คู่จิ้นนักแสดงญี่ปุ่น ช่วยให้ฟินจนเรตติ้งพุ่งเลยหรือเปล่า!?
2015-05-10 13:08:28
Advertisement
คลิก!!!

ทุกวันนี้คู่จิ้นไม่ได้มีแค่ในการ์ตูน มังงะแล้ว แต่ยังเผยแพร่มายังวงการบันเทิงด้วย ไม่ใช่แค่ในวงการบันเทิงบ้านเราเท่านั้นที่มีคู่จิ้น ในวงการบันเทิงญี่ปุ่นเองก็มีเช่นกันค่ะ แต่จะออกมาในรูปแบบไหน แล้วส่งผลต่อความนิยมของดารา และเรตติ้งของผลงานหรือเปล่า? วันนี้จะมาเล่าให้ฟังค่ะ  

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักลักษณะของคู่จิ้นในฝั่งแดนปลาดิบกันก่อน ซึ่งคู่จิ้นของญี่ปุ่นจะแบ่งเป็น 2 สายใหญ่ๆ เลยคือ สายวงการละคร กับวงการศิลปินไอดอลค่ะ บทความนี้จะขอเล่าถึงคู่จิ้นในละครญี่ปุ่นกันก่อน  จะมีรูปแบบการจิ้นยังไงบ้างนั้นตามมาอ่านกันเลยค่ะ


1. โคจรมาเจอกันบ่อยในละครจนถูกจับคู่
คู่จิ้นกลุ่มนี้ ถูกจับมาจิ้นกันก็เพราะ “บังเอิญ” ได้มาแสดงคู่กันบ่อยๆ ค่ะ ซึ่งไม่ได้เกิดจากความตั้งใจของผู้จัดว่าอยากจับให้มาจิ้นกัน แต่จับมาเพราะเวลาเล่นละครแล้วมันทำให้เรื่องราบรื่นไปได้ด้วยดี เอามาเล่นคู่กันแล้วเคมีมันเข้ากันนะ คู่จิ้นที่เข้าข่ายข้อนี้ก็เช่น “เอตะ” กับ “จูริ อุเอโนะ” ค่ะ เป็นนักแสดงชายและหญิงที่เจอกันค่อนข้างบ่อยทีเดียว 

เริ่มเจอกันตั้งแต่ภาพยนตร์เรื่อง “Summer Time Machine Blue” ในปี 2005 เขาว่ากันว่าเป็นผลงานการแสดงเรื่องแรกที่ทั้งคู่มาเจอกัน

 

 

Eita&Juri จากเรื่อง “summer time machine blue”



 

“Nodame Cantabile” อันนี้แม้ไม่ได้คู่กัน แต่ก็ได้มารับบทเป็นเพื่อนกันในเดอะแก๊ง

 

 

แม้จะไม่ได้คู่กัน แต่ก็คอยดูอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ




ต่อมาก็เรื่อง “Last Friends” เรื่องนี้ก็ได้กลับมาเล่นคู่กันค่ะ เอตะเล่นเป็นชายหนุ่มที่ตกหลุมรักจูริที่รับบทเป็นทอมบอย! แต่เจ้ากรรมหญิงสาวกลับรับรักนั้นไว้ไม่ได้ แต่เอตะก็เลือกที่จะรักและดูแลต่อไป (โห้...ซึ้ง) และมาจบที่เรื่อง “Sunao ni Narenakute” เรื่องนี้ฝ่ายจูริต้องเป็นฝ่ายที่หันมาตกหลุมรักหนุ่มเอตะบ้างค่ะ 

 

 

“Last Friends” กับ “Sunao ni Narenakute” 
เป็นเรื่องที่แฟนๆ ละครประทับใจมากๆ ค่ะ



 

แถมยังเคยเล่นโฆษณาด้วยกันด้วยค่ะ

 

 

โฆษณาขนม Calbee สบตากันแบบนี้ กระตุ้นความฟินแบบสุดๆ ><”




คู่นี้เป็นคู่ที่ทั้งคนไทยและคนญี่ปุ่นเองต่างก็จับตามองว่า เอ...จะมีทางจิ้นเป็นจริง รักกันนอกจอไหม ก็ไม่อยากจะขัดใจคนอ่านในขณะที่กำลังฟินกันแบบสุดๆ หรอกนะคะ แต่ความจริงก็คือ หมดหวังไปได้เลยค่ะ เพราะจู่ๆ หนุ่มเอตะก็ประกาศแต่งงานกับนักร้องสาว Kaela Kimira (ที่ไม่รู้ว่าไปคบกันในตอนไหน) แถมตั้งท้องมีลูกแล้วด้วย #ร้องไห้หนักมาก!


