอเชีย

รอยเตอร์สระบุว่า จากการเปิดเผยของกรมอุตุนิยมวิทยาระบุว่า ขณะนี้กรุงเทพมีอุณหภูมิเฉลี่ย 40.1 องศาเซลเซียส กระตุ้นทางการต้องออกมาเตือนประชาชนให้ตื่นตัวกับการเจ็บป่วยที่จะเกิดจากภาวะอากาศร้อน และนักวิจารณ์บอกว่าอากาศร้อนของกรุงเทพได้เพิ่มทวีจากการวางผังเมืองและแผนประชากรของเมืองหลวงที่เติบโตรวดเร็วที่สุด และมีประชากร 12 ล้านคน จากการตัดเล็มต้นไมของพนักงานกทม.เพื่อเปิดทางให้สายไฟฟ้า ไปจนถึงการออกแบบตึกที่กักความร้อนและการมีสวนสาธารณะขนาดเล็ก ๆ เพียงไม่กี่แห่ง โดยผู้เชี่ยวชาญแห่งแผนกพยากรณ์อากาศตอนกลางขอหน่วยงานอุตุนิยมวิทยากล่าวว่า สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยทำให้กรุงเทพร้อนระอุ รวมทั้งการขาดพื้นที่สีเขียวในกทม. เพราะการมีต้นไม้จะสามารถผ่อนคลายคุณภาพอากาศที่แย่ และการกักความร้อนในชุนชนเมือง

รายงานระบุว่า แม้จะเป็นเมืองร้อน แต่กทม.กลับมีต้นไม้เพียงเล็กน้อยและมีพื้นที่สีเขียวน้อยกว่าเมืองอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชีย เมื่อเปรียบเทียบตามสัดส่วนของประชากร จากดัชนี"เมืองสีเขียวเอเชีย"ของ 22 เมืองเมื่อปีที่แล้ว ระบุว่า พื้นที่สีเขียวของกทม.มีเพียงเฉลี่ย 3 ตร.เมตรต่อคนในเขตนครหลวง ซึ่งต่ำกว่าอัตราพื้นที่สีเขียวมาตรฐานเฉลี่ย 39 ตร.เมตรต่อคน และยังน้อยกว่าเพื่อนบ้านเมืองร้อนอย่างสิงคโปร์ ที่มีพื้นที่สีเขียวเฉลี่ย 66 ตร.เมตรต่อคน และว่า การวางผังเมืองแผนประชากรของกทม.ดูเหมือนจะเป็นเรื่องการไม่กระทำตามกฎเกณฑ์ ตั้งแต่การจราจรติดขัดเรื้อรังบนถนนสายหลัก และการบังคับใช้กฎหมายโซนนิ่งอย่างแย่ ๆ ที่ทำให้บ้านเรือนและอพาร์ทเมนต์ต่าง ๆ อยู่ใกล้กับตึกสูงและร้านสรรพสินค้า

ขณะที่ทางการหวังว่า กทม.จะมีมาตรการเกี่ยวกับการวางผังเมืองใหม่ในช่วงเดือนพ.ค.ปีหน้า ด้านผู้ช่วยศาสตราจารย์ เฉลิมวัฒน์ ตันตสวัสดิ์ แห่งคณะสถาปัตยกรรมและวางผังเมืองของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์กล่าวว่า สภาพอากาศร้อนของกทม.แย่หนักเพราะการออกแบบตึกอาคารที่ล้าหลังซึ่งขาดการใช้ฉนวนกันความร้อนที่จะช่วยให้อากาศเย็น และทำให้คนกทม.ต้องใช้ไฟฟ้ากันเพิ่มขึ้น

รายงานระบุว่า ภาวะอากาศร้อนระอุในกทม.ยังเกิดขึ้นช่วงเดียวกับที่กว่า 50 จังหวัดของเมืองไทยเผชิญภาวะแห้งแล้ง จากปัจจัยมนุษย์และไฟป่า ซึ่งเกิดขึ้นเพียงไม่กี่เดือนทั้งที่เมืองไทยเพิ่งเผชิญภาวะน้ำท่วมครั้งรุนแรงที่สุดในรอบครึ่งศตวรรษ ขณะที่ภาวะอากาศร้อนยังทำให้ภาคธุรกิจสามารถเพิ่มยอดขายได้แอร์ ที่กันแดด และสินค้าเกี่ยวกับความเย็นอื่น ๆ ด้วย

ด้านผู้วางแผนการตลาดของ"มิสทีน คอสเมติก"เผยด้วยว่า ยอดขายครีมกันแดด โลชั่น และครีมต่าง ๆ ได้เพิ่มขึ้น 14 % ในเดือนเม.ย.เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนที่เจ้าหน้าที่สวนสัตว์เผยด้วยว่า เนื่องจากสภาพอากาศร้อน สวนสัตว์ยังต้องพยายามรักษาระดับอุณหภูมิไว้ให้เหล่าสัตว์ในสวนสัตว์ด้วย เช่น การฉีดหัวฉีดน้ำ และการให้อาหารปนน้ำแข็ง

ข้อมูลจาก

http://www.matichon.co.th