(25 มี.ค.) สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ญี่ปุ่นเดินหน้าประหารชีวิตนักโทษ 2 รายในคดีอุกฉกรรจ์ ท่ามกลางความเห็นสนับสนุนของประชาชนส่วนใหญ่ แม้จะมีเสียงทัดทานจากกลุ่มนักเคลื่อนไหวนานาประเทศที่เรียกร้องให้เลิกบังคับใช้โทษประหารชีวิตก็ตาม โดยเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมญี่ปุ่นแถลงว่าวันนี้นายยาสุโตชิ คามาตะ และ นางจุนโกะ โยชิดะ สองนักโทษได้ถูกประหารชีวิตแล้ว

ทั้งนี้ ญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกาเป็นเพียงประเทศพัฒนาแล้วที่ยังใช้บทลงโทษประหารชีวิตผู้กระทำผิดอยู่ โดยญี่ปุ่นประหารชีวิตนักโทษด้วยวิธีการแขวนคอ

สถานีโทรทัศน์นิปปอนรายงานว่า นางโยชิดะเป็นนักโทษในคดีฆ่าชาย 2 คนในช่วงปลายทศวรรษ 1990 เพื่อหวังเอาเงินประกัน ส่วนนายคามาตะเป็นฆาตกร 5 ศพ ที่มีเด็กหญิงอายุเพียง 9 ขวบตกเป็นเหยื่อด้วย

หลังการประหารชีวิตนักโทษของทางการญี่ปุ่น นายฮิเดกิ วากาบายาชิ เลขาธิการองค์การนิรโทษกรรมสากลญี่ปุ่น แถลงประณามการประหารชีวิตดังกล่าวว่าเป็นสิ่งที่น่าเสียใจอย่างยิ่งและขัดต่อแนวโน้มโลกที่มุ่งยกเลิกโทษประหารชีวิต โดยแม้ว่าในข้อเท็จจริงแล้วจะมีราว 140 ประเทศทั่วโลกที่ยกเลิกหรือยุติการประหารชีวิตมานานกว่า 10 ปีแล้ว ทว่ารัฐบาลญี่ปุ่นยังคงหันหลังให้กับแนวโน้มนี้

อย่างไรก็ดี รายงานระบุว่าผลการสำรวจหลายชิ้นที่มีออกมาแสดงให้เห็นว่าชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่สนับสนุนการใช้โทษประหารชีวิต แม้ว่าจะถูกต่อต้านจากรัฐบาลชาติยุโรปและกลุ่มพิทักษ์สิทธิมนุษยชนต่างๆก็ตาม

องค์กรเคลื่อนไหวด้านสิทธิหลายองค์กรชี้ว่าระบบของญี่ปุ่นโหดร้ายเพราะปล่อยให้นักโทษต้องถูกขังเดี่ยวระหว่างรอรับโทษประหารเป็นเวลาหลายปี และนักโทษจะได้รับแจ้งให้รู้ตัวเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้าที่จะถูกประหาร

เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ญี่ปุ่นประหารชีวิตนักโทษ 2 ราย ซึ่งรวมถึงกรณีของนักโทษรายแรกที่ถูกตัดสินประหารชีวิตหลังจากการพิจารณาคดีมีคณะลูกขุนเข้ามาเกี่ยวข้อง การกระทำดังกล่าวจุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากสหภาพยุโรปที่ชี้ว่าโทษประหารชีวิตเป็นสิ่งโหดร้ายและไร้มนุษยธรรม

ที่มา  http://news.sanook.com/1969822/