ร่ำไห้ส่งพ่อคูณ สู่อจ.ใหญ่ อีก3ปีกลับมาเผา นับแสนล้นถนน วางผ้าให้รถทับ บริจาคถึง50ล.
2015-05-25 11:54:18
Advertisement
คลิก!!!

 

เมื่อวันที่ 24 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานพิธีมอบสรีรสังขารพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) ให้กับภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จ.ขอน แก่น ตามพินัยกรรมของหลวงพ่อคูณว่า เวลา 06.00 น. ที่ศูนย์ประชุมกาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น ประชาชนและศิษยานุ ศิษย์หลวงพ่อคูณเดินทางจากทั่วทุกสารทิศมาร่วมพิธีกันอย่างเนืองแน่นนับแสนคนจนแน่นศูนย์ประชุมและบริเวณโดยรอบ โดยเจ้าหน้าที่ปิดกั้นเส้นทางบนถนนกัลป พฤกษ์ตลอดทั้งสาย ไม่ให้รถยนต์เข้ามาจอดเหมือนเช่นทุกวัน เพราะเตรียมไว้ให้ขบวนรถเคลื่อนสรีรสังขารหลวงพ่อคูณเคลื่อนจากศูนย์ประชุมกาญจนาภิเษกไปยังคณะแพทยศาสตร์ ชั้น 7 โรงพยาบาลศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ประชาชนต้องนำรถยนต์ไปจอดตามที่คณะกรรมการจัดงานเตรียมไว้ให้จำนวน 10 จุด โดยมีรถยนต์ตู้โดยสารประมาณ 30 คัน ไปรอรับและนำมาส่งที่ศูนย์ประชุม



เมื่อมาถึงภายในศูนย์ประชุมกาญจนาภิเษก ประชาชนเริ่มทยอยเข้าไปด้านในซึ่งรองรับได้เพียงไม่เกิน 5,000 คนเท่านั้น ที่เหลือต่างรอร่วมพิธีอยู่ด้านนอกอาคาร โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ รปภ. และอาสาสมัคร จำนวน 1,300 คน แบ่งหน้าที่ประจำการตามจุดต่างๆ เพื่อความเป็นระเบียบและอำนวยความสะดวก



แจกโปสเตอร์-ดอกบัวกราบอาลัย



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในบริเวณศูนย์มีผู้ศรัทธาหลวงพ่อคูณนำภาพโปสเตอร์หลวงพ่อคูณซึ่งถ่ายไว้เมื่อปีพ.ศ.2514 จำนวน 5,000 ภาพ มาแจกจ่ายให้ประชาชนที่ร่วมงาน พร้อมกับมีผู้นำดอกบัวจำนวน 10,000 ดอก มาให้สาธุชนนำไปกราบไหว้สักการะสังขารหลวงพ่อคูณ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ทหาร สห.มทบ.23 ค่ายศรีพัชรินทร จ.ขอนแก่น พบพระสงฆ์มีอายุรูปหนึ่ง เดินอุ้มบาตรเรี่ยไรรับเงินบริจาคจากผู้ที่เคารพศรัทธาหลวงพ่อคูณอยู่ในห้องประชุมชั้น 2 ซึ่งผิดกฎระเบียบของคณะกรรมการจัดงานบำเพ็ญกุศลสรีรสังขารหลวงพ่อคูณ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่ห้ามการเรี่ยไรรับเงินบริจาคจากสาธุชนโดยเด็ดขาด จึงนิมนต์พระรูปดังกล่าวออกจากสถานที่จัดงาน สำหรับพ่อค้าแม่ค้าที่เข้ามาขายลอตเตอรี่ภายในศูนย์และสถานที่จอดรถ เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารขอร้องให้ไปขายนอกบริเวณจัดงาน ส่วนบรรยากาศที่โรงทานกว่า 500 โรงทาน ด้านล่างรอบศูนย์ประชุมกาญจนาภิเษกมีประชาชนทยอยเข้ารับอาหารอย่างต่อเนื่อง



