รีวิว Cinderella ซินเดอเรลล่า เพจหนังโปรดของข้าพเจ้า
2015-03-12 23:00:48
Advertisement
คลิก!!!

 

1) เปรียบซินเดอเรลล่าเวอชั่น 'เคนเนธ บรานาห์' (ผกก. Thor ที่เคยได้รับคำชมในฝีมือสมัยกำกับหนังจากบทละครของเช็คสเปียร์) ก็คงเหมือนการเลือกร้านข้าวมันไก่ คุณอาจจะเลือกกินร้านประจำที่ประทับใจมาโดยตลอด อาเฮียเจ้าของร้านก็เปิดเพลงเพราะ ร้านจะดูเก่าแค่ไหนก็ยังไปกินซ้ำ ๆ เพราะผูกพัน นานทีปีหนโผล่ไปเจอร้านสูตรแปลก ๆ ก็อาจจะไม่ชอบ แต่ Cinderella เวอชั่นนี้ก็เหมือนร้านใหม่ที่โฆษณาว่าสูตรต้นตำรับแต่ตกแต่งจานเสิร์ฟให้สวยหรูอลังการ ถ้าคุณชอบข้าวมันไก่อยู่แล้ว คุณจะลองไปชิมดูไหมล่ะ

 

2) เนื้อเรื่องมันก็ซินเดอเรลล่าดั้งเดิมไม่ได้ตีความใหม่เหมือน Ever After พล็อตก็หญิงสาวกำพร้าโดนแม่เลี้ยงใจร้ายรังแก วันหนึ่งมีนางฟ้าใจดีแปลงโฉมได้ไปเต้นรำกับเจ้าชายในวัง แต่ว่าเวทมนตร์เสื่อมตอนเที่ยงคืนจึงต้องรีบหนีเจ้าชายออกมาโดยทิ้งรองเท้าแก้วไว้ต่างหน้า ซึ่งเจ้าชายผู้ตกหลุมรักหญิงสาวนิรนามได้ออกประกาศตามหาหญิงสาวผู้สามารถสวมรองเท้าแก้วได้พอดี

 

3) ในความเป็นพล็อตดั้งเดิม ผมขอชมว่าคนเขียนบทพยายามอธิบายทุกอย่างในเรื่อง Cinderella ให้มีเหตุมีผลมากขึ้น อย่างผมที่ค่อนข้างหงุดหงิดว่าทำไมนางซินต้องไปทนรับใช้แม่เลี้ยงใจร้ายด้วย ก็เข้าใจเหตุผลของซินเดอเรลล่าว่ารักและอยากดูแลบ้านหลังนี้ที่เป็นตัวแทนของพ่อแม่

 

4) ถ้าลองมอง Cinderella ในแง่มุมครอบครัวจะพบว่ามันบอกเล่าถึงหน้าที่การงานของคนเป็นพ่อที่แม้จะรักลูกรักภรรยาแค่ไหน แต่การที่ต้องเดินทางไกลตลอดมันทำให้เขาห่างเหินจากครอบครัวจนบางครั้งไม่เข้าใจความรู้สึกของลูกสาว ซึ่งเมื่อบทบาทแม่ที่ใกล้ชิดกับลูกสาวเสียชีวิตจึงทำให้ซินเดอเรลล่ากลายเป็นเด็กที่เคว้งคว้างและรู้สึกถูกแย่งความรักเมื่อแม่เลี้ยงคนใหม่เข้ามาพร้อมลูกติดอีกสองคน

 

5) เราเห็นการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ ของ Disney อีกอย่างคือบทบาทของนักแสดงผิวดำในหนัง ส่วนตัวไม่คุ้นเคยกับการที่หนังเจ้าหญิงหวานแหววของ Disney จะมอบบทสมทบเด่น ๆ ให้นักแสดงผิวดำ จึงรู้สึกว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีเพราะถ้าใครดูหนังฮอลลีวูดเยอะ ๆ หน่อยจะสังเกตเห็นแพทเทิร์นการวางตัวละครเป็นทีมในปัจจุบันว่าเขาบังคับต้องมี ผิวขาว ผิวดำ ผู้หญิง เกย์ให้ทำงานร่วมกัน

 

6) โปรดักชั่นงานสร้าง Cinderella ของ 'เคนเนธ บรานาห์' นับว่าเว่อร์วังอลังการมาก ทั้งงานออกแบบฉาก เครื่องแต่งกาย แต่งหน้าทำผม ทุกอย่างนี่เป็นเกรดคุณภาพลายเซ็น Disney และจัดเป็นจุดขายของหนังได้สบาย ๆ

 

7) ผมชอบการเล่าความรักระหว่างซินเดอเรลล่ากับเจ้าชายฉบับนี้ว่าเริ่มต้นจากความเข้าใจของหญิงสาวที่คิดว่าชายหนุ่มตรงหน้าเป็นเพียงคนธรรมดาทำงานในวัง การที่ทั้งคู่ได้พบกันก่อนจัดเต้นรำหาคู่จึงเป็นฉากที่น่าสนใจเพราะทำให้จุดประสงค์ที่ซินเดอเรล่าต้องการไปร่วมงานไม่ใช่เพราะอยากไปเต้น แต่เพราะอยากไปเจอชายหนุ่มที่ตัวเองปลื้ม(โดยไม่รู้ว่าเขาคือเจ้าชาย)

 

8) ตอนถึงฉากที่เจ้าชายต้องสวมรองเท้าแก้วให้ซินเดอเรลล่านี่ผมลุ้นมาก คือลุ้นว่า Disney จะกล้าแหวกขนบอันยาวนานด้วยการตัดบทไม่ต้องสวมรองเท้าแก้วไหม ฉากนี้มันมีที่มาจากการที่เจ้าชายประกาศจะแต่งงานกับหญิงใดก็ตามที่สวมรองเท้าแก้วข้างนี้ได้ พอมาเจอซินเดอเรลล่าที่ยอมรับตัวเองว่าเป็นเพียงสามัญชนคนธรรมดาที่รักเจ้าชาย ดังนั้นผมจึงอยากเห็นภาพเจ้าชายที่ได้พบซินเดอเรลล่า เลิกสนใจว่าหญิงคนนี้จะสวมรองเท้าแก้วได้หรือไม่เพราะยังไงสองคนนี้ก็รักกันโดยไม่จำเป็นต้องให้รองเท้าแก้วมาเป็นสาระสำคัญ

 

9) แอบแซว 'เคท แบลนเชตต์' นิดนึงว่าเล่นเหมือนอยู่ในหนังคนละเรื่องกับ 'ลิลี่ เจมส์' เคทเล่นล้นแบบแสดงออกชัดเจนมาก ส่วนสองลูกติดก็กลายมาเป็นตัวตลกที่น่ารำคาญสำหรับคนดู และยังมี 'เฮเลน่า' ในบทนางฟ้าก็เล่นได้ล้นมากกว่าจะรู้สึกบันเทิง แต่ก็นั่นแหละ เราคงไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายของหนังอยู่แล้ว

 

10) ในฐานะคนที่ไม่เคยดู Frozen อยากบอกว่าหนังสั้น Frozen Fever สนุกมากกกกกกกกกกก น่ารักมากกกกกกกกกกกกกกก เข้าใจเลยว่าทำไมคนถึงตกหลุมรักเอลซ่ากัน เนื้อเรื่องก็แค่เอลซ่าอยากจัดวันเกิดที่ดีที่สุดให้อันนา แต่ว่ามันมีตัวป่วนเป็นเจ้าลูกหิมะเล็ก ๆ ที่เกิดจากการจามของเอลซ่า (คิดดูว่าจามออกมาทีได้ตัวน่ารักออกมาที ฮ่าๆๆ)!! เป็นหนังสั้นที่ดำเนินเรื่องได้ดี หยอดมุกด้วยคาแรคเตอร์น่ารัก ๆ และป่วนกันสุด ๆ ดูแล้วชอบจนอยากดูเอลซ่าเต็ม ๆ ใน Frozen อยากรู้ว่าผมจะรักเอลซ่ามากกว่าราพันเซลไหม หะหะ

 

โดยรวมแล้ว Cinderella ฉบับนี้มันก็คือการทำซ้ำใหม่

รีวิวโดย แฟนเพจ หนังโปรดของข้าพเจ้า
 
ข้อมูลจาก    

http://www.popcornfor2.com หากนำไปใช้กรุณาให้เครดิตเว็บไซต์ด้วยค่ะ

 

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X