ข้อคิดจากคุณปู่ญี่ปุ่น ใช้ชีวิตโป๊เปลือยบนเกาะตามลำพัง
2012-04-19 15:38:03
Advertisement
Pyramid Game

 
 
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก vashtie.com
 
          คนเราเมื่อแก่ตัวลง ก็มักจะเลือกใช้ชีวิตบั้นปลายที่แตกต่างกันไป บางคนก็มีความสุขอยู่บนกองเงินกองทองที่ตัวเองได้สะสมมาทั้งชีวิต บางคนก็หันหน้าเข้าวัดหาความสงบในจิตใจ ขณะที่บางคนก็มีความสุขอยู่กับลูกหลาน แต่สำหรับคุณปู่ชาวญี่ปุ่นที่เรานำเรื่องราวมาฝากกันวันนี้ เห็นจะเป็นกรณีที่แปลกหน่อย เพราะเขาเลือกที่จะไปใช้ชีวิตตัวคนเดียวบนเกาะกลางทะเล นอนกลางดิน กินกลางทราย เปลือยกายอยู่กับธรรมชาติ ด้วยเหตุผลดี ๆ ที่ว่า เราไม่สามารถเอาชนะธรรมชาติได้ ดังนั้นก็จงใช้ชีวิตตามธรรมชาติดีกว่า
 
 
          คุณปู่คนนี้มีนามว่า มาซาฟุมิ นางาซากิ วัย 76 ปี ในอดีตเคยเป็นพนักงานด้านธุรกิจอุตสาหกรรมบันเทิงในญี่ปุ่น แต่เมื่อชีวิตได้ล่วงเลยมาถึงวัยเกษียณ คุณปู่กลับไม่เลือกที่จะอยู่กับลูกหลาน หรือพักผ่อนอย่างสุขสบายในบั้นปลายชีวิตเหมือนที่คนอื่นทำกัน แต่กลับออกเดินทางมุ่งหน้าสู่เกาะโซโตบานาริ เกาะเล็ก ๆ แสนสงบที่กว้างราว 1 กิโลเมตรซึ่งไม่มีนักท่องเที่ยวสัญจรไปมา จากนั้นคุณปู่ก็ถอดเสื้อผ้าอาภรณ์ทุกชิ้นออก แล้วใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายแต่สงบสุขอยู่บนเกาะเพียงลำพัง โดยสร้างเต็นท์เล็ก ๆ ไว้เป็นที่พักอาศัยหลบแดดฝนและแมลงที่ออกมารบกวนยามค่ำคืน 
 
          ส่วนเรื่องอาหารการกินของคุณปู่นั้น ก็ได้มาจากการออกเรือเดินทางไปยังเกาะที่อยู่ใกล้เคียงสัปดาห์ละครั้ง เพื่อซื้อน้ำดื่มและโมจิไปเป็นเสบียงสำหรับการใช้ชีวิตบนเกาะ โดยคุณปู่จะกินแต่โมจิวันละ 4-5 มื้อต่อวัน ขณะที่การชำระล้างร่างกายนั้น คุณปู่ก็ใช้วิธีการอาบน้ำฝน และรองน้ำฝนไว้ใช้ในยามจำเป็น 
 
 
          สำหรับการเลือกใช้ชีวิตอย่างปลีกวิเวกกับธรรมชาติแบบนี้ คุณปู่ได้เปิดเผยว่า "ผมไม่ทำในสิ่งที่สังคมบอกให้ทำ แต่ผมทำตามกฎของธรรมชาติ คนเราไม่สามารถเอาชนะธรรมชาติได้หรอก ดังนั้นจงทำตามมันซะ นั่นคือสิ่งที่ผมได้เรียนรู้เมื่อมาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ ซึ่งเป็นเวลาเกือบ 20 ปีแล้ว และการเดินเปลือยกายโทง ๆ แบบนี้ เป็นเรื่องไม่ปกติในสังคม แต่บนเกาะแห่งนี้ ผมรู้สึกว่าผมทำได้ มันเป็นเหมือนเครื่องแบบตามธรรมชาติ ถ้าหากใครสวมใส่เสื้อผ้า พวกเขาจะรู้สึกเลยว่าพวกเขาแปลกแยกจากที่นี่"
 
          ส่วนเรื่องสุขภาพของคุณปู่นั้น คุณปู่เปิดเผยว่า เขารู้ดีว่าการใช้ชีวิตแบบนี้ไม่ได้ดีต่อสุขภาพมากนัก แต่นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญเลย มันสำคัญที่ว่าเขาเลือกที่จะใช้ชีวิตอยู่บนเกาะแห่งนี้แล้ว จะตายก็ตายบนเกาะแห่งนี้นั่นแหละ โดยคุณปู่ได้กล่าวว่า "การหาที่ที่เราจะใช้ชีวิตจนลมหายใจสุดท้ายเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องทำนะ ยังไงคนเราก็ต้องตายอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าจะตายที่ไหน ที่โรงพยาบาล หรือที่บ้านที่มีครอบครัวอยู่พร้อมหน้า แต่ผมเลือกจะตายในที่ที่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ และผมก็ได้อยู่ที่นี่แล้ว ตายเมื่อไรก็เมื่อนั้น ผมไม่พยายามฝืนธรรมชาติ เพราะอย่างที่บอก คนเราไม่อาจเอาชนะธรรมชาติได้หรอก"
 
 
          ทั้งนี้ แม้ว่าความคิดของคุณปู่นางาซากิ จะดูแปลกแยกไปจากผู้สูงอายุหลาย ๆ คนที่ใฝ่ฝันถึงความสบายบนความร่ำรวยและการดูแลของลูกหลาน แต่มันจะสำคัญอะไรเล่า? ถ้าหากบั้นปลายชีวิตของคุณปู่ เขาได้เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับชีวิต ได้อยู่ในที่ที่มีความสุขที่สุด และได้ปลดปล่อยตัวเองออกจากพันธนาการต่าง ๆ แล้ว ซ้ำยังไม่เบียดเบียนใครอีก นั่นก็เพียงพอสำหรับการมีชีวิตอย่างมีความหมายบนโลกใบนี้แล้วมิใช่หรือ?
 
          บางที.. เรื่องราวของคุณปู่เรื่องนี้ อาจทำให้เราทุกคนต้องย้อนกลับมาถามตัวเองอีกครั้งว่า ชีวิตที่มีความสุขอย่างแท้จริงนั้น คือชีวิตสุขสบายที่กำหนดโดยค่านิยมของสังคม หรือชีวิตสุขสบายที่กำหนดด้วยใจของเรากันแน่? และนั่นอาจเป็นคำถามสำคัญของชีวิตที่เราต้องเก็บไว้.. เพื่อตอบตัวเอง
 


 

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X