เริ่มพิธีบรรพชาสามเณร 109 รูป



เวลา 07.00 น. มีพิธีบรรพชาสามเณรหน้าสรีรสังขารพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) จำนวน 109 รูป โดยพระราชปริยัติโสภณ เจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น เจ้าอาวาสวัดหนองกุง อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ก่อนพิธีถวายภัตตาหารเช้า จากนั้นเวลา 08.00 น. สามเณรจำนวน 109 รูป เข้ากราบสรีรสังขารหลวง พ่อคูณ ต่อด้วยการอาราธนาศีล อาราธนาพระปริตร พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ จำนวน 10 รูป สวดพระพุทธมนต์ สาธุชนผู้ศรัทธาหลวงพ่อคูณ ศิษยานุศิษย์หลวงพ่อคูณและแขกผู้มีเกียรติร่วมกันถวายไทยธรรม เวลา 11.00 น. ถวายภัตตาหารเพล ประธานในพิธีจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย จุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย พร้อมอาราธนาศีล ประธานสงฆ์ให้ศีล และอาราธนาธรรม พระธรรมนายก ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา แสดงพระธรรมเทศนา พระสงฆ์จำนวน 123 รูป สวดมาติกา ถวายไทยธรรม กรวดน้ำ รับพร และทอดผ้าบังสุกุล จำนวน 124 ชุด



ศิลปินร้องเพลงโคราชถวายพ่อคูณ



เวลา 13.00 น. พล.ท.ธวัช สุกปลั่ง แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นประธานในพิธีจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี จุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย อาราธนาศีล พระธรรมวรนายก ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา วัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร ประธานสงฆ์ให้ศีลและแสดงพระธรรมเทศนา พระสงฆ์จำนวน 123 รูป สวดมาติกา พระสงฆ์อนุโมทนา ประธานในพิธีและแขกผู้มีเกียรติกรวดน้ำรับพร



จากนั้นเป็นพิธีทอดผ้าบังสุกุลจำนวน 124 ชุด หลังจากนายกำธร ถาวรสถิตย์ ผวจ.ขอนแก่น และรศ.ดร.กิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น ทอดผ้าบังสุกุลรายสุดท้าย ศิลปินอีสานชาวจังหวัดนครราชสีมาร้องเพลงโคราชซึ่งเป็นเพลงที่หลวงพ่อคูณชอบฟังมาก ศิลปินอีสานคนดังกล่าวเปิดเผยว่าเพลงโคราชนี้ได้รับเรื่องเล่าจากหลวงพ่อคูณเมื่อหลายปีที่แล้ว โดยนำมาแต่งเป็นเพลงโคราชและร้องให้ท่านฟังก่อนการเคลื่อนสรีรสังขาร จากนั้นคณะกรรมการจัดงานฉายวีดิทัศน์ประวัติพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) ให้สาธุชนชม



ศิษยานุศิษย์ร่ำไห้อาลัยหลวงพ่อ



ต่อมา พล.ท.ธวัช สุกปลั่ง แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นประธานในพิธีทอดผ้ามหาบังสุกุล ประธานสงฆ์พิจารณาผ้ามหาบังสุกุล พระธรรมวรนายก ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา นำคณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชนในหอประชุมทั้งภายนอกและภายในกล่าวคำขอขมา ในช่วงนี้ศิษยานุศิษย์หลวงพ่อคูณทั้งที่อยู่ในศูนย์ประชุม ด้านนอก และโดยรอบบริเวณที่ดูผ่านโทรทัศน์วงจรปิดซึ่งติดตั้งไว้กว่า 30 จุด ต่างยกมือขึ้นกราบไหว้พร้อมกล่าวคำว่า สาธุ สาธุ สาธุ หลายคนร่ำไห้ เมื่อพระภิกษุ สามเณร และพุทธศาสนิกชนวางดอกบัวกว่า 3 แสนดอกและพวงมาลัยที่คณะกรรมการจัดไว้ให้โดยรอบประมาณ 10 แห่ง เพื่อเคารพสรีรสังขารหลวงพ่อคูณ ต่างไปรับหนังสืออาลัยหลวงพ่อคูณ จำนวน 4 หมื่นเล่ม ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นทำแจกประชาชนที่มาร่วมงาน



ย้ายสรีระอัศจรรย์อาทิตย์ทรงกลด



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนพิธีเคลื่อนย้ายสรีรสังขารหลวงพ่อคูณ เกิดความอัศจรรย์เหนืออาคารศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น เกิดพระอาทิตย์ทรงกลดเหนืออาคาร สาธุชนต่างฮือฮายกมือพร้อมส่งเสียงสาธุ สาธุ สาธุ และพากันนำกล้องถ่ายรูปและมือถือมาถ่ายรูปพระอาทิตย์ทรงกลด ต่างเชื่อว่าเป็นเพราะบารมีหลวงพ่อคูณทำให้เกิดพระอาทิตย์ทรงกลดนาน 20 นาทีนี้ขึ้น



ต่อมาเวลา 15.00 น. พิธีเคลื่อนสรีรสังขารหลวงพ่อคูณเริ่มขึ้น โดยมีสารวัตรทหารจำนวน 8 นายยกโลงแก้ว พร้อมนำสรีรสังขารหลวงพ่อคูณซึ่งครองจีวรพร้อมอัฐบริขารทั้งหมดออกจากโลงแก้วใส่ในโลงไม้และใส่ในโลงทึบเย็นขึ้นรถยนต์ที่เตรียมไว้ พระสงฆ์จำนวน 10 รูป และสามเณร 109 รูป จูงรถนำขบวนที่บรรทุกโลงเย็นซึ่งบรรจุสรีรสังขารหลวงพ่อคูณ โดยมีรถตู้ติดตามไปในขบวนจำนวน 20 คัน เคลื่อนผ่านศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก เลี้ยวซ้ายไปตามถนนกัลปพฤกษ์ ถึงสามแยกไฟแดงเลี้ยวขวาไปออกถนนมิตรภาพ เลี้ยวซ้ายผ่านศูนย์หัวใจ สิริกิติ์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ถึงประตูทางเข้าโรงพยาบาลศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เลี้ยวซ้ายเข้าไปจอดที่ลานจอดรถที่เตรียมไว้



ถึงคณะแพทย์ฟ้าร้อง-ลมพัดแรง



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดเส้นทางที่ขบวนเคลื่อนผ่านเป็นระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร มีประชาชนเรียงรายตลอดเส้นทาง ขณะที่ขบวนสรีรสังขารหลวงพ่อคูณเคลื่อนผ่านต่างยกมือขึ้นกราบไหว้กล่าวสาธุ สาธุ สาธุ พร้อมยกมือถือขึ้นถ่ายรูป โดยเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้เดินตามขบวนแต่อย่างใด ระหว่างที่ขบวนเคลื่อนสรีรสังขารเคลื่อนผ่าน ประชาชนหลายคนโยนสิ่งของส่วนตัว เช่น เสื้อผ้า หมวก กระเป๋าสตางค์ บัตรประชาชน บัตรข้าราชการ เพื่อให้รถของหลวงพ่อเหยียบขณะเคลื่อนผ่าน รวมทั้งขอดอกบัวและพวงมาลัยจากพระภิกษุสามเณรที่ร่วมขบวนจูงสรีระ และเก็บดอกไม้ภายในบริเวณสถานที่จัดงานหลังเสร็จสิ้นพิธีการเพื่อความเป็นสิริมงคล



นอกจากนี้มีผู้อยู่ในขบวนหว่านกัลป พฤกษ์ลงไปตามเส้นทางที่ขบวนผ่าน ระหว่างพิธีเคลื่อนสรีรสังขารหลวงพ่อคูณแสงแดดที่แผดกล้าก่อนหน้านั้นกลับกลายเป็นท้องฟ้ามืดครึ้ม อากาศร่มเย็น ทำให้พิธีเคลื่อนสรีรสังขารหลวงพ่อคูณเป็นไปด้วยความร่มรื่น ร่มเย็น พิธีเคลื่อนสรีรสังขารหลวงพ่อคูณใช้เวลาประมาณ 30 นาที ถึงโรงพยาบาลศรีนครินทร์ ชั้น 7 ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ทันทีที่มาถึงเกิดเสียงฟ้าร้องหลายครั้ง ลมพัดแรง 1-2 ครั้ง เสมือนฝนจะตกแต่ไม่ตกทำให้บริเวณดังกล่าวร่มเย็น ท้องฟ้าโปร่งใส สาธุชนที่อยู่ในบริเวณนั้นเชื่อว่าเป็นปาฏิหาริย์ของหลวงพ่อคูณ ก่อนจะส่งสรีรสังขารหลวงพ่อคูณลงในอ่างดองเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของคณะแพทยศาสตร์ต่อไป



คณาจารย์-นศ.แพทย์กราบอจ.ใหญ่



เวลา 16.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อนำสรีรสังขารหลวงพ่อคูณถึงอาคาร 7 ชั้น คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น พระเถรานุเถระ และศิษยานุศิษย์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สารวัตรทหารได้แบกโลงสรีรสังขารหลวงพ่อคูณมาถึงห้องเก็บสรีรสังขารที่ทางมหาวิทยาลัยขอนแก่นจัดเตรียมไว้ โดยเริ่มพิธีด้วยนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี มอบรูปหล่อสัมฤทธิ์หลวงพ่อคูณให้กับนายกิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น จากนั้นพล.ท.ธวัช สุกปลั่ง แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นประธานจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัยและถวายผ้าไตรจีวรแด่ พระสงฆ์จำนวน 9 รูป โดยมีนายกำธร ถาวรสถิตย์ ผวจ.ขอนแก่น นายธงชัย ลืออดุลย์ ผวจ.นครราชสีมา พล.ต.ธรากฤต ทับทองสิทธิ์ ผบ.มทบ.ที่ 23 และพล.ต.ท.บุญเลิศ ใจประดิษฐ ผบช.ภ4 พร้อมด้วยผู้บริหารมหาวิทยาลัยขอนแก่นร่วมในพิธี



จากนั้นพระสงฆ์นำโดยพระธรรมวรนายก ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา นำสวดขอขมาและมาติกาบังสุกุล และมอบใบเอกสารสรีรสังขารหลวงพ่อคูณให้กับภาควิชากายวิภาคศาสตร์ต่อไป พิธีกรรมเป็นไปอย่างเรียบง่าย ใช้เวลาเพียง 40 นาที โดยมีการถ่ายทอดผ่านทีวีวงจรปิดให้ประชาชนที่เฝ้ารอร่วมพิธีอยู่ด้านล่างอาคารรับชม หลังจากเสร็จพิธี บรรดาคณาจารย์ บุคลากร พร้อมด้วยนักศึกษาแพทย์มหาวิทยาลัยขอนแก่นกว่า 50 คน เข้ากราบสรีรสังขารหลวงพ่อคูณและถ่ายรูปร่วมกับรูปหล่อและอ่างสแตนเลสสำหรับดองร่างหลวงพ่อคูณ



พระราชทานเพลิงศพในปี 2561



นายชนกนันท์ พานิชสมบัติ นักศึกษาคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ชั้นปีที่ 2 กล่าวว่ารู้สึกตื้นตันใจที่หลวงพ่อคูณมอบร่างให้เพื่อนักศึกษาจะได้ร่ำเรียน สำหรับตนยังไม่ทราบว่าจะได้เรียนกายวิภาคกับอาจารย์ใหญ่หลวงพ่อคูณหรือไม่ ต้องรอให้ทางคณะแพทยศาสตร์แจ้งอีกครั้ง แต่ในฐานะที่ตนเป็นชาวอีสานรู้สึกปลาบปลื้มอย่างยิ่งที่ได้สักการะหลวงพ่อคูณในคณะที่ตนเรียน



ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศที่ด้านล่างโรงพยาบาลเต็มไปด้วยสาธุชนที่ต่างพนมมือถือดอกบัว กราบไหว้ ส่งเสียงสาธุ สาธุ ด้วยความศรัทธา ท่ามกลางสภาพอากาศอึมครึม ฟ้าร้อง ลมเเรงเป็นระยะคล้ายฝนจะตก ทำให้หลายคนต่างพากันสันนิษฐานต่างๆ นานาถึงความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อคูณ ทั้งนี้เจ้าหน้า ที่ตำรวจสภ.เมืองขอนแก่นประเมินยอดประชาชนที่มาร่วมส่งสรีระหลวงพ่อคูณตลอดทั้งวันประมาณ 2 แสนคน ขณะที่มีรายงานยอดเงินบริจาคตลอด 7 วันที่ผ่านมาว่าสูงถึง 50 ล้านบาทเเล้ว โดยหลังจากนี้ร่างของหลวงพ่อคูณจะเข้าสู่ขั้นตอนการดองสรีรสังขารนาน 1 ปี ก่อนจะนำร่างหลวงพ่อคูณให้คณะนักศึกษาแพทย์ศึกษา 2 ปี และมีพิธีพระราชทานเพลิงศพเช่นเดียวกับร่างอาจารย์ใหญ่ในเดือนพฤษภาคม ปี 2561 หรือ 3 ปีหลังจากนี้ จากนั้นจะนำอัฐิหลวงพ่อคูณลอยแม่น้ำโขง จ.หนองคาย ตามที่หลวงพ่อคูณระบุไว้ในพินัยกรรมต่อไป



ชาวโคราชนับหมื่นร่วมส่งพ่อคูณ



เวลา 08.00 น. ที่บริเวณลานจอดรถหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมากว่า 1,000 คน ขึ้นรถโดยสารปรับอากาศซึ่งทางจังหวัดจัดให้จำนวน 15 คัน เพื่อเดินทางไปกราบสรี รสังขารหลวงพ่อคูณก่อนจะมีพิธีเคลื่อนย้ายสรีรสังขารไปบรรจุไว้ในอ่างดอง เพื่อเป็นอาจารย์ใหญ่เป็นระยะเวลา 3 ปี ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยต่างรู้สึกปลาบปลื้มใจที่จะได้ไปกราบสักการะสรีรสังขารหลวงพ่อคูณเป็นครั้งสุดท้าย ถือว่าเป็นสิริมงคลกับชีวิตและครอบครัวอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตามยังคงมีประชาชนทยอยมาอย่างต่อเนื่องจนรถโดยสารที่เตรียมไว้ไม่เพียงพอ นายธงชัย ลืออดุลย์ ผวจ.นครราชสีมา จึงสั่งเสริมรถปรับอากาศเพิ่มอีก 5 คัน



ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในอำเภอต่างๆ ทั้ง 32 อำเภอของจังหวัดนครราชสีมา มีการจัดรถโดยสารรับประชาชนเดินทางไปร่วมพิธีนี้ด้วยกว่า 70 คัน โดยเฉพาะที่ อ.ด่านขุนทด จัดรถโดยสารกว่า 40 คัน รวมทั้งยังมีประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมาที่เดิน ทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวไปร่วมพิธีนี้อีก นับหมื่นคน



นายธงชัย ลืออดุลย์ ผวจ.นครราชสีมา เปิดเผยว่าพลังศรัทธาหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ หรือเทพเจ้าด่านขุนทด สร้างปรากฏการณ์ให้ชาวโคราชต้องการเดินทางไปร่วมงานศพเกินความคาดหมาย แม้จะจัดบริการรถบัสโดยสารเพิ่มขึ้นเท่าตัว รวมทั้งประสาน อปท. และผู้นำชุมชนช่วยจัดเพิ่มเติมก็ไม่เพียงพอกับจำนวนความต้องการ วันสุดท้ายก่อนจะบรรจุร่างทุกภาคส่วนเช่าเหมารถบัสโดยสารไม่ต่ำกว่า 100 คัน ตลอดทั้ง 7 วัน มีชาวโคราชเดินทางไปร่วมงานนับแสนคน



วัดบ้านไร่สวดอภิธรรม 100 วัน



ที่ศาลาการเปรียญวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา มีการจัดพิธีสวดอภิธรรมและทอดผ้าบังสุกุล เพื่ออุทิศถวายพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ นำโดยพระครูศรีปริยัติวิสุทธิ์ เจ้าคณะอำเภอด่านขุนทด นายธวัฒน์ชัย แสนประสิทธิ์ กำนันตำบลกุดพิมาน โดยมีประชาชน ศิษยานุศิษย์ร่วมพิธีจำนวนมากจนแน่นศาลาการเปรียญวัดบ้านไร่ โดยทางวัดจัดพิธีสวดอภิธรรมและทอดผ้าบังสุกุลทั้งหมด 3 ช่วง ได้แก่ เวลา 10.00 น. 14.30 น. และ 19.00 น. หลังจากนั้นทางวัดบ้านไร่จะจัดสวดอภิธรรมบำเพ็ญกุศลช่วงค่ำทุกวันจนครบ 100 วัน



ชาวด่านขุนทดขึ้นป้ายอาลัยพ่อคูณ



ช่วงสายวันเดียวกันนี้ ชาวอำเภอด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ทั้งส่วนราชการและเอกชน พร้อมใจกันติดป้ายไวนิลขนาดใหญ่ บริเวณหน้าสถานที่ราชการ ร้านค้า สะพานลอย และทางแยกทางร่วม ข้อความถวายความอาลัยและแสดงความกตัญญูต่อหลวงพ่อคูณ พร้อมยกสถานะให้เป็นเทพเจ้าแห่งด่านขุนทด พระผู้ให้มาตลอด สร้างความเจริญ คนไทยทั่วประเทศรู้จัก อ.ด่านขุนทด ก็เพราะคุณงามความดีของท่าน



