เชื่อหรือไม่ ก่อนที่เมเรียน ซี. คูเปอร์ ผู้สร้าง King Kong ต้นฉบับปี 1933 จะฝันถึงเรื่องราวลิงยักษ์ที่ครองใจคนทั่วโลกและถูกนำมาสร้างใหม่ถึงสองครั้ง คูเปอร์เคยนำเสนอเรื่องราวของครอบครัวคนไทยที่ดิ้นรนต่อสู้กับธรรมชาติ ในหนังสารคดีเรื่อง “ช้าง” (Chang) ที่ภายหลังเป็นต้นแบบให้ King Kong

ถ้าพูดอย่างเข้าข้างตัวเองมากๆ ถ้าไม่มี “ช้าง” ก็ไม่มี “คิงคอง” ถ้าไม่มีเมืองไทยที่เป็นสถานที่ถ่ายทำหนังเรื่อง “ช้าง” ก็คงไม่มีหนังเรื่อง “คิงคอง” ในแบบที่เรารู้จักนี้ แนวคิดการสร้างหนังคิงคองนั้นมาจากหนังสือแนวผจญภัยเกี่ยวกับแอฟริกาที่คูเปอร์เคยอ่านสมัยเป็นเด็ก แต่กระนั้น องค์ประกอบบางอย่างก็มาจากหนังเรื่อง”ช้าง” ถ้าคุณดูหนังเรื่อง “ช้าง” อย่างใกล้ชิด คุณจะเห็นว่ามีหลายอย่างที่เป็นต้นแบบให้ “คิงคอง” ดำเนินตาม ตั้งแต่เรื่องราวของป่าเขาที่ลึกลับอันตราย เป็นที่อาศัยของสัตว์นานาพันธุ์ที่ตัวใหญ่ อันตราย และลึกลับ นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวของการสำรวจ การค้นพบ และความน่าเกรงขามของโลกธรรมชาติ ฉากไคลแม็กซ์ของ”ช้าง“ที่เป็นฉากฝูงช้าง 400 เชือก แตกตื่น และมนุษย์ตัวเล็กๆ พยายามใช้สมองและเครื่องมือจับพวกมันขัง ทำให้นึกถึงฉากที่คองถูกนำไปยัง the Great White Way

“ช้าง” เป็นหนังที่ออกฉายในปี 1927 ในรูปแบบของหนังสารคดี ฉบับดั้งเดิมเมื่อแรกออกฉายมีฮิวโก ไรเซนฟิลด์ ทำดนตรีประกอบ ขณะที่ฉบับดีวีดีที่ออกจำหน่ายฉบับล่าสุดมีอาจารย์บรูซ แกสตัน ทำดนตรีให้ และบรรเลงโดยวงฟองน้ำ

หนังถ่ายทำในเมืองไทยทั้งหมด ซึ่งสมัยนั้นยังใช้ชื่อว่า”สยาม”อยู่ หนังบอกเล่าเรื่องราวของครอบครัวชาวลาวที่อาศัยอยู่ในไทย มีหัวหน้าครอบครัวชื่อครู และมีอาชีพทำนา ทั้งหมดไปปลูกบ้านหลังเล็กๆ อยู่กลางป่า ต้องอาศัยอยู่ร่วมกับสัตว์ป่ามากมาย ทั้งเสือ หมี หรือแม้แต่ช้าง ฉากฝูงช้างตื่นที่เป็นไคลแม็กซ์ของเรื่องถือว่าเป็นฉากที่ตื่นเต้นที่สุดฉากหนึ่งในประวัติศาสตร์โลกภาพยนตร์

ชีวิตของเมเรียน ซี. คูเปอร์ จัดได้ว่าเป็นชีวิตที่โลดโผนที่สุดที่มนุษย์คนหนึ่งจะทำได้ทีเดียว คูเปอร์เป็นนักบินเครื่องบินรบในสมัยสงครามโลกครึ่งที่หนึ่ง เคยเครื่องบินตก และเป็นเชลยสงครามหลายครั้ง เคยแม้กระทั่งถูกตัดสินประหารชีวิตตอนที่ทำเครื่องบินตกในแดนของรัสเซียระหว่างไปรบให้แก่โปแลนด์ แต่ก็หนีรอดออกมาได้ โดยเดินทางไกลฝ่าแนวข้าศึกถึง 400 ไมล์ ระหว่างสงคราม คูเปอร์ได้รู้จักกับเอิร์นเนสต์ บี. ชูแซ็ค ซึ่งถูกคอกันเพราะมีความฝันและรักการผจญภัยเหมือนกัน ทั้งคู่ได้ร่วมงานกันภายในฐานะผู้กำกับและตากล้องคู่ใจ

หลังจากสงคราม คูเปอร์ได้ร่วมทีมกับชูแซ็คออกสร้างหนังสารคดีด้วยกัน โดยเรื่องแรกในปี 1925 ชื่อ “Grass” เป็นเรื่องราวการอพยพของชาวเผ่าเผ่าหนึ่งข้ามแม่น้ำและภูเขาในดินแดนที่เป็นอิหร่านในปัจจุบัน ทั้งคู่ร่วมงานกันอีกในผลงานปี 1927 เรื่อง “ช้าง” ใช้เวลาถ่ายทำในสยามถึงหนึ่งปี หนังสารคดีทั้งสองเรื่องนี้ได้ถือเป็นการเปลี่ยนโฉมหน้าใหม่ของประวัติศาสตร์ภาพยนตร์เช่นกัน

ขณะที่เรื่องราวของ Grass เป็นการติดตามถ่ายทำชีวิตชนเผ่าที่ไม่เป็นที่รู้จักกันตะวันตก แต่ Chang มีการจัดฉากแบบหยาบๆ เอาไว้ก่อน ในหนังยังมีเจ้าจ๋อ สัตว์เลี้ยงของครอบครัวชาวนาที่เป็นตัวสร้างความขบขันให้แก่เรื่องราวด้วย ก่อนถ่ายทำ คูเปอร์และชูแซ็คได้ไปอาศัยอยู่กับครอบครัวของครูถึงสามเดือน เพื่อให้รู้จักชีวิตประจำวันก่อน เพื่อจะสามารถนำมาถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตในภายหลังได้ เสือ หมี และช้างในหนังเปรียบเสมือนอันตรายที่เข้ามาคุกคามชีวิต

ขณะที่ King Kong เปิดช่องให้นำกลับมาสร้างใหม่เป็นครั้งที่สองแล้ว หนังเรื่อง “Chang” และ “Grass” ถือเป็นสารคดีที่มีความพิเศษ เรื่องราวของแบบแผนชีวิตที่สูญหายไปจากยุคสมัย ไม่สามารถทำซ้ำอีกได้ คูเปอร์เคยคิดจะนำเรื่อง “Chang” กลับมาสร้างใหม่ในปี 1954 เขาก็พบอารยธรรมของมนุษย์ได้เจริญล้ำหน้าจนไม่สามารถให้เขาถ่ายทอดบรรยากาศดั้งเดิมได้อีก ทั้งรถและปืนได้เข้ามาสู่ชีวิตผู้คนจนทำให้มีอำนาจเหนือป่าไปแล้ว

http://jediyuth.wordpress.com