2. เคมีเข้ากัน แต่ไม่ได้รักกันในละคร!
ละครญี่ปุ่นส่วนใหญ่ มักไม่ค่อยจับให้ตัวละครพระ-นางมารักกัน ลงเอยกันอย่างแฮปปี้แอนดิ้งง่ายๆ หรอกค่ะ และด้วยความอินของคนดู ก็เลยจับคู่จิ้นกันเองซะเลย คู่ดาราที่เข้าข่ายข้อนี้ก็คือ “โชตะ มัตสึดะ” และ “เอริกะ โทดะ” จากเรื่อง “Liar Game” ค่ะ

ใน Liar Game Final Stage ถ้าใครได้ดูจะเห็นฉากที่ “อากิยาม่า” (โชตะ มัตสึดะ) เหมือนจะกำลังสารภาพรักอยู่ แต่ไม่ได้พูดว่า “รัก” ออกไปตรงๆ ดูเหมือนจะลงเอยกันใช่ไหมคะ แต่เอาเข้าจริง ชีวิตต่อจากนั้น ก็ไม่มีใครรู้ว่า อากิยาม่ากับนาโอะจังได้รักกันจริงๆ หรือเปล่า แต่ไม่ว่าอย่างไร คนดูสายจิ้นและมโนแลนด์ก็จับคู่จิ้นให้ทั้งคู่ไปเรียบร้อยแล้วล่ะค่ะ!

 

 

โมเม้นต์จิ้นๆ นอกจอที่คนอยากให้มีแบบนี้ในจอจังเลย




3. อินจากในละครจนเอามาจิ้นกัน
 



ก็เคมีเข้ากันซะขนาดนี้ แฟนๆ จะอดใจไหวได้ยังไงล่ะคะ ออกแนวชนิดที่ว่าดูไปจิ้นไป เป็นการจิ้นที่เกิดจากความอินจากการแสดงในละครค่ะ เช่น เรื่อง “Love Generation” เห็นเขาว่ากันว่า ในยุคที่ละครเรื่องนี้ฉาย คนดูจิ้นทาคุยะกับทาคาโกะ ที่เล่นเป็นพระ-นางในเรื่องแบบสุดๆ ค่ะ แถมได้มาเล่นคู่กันอีกในเรื่อง“HERO” แต่ก็น่าเสียดายที่เป็นได้แค่คู่จิ้นในจอเท่านั้น....

 




ต่อไปก็มาที่คู่จิ้นจากละครยอดฮิตที่เคยถูกเอาไปสร้างในหลายๆ ประเทศ อย่างเรื่อง F4 หรือ “Hana Yori Dango” พระ-นางของเรื่องนี้ก็คือ “Matsumoto Jun” กับ “Mao Inoue” เป็นอีกคู่หนึ่งที่ใครๆ หลายคนจิ้นกันค่ะ และเมื่อไม่นานมานี้ก็มีข่าวลือออกมาว่า เหมือนทั้งคู่กำลังคบหาดูใจ และจะแต่งงานกันด้วย แต่จริงเท็จอย่างไร ตอนนี้ก็ยังไม่มีใครทราบแน่ชัดค่ะ ก็คงต้องจิ้นกันไปก่อน


แล้วคู่จิ้นมีส่วนช่วยเพิ่มเรตติ้งไหม?
ถ้าเป็นคู่จิ้นในสาย “ละคร” ขอตอบว่า “ไม่ค่อยช่วย” ในด้านเรตติ้งของละคร หรือความนิยมในตัวดารา-นักแสดงเท่าไรค่ะ ถ้าจะส่งผลต่อเรตติ้งละครคงจะเป็นในกรณีของ “ละครภาคต่อ” พระ-นางที่ดูเคมีเข้ากันแล้ว พอภาคต่อไปเปลี่ยนตัวละครไป คนดูก็จะเซ็งๆ บางคนถึงกับไม่ดูก็มีค่ะ ตัวอย่างเคสนี้เลยก็คือเรื่อง“Liar Game” ในภาค Reborn ได้มีการเปลี่ยนตัวนักแสดงนำหญิงจาก “เอริกะ โทดะ” ที่รับบทเป็นนาโอะ สาวน้อยสุดซื่อ จอมไร้เดียงสา เปลี่ยนเป็น “มิคาโคะ คาเบะ” มารับบทเป็นลูกศิษย์ของอากิยาม่า และเป็นตัวแสดงนำฝ่ายหญิงในภาคนี้ค่ะ มีคนดูหลายคนเหมือนกันที่รู้สึกผิดหวังกับภาคนี้

 

 

แต่ถึงอย่างนั้นภาคนี้ก็กวาดรายได้ไปไม่เบาเลยค่ะ ก็เรื่องมันสนุกซะขนาดนั้น




ระดับความดังหรือความนิยมของนักแสดงญี่ปุ่นมักจะมีความเป็นเอกเทศค่ะ พูดง่ายๆ ก็คือ “ดังได้ด้วยตัวเอง” ไม่จำเป็นต้องจับแพ็คคู่แล้วพากันดัง เห็นได้จากเรตติ้งละครที่พระ-นางคู่จิ้นเล่นด้วยกันจะพบว่า ไม่ค่อยส่งผลต่อเรตติ้งเท่าไรจริงๆ ค่ะ อย่างเรื่อง “Last Friends” กับ “Sunao ni Narenakute”  ที่มีคู่จิ้นเอตะกับจูริแสดงร่วมกัน “Last Friends” กวาดเรตติ้งไป 17.7 แต่ “Sunao ni Narenakute”   กวาดเรตติ้งไปได้แค่ 11.2 เท่านั้น (ทั้งๆ ที่เรื่องหลังเอตะกับจูริรับเป็นคู่เอกของเรื่องเลย ในขณะที่ Last Friends เป็นแค่คู่รองเท่านั้น)

การจับคู่พระ-นางมักจะออกแนวประมาณว่า ฝีมือดีทั้งคู่ ถ้าได้มาประชันบทบาทกัน คงจะมันส์น่าดู หรือบางทีแค่คัดนักแสดงนำฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมาแบบเด็ดๆ ก็เรียกคนดูได้แล้วค่ะ อย่างเรื่อง “Hanzawa Naoki”แค่ได้ Sakai Masato มาคนเดียวนี่ก็เอาอยู่แล้วค่ะ รวมถึงรสนิยมการดูละครของคนญี่ปุ่น ที่ไม่เน้นดูละครแนวรักๆ แต่จะเป็นแนวสืบสวนสอบสวน แนวชีวิต แนวอาชีพ แนวครอบครัว ดังนั้น จุดสำคัญของการทำละครเพื่อเรียกเรตติ้งก็เลยจะโฟกัสไปที่พล็อตมากกว่า ส่วนตัวละครก็จะเน้นไปที่ความเหมาะสมกับบทบาทในเรื่องนั้นๆ เพื่อเพิ่มความอินให้คนดู

ในด้านวงการละครญี่ปุ่น “คู่จิ้น” กลับไม่ใช่สิ่งสำคัญที่จะมาช่วยเสริมเรตติ้งละคร คู่จิ้นของเขาจะออกแนวเป็นส่วนประกอบเสริมที่เข้ามาเพิ่มสีสันให้มีความน่าสนใจมากขึ้น เป็นเรื่องระดับแฟนคลับที่แฟนๆ ละครเอามาฟินมาจิ้นกันบ้างเล็กน้อยแต่พองาม เลยทำให้เรื่องคู่จิ้นในวงการญี่ปุ่นเป็นเรื่องที่ค่อยๆ ฟินกันไปแบบนานๆ อย่างไม่รู้เบื่อ ในชนิดที่ไม่ได้มีกันจนเฟื้อ อีกไม่นานก็อาจเบื่อได้ ออกแนวประมาณว่า...จิ้นก็จิ้นได้ แต่ขอให้โฟกัสที่เรื่องงานเป็นสำคัญนะจ๊ะ



เรื่องโดย : ChaMaNow www.marumura.com

ขอขอบคุณที่มา  http://www.marumura.com/
 
 
.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X