นายศักดิ์สิทธิ์ สกุลลิขเรศสีมา นายอำเภอด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่าสาเหตุที่ติดตั้งป้ายค่อนข้างช้าเนื่องจากห้วงเวลาที่ผ่านมาบรรดาหัวหน้าส่วนราชการและผู้นำชุมชนติดภารกิจต้องเดินทางไป-กลับ จ.ขอนแก่น เพื่อสับเปลี่ยนหมุนเวียนร่วมเป็นเจ้าภาพสวดทุกคืน จนกระทั่งสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย จึงนัดหมายติดตั้งป้ายดังกล่าว ส่วนพิธีบำเพ็ญกุศลต่อหน้าหุ่นขี้ผึ้งหลวงพ่อคูณ ที่ศาลาใต้พระอุโบสถ วัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จะดำเนินการเพื่อให้ครบตามกำหนด 100 วัน หรือจนถึงวันที่ 23 สิงหาคม 2558 ในเวลา 19.00 น. จึงขอเชิญพุทธศาสนิกชนมาร่วมถวายความอาลัยแด่หลวงพ่อ



นัดประชุมเดินหน้าสอบทรัพย์สิน



นายธวัฒน์ชัย แสนประสิทธิ์ กำนันตำบลกุดพิมาน เปิดเผยว่าในวันที่ 25 พ.ค. คณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินวัดบ้านไร่ จะเดินทางมาร่วมประชุมและดำเนินการตรวจสอบทรัพย์สินตามขั้นตอน โดยจะเริ่มประชุมในเวลา 10.00 น. ที่ศาลาการเปรียญวัดบ้านไร่ ผู้ร่วมประชุมประกอบไปด้วยคณะสงฆ์อำเภอด่านขุนทด ตัวแทนคณะกรรมการวัดบ้านไร่ชุดเก่า และตัวแทนชาวบ้านไร่ ในส่วนของคณะกรรมการวัดชุดเก่าที่คาดว่าจะเดินทางมาเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ อาทิ นายธวัช เรืองหร่าย เหรัญญิกวัด และนายสมบูรณ์ โสตถิอนันต์



นายธวัฒน์ชัยกล่าวอีกว่า ในส่วนของทรัพย์สินที่ตนได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการวัดให้ดูแลตั้งแต่ต้นปี 2558 คือบัญชีเงินฝากของพิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ซึ่งหลวงพ่อต้องการจะหาทุนสร้างกุฏิสงฆ์ เนื่องจากกุฏิหลังเดิมปรับปรุงพัฒนาเป็นพิพิธภัณฑ์ไปแล้ว เงินในบัญชีในส่วนของพิพิธภัณฑ์ ปัจจุบันมีอยู่จำนวน 6.7 ล้านบาท ตนพร้อมชี้แจงเฉพาะส่วนที่เพิ่งเข้ามารับผิดชอบในปีนี้เท่านั้น ส่วนที่ผ่านมาตนเองไม่ทราบว่าใครดูแลอยู่ ต้องไปสอบถามคนที่เคยดูแลมาก่อน



กก.วัดระบุสิ้นสภาพตามหลวงพ่อ



ด้านนายเกรียงไกร จารุทวี อดีตรองประธานกรรมการวัดบ้านไร่ ผู้อำนวยการก่อสร้างวิหารเทพวิทยาคม อุทยานธรรมกลางน้ำ วัดบ้านไร่ ให้สัมภาษณ์ชี้แจงกรณีมีการกล่าวถึงสถานะหนี้สินหลวงพ่อคูณ ซึ่งเป็นค่าก่อสร้างวิหารเทพวิทยาคมกว่า 95 ล้านบาทว่า โดยหลักการเมื่อหลวงพ่อคูณละสังขาร สถานะของกรรมการวัดบ้านไร่ต้องสิ้นสภาพไปด้วย ด้วยมารยาทและความเหมาะสม ตนไม่สามารถก้าวล่วงได้ ควรรอให้คณะกรรม การวัดชุดใหม่ที่ได้รับการแต่งตั้งโดยชอบดำเนินการตรวจสอบทรัพย์สินและชี้แจงเรื่องราวทั้งหมด สำหรับตำแหน่งผู้อำนวยการวิหารเทพวิทยาคม หลวงพ่อคูณท่านเห็นชอบและลงนาม ให้ตนปฏิบัติหน้าที่อย่างถูกต้อง

 
ขอขอบคุณที่มา  ข่าวสดออนไลน์
 
.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X