เมื่อวันที่ 20 ส.ค. เอเอฟพีรายงานสถานการณ์ตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี เมื่อมีจรวดถูกยิงจากฟากเกาหลีเหนือมาตกในพื้นที่ของเกาหลีใต้ ทำให้กองทัพเกาหลีใต้ตอบโต้ด้วยการระดมยิงปืนใหญ่เข้าไปยังพื้นที่ของเกาหลีเหนือทันที
จากนั้นกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้แจ้งว่า ทางเกาหลีเหนือแจ้งข่มขู่เพิ่มเติมมาว่า ให้เวลาเกาหลีใต้ 48 ชั่วโมง สำหรับปลดทิ้งลำโพงที่หันหน้าไปทางฝั่งเกาหลีเหนือสำหรับการโฆษณาชวนเชื่อ ไม่เช่นนั้นจะโจมตีเกาหลีใต้
ด้านเกาหลีใต้ประกาศอพยพประชาชนที่อยู่ใกล้เขตปลอดทหาร หรือดีเอ็มซี ในเขตยองจอง ที่อยู่ทางเหนือของกรุงโซลราว 60 กิโลเมตร พร้อมสั่งการให้กองทัพเกาหลีใต้เข้าสู่สภาวะเฝ้าระวังขั้นสูงสุดแล้ว
กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ยังให้รายละเอียดถึงจรวดยิงมาจากพื้นที่ใน เกาหลีเหนือ ว่า ข้ามเขตดีเอ็มซีทางตะวันตกเข้ามาเมื่อเวลา 16.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ก่อนจะพุ่งลงตกในพื้นที่ของเกาหลีใต้ แต่ไม่มีผู้บาดเจ็บเสียชีวิต
จากนั้นกองทัพเกาหลีใต้สั่งยิงตอบ โต้ด้วยปืนใหญ่วิถีโค้งขนาด 155 มิลลิเมตร หลายสิบนัดไปยังจุดที่เกาหลีใต้คาดว่าเป็นฐานปล่อยขีปนาวุธดังกล่าวในเกาหลี เหนือ
เหตุการณ์นี้ถือเป็นเหตุตึงเครียดล่าสุด หลังกรณีทหารเกาหลีใต้เหยียบกับระเบิดเกาหลีเหนือในเขตดีเอ็มซี ทำให้เกาหลีใต้หวนใช้มาตรการเปิดลำโพงโฆษณาชวนเชื่อตามแนวชายแดนเพื่อตอบโต้ สร้างความโกรธแค้นให้กับเกาหลีเหนือที่ขู่จะระดมยิงปืนใหญ่ใส่เครื่องกระจายเสียง และตอบโต้การซ้อมรบร่วมประจำปีระหว่างเกาหลีใต้กับกองทัพสหรัฐอเมริกาที่กำลังจะมีขึ้นในสัปดาห์นี้
ก่อนหน้านี้ ทางการเกาหลีเหนือ เคยขู่จะโจมตีตอบโต้หากกองทัพสหรัฐอเมริกาและเกาหลีใต้เดินหน้ายุทธการซ้อมรบประจำปี "อัลจี ฟรีดอม" ซึ่งจำลองสถานการณ์ที่กองทัพเกาหลีเหนือบุกเข้าสู่พื้นที่ของเกาหลีใต้ โดยเหตุที่เกิดล่าสุด ทำให้หลายฝ่ายเกรงว่า จะทำให้เกาหลีเหนือและใต้เสี่ยงกลับมาสู้รบกันด้วยกำลังทางทหารแบบเต็มอัตราศึกอีกครั้ง
ทั้งยังเป็นการโจมตีครั้งล่าสุด ต่อจากเดือนพ.ย. 2553 ที่เกาหลีเหนือยิงปืนใหญ่ถล่มเกาะยองพยอง มีผู้เสียชีวิต 4 ราย แบ่งเป็นพลเรือน 2 คน และทหาร 2 นาย
ขอขอบคุณที่มา ข่าวสดออนไลน์