Ted 2 : การคัมแบ๊กของหมีไม่แอ๊บจอมแสบ (1)
2015-08-02 19:21:54
Advertisement
คลิก!!!

ในปี 2012 หมีน่ารักแม้จะปากเสียแบบสุดๆ ตัวหนึ่งได้สร้างความสั่นสะเทือนเลือนลั่นไปทั่วโลก ด้วยรูปลักษณ์ขนปุกปุย ท่าเดินส่ายแบบไม่เหมือนใคร อารมณ์ตลกร้าย และพฤติกรรมที่ล่อแหลม พระเอกที่ไม่มีใครเหมือนตัวนี้ได้ส่งให้คอมเมดี้ฟอร์มเล็กจากยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์สและมีเดีย ไรท์ แคปิตัล เกี่ยวกับหนุ่มตกอับและเพื่อนรักขอเขา กลายเป็นคอมเมดี้เรท "R" ที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล

  ซัมเมอร์นี้ เซ็ธ แม็คฟาร์เลน กลับมาอีกครั้งในฐานะมือเขียนบท, ผู้กำกับฯ และนักพากย์ ของภาพยนตร์เรื่อง Ted 2 ภาคต่อของภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์ที่ส่งให้หมีจอมแสบตัวนี้โด่งดังเป็นพลุแตก เช่นเดียวกับ มาร์ค วอห์ลเบิร์ก (Transformers: Age of Extinction, The Other Guys) กลับมาอีกครั้งในบท จอห์น เบนเน็ตต์ เพื่อนำคู่หูสายฟ้าจนวันตายเข้าสู่ดินแดนที่ไม่เคยมีใครก้าวผ่านพ้นมาก่อน

    หลายปีที่เราไม่ได้เห็นจอห์นและเท็ด พวกเขายังคงใช้ชีวิตตามความฝันอยู่ในบอสตัน แม้ว่าตอนนี้จอห์นจะเป็นหนุ่มโสดเท็ดกลับได้ลงหลักปักฐานกับแทมี่-ลินน์ สาวในฝันของเขา เมื่อปัญหาชีวิตคู่เริ่มส่งผลต่อทั้งสอง เท็ดและแทมี่-ลินน์ก็เลยตัดสินใจจะมีลูกเพื่อประคับประคองชีวิตคู่เอาไว้ แต่แล้วความหวังของพวกเขาก็ต้องพังทลายเมื่อคอมมอนเวลธ์ ออฟ แมสซาซูเซทส์ประกาศว่าเท็ดไม่ใช่บุคคล แต่เป็นทรัพย์สิน ดังนั้น เขาจึงไม่มีสิทธิในการรับอุปการะได้ เขาถูกไล่ออกจากร้านขายของชำ และถูกแจ้งว่าการสมรสของเขาถูกยกเลิก

    ความโกรธและความผิดหวังทำให้เท็ดหาทางระบายความหงุดหงิด และขอให้เพื่อนซี้ของเขาช่วยเขาฟ้องร้องภาครัฐ เพื่อให้ได้สิทธิตามที่เขาสมควรจะได้ พวกเขาขอความช่วยเหลือจากสาวน้อยผู้ชื่นชอบการใช้กัญชาเพื่อการแพทย์ ซาแมนธา แอล. แจ็คสัน (อแมนดา ไซย์ฟรี้ด) ให้มาทำหน้าที่ทนายความของพวกเขา และเดินหน้าไปศาล แต่เมื่อเท็ดแพ้คดี ทั้งสามก็ต้องบุกตะลุยนิวยอร์กด้วยความหวังสุดท้ายที่จะเกลี้ยกล่อม แพทริค เมแกน (มอร์แกน ฟรีแมน) ทนายความสิทธิพลเมืองคนดัง ให้รับเดินหน้าอุทธรณ์คดีของพวกเขา ถ้าพวกเขาชนะ พวกเขาจะพิสูจน์ได้ว่าเท็ดไม่ใช่ตุ๊กตาหมีขี้เมาและเมายา แต่เป็นบุคคลที่คู่ควรกับการได้รับอิสรภาพเช่นเดียวกับชาวอเมริกันขี้เมาและเมายาคนอื่นๆ


    จุดเริ่มของ Ted 2 
    หลังจากความสำเร็จยิ่งใหญ่ของ Ted ในบ็อกซ์ออฟฟิศทั่วโลกและโฮมเอนเตอร์เทนเมนต์ ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีการพูดคุยถึงเรื่องซีเควลระหว่างทีมผู้สร้าง ยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์สและเอ็มอาร์ซี อย่างไรก็ดี สำหรับแม็คฟาร์เลน การสร้างภาคต่อไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ เขาอธิบายว่า "จริงๆแล้ว ผมไม่ได้วางแผนที่จะสร้าง Ted 2 แต่ไหร่ก็ตามที่หนังเรื่องไหนขายได้ เรื่องนี้ก็จะถูกพูดถึงขึ้นมา มันไม่มีเหตุผลที่จะสร้างภาคต่อถ้าคุณจะสร้างหนังซ้ำเดิม มันไม่ใช่เรื่องน่าพึงพอใจสำหรับผู้ชม และมันก็เป็นเรื่องน่าเบื่อสำหรับเราด้วยครับ"

    อย่างไรก็ดี แม็คฟาร์เลนยอมรับว่าเขาชื่นชอบตัวละครเหล่านี้มาก และภาพยนตร์แนวนี้ก็นำมาซึ่งไอเดียที่ไร้ขีดจำกัด "มันง่ายกว่าเยอะสำหรับคอมเมดี้ เพราะตามปกติแล้ว คอมเมดี้จะมีพื้นฐานจากตัวละครแทนที่จะมาจากพล็อตเรื่อง และคุณก็สามารถมองมันในแบบเดียวกับซีรีส์โทรทัศน์ก็ได้ คุณมีตัวละครพวกนี้ที่สามารถถูกนำไปใส่อยู่ในสถานการณ์ไหนๆ ก็ได้และเราก็รู้สึกว่าเท็ดและจอห์นสามารถแบกรับเรื่องราวที่ต่างออกไปโดยสิ้นเชิงได้ พวกเขามีความชัดเจนในตัวเอง ดังนั้น เราก็เลยคิดเรื่องการสร้างซีเควลที่มันคุ้มค่าขึ้นมา เรารู้สึกสนุกที่จะกลับเข้าสู่โลกใบนี้และคิดหาคำตอบว่าเราจะทำอะไรได้บ้างกับตัวละครเหล่านี้ที่จะแตกต่างจากภาคที่แล้วน่ะครับ"

    เมื่อพูดถึงเรื่อง Ted 2 สิ่งจำเป็นคือทีมงานสร้างสรรค์หลักจะต้องกลับมาอีกครั้ง นั่นหมายถึงแม็คฟาร์เลนจะต้องร่วมมือกับมือเขียนบทจาก Ted อเล็ค ซัลกินและ เวลเลสลีย์ ไวลด์ เพื่อเขียนบทภาคใหม่ และ แม็คฟาร์เลน ยังขยายธีมจากภาคแรก โดยเขาบอกว่าแม้ว่าการที่ตุ๊กตาหมีลุกขึ้นมามีชีวิตจะน่าทึ่งแค่ไหน แต่พอผ่านไปซักพัก คนก็จะเริ่มมองว่ามันเป็นเรื่องปกติ "มนุษย์เป็นสิ่งที่ปรับตัวเร็วมากๆ บางที หลังจากที่เท็ดลุกขึ้นมามีชีวิตไม่นานนัก คนก็คงจะคิดทำนองว่า "มันเกิดขึ้นแล้วนี่ ชีวิตก็ดำเนินต่อไป" เราพิจารณาไอเดียนี้และเราก็คิดว่าท้ายที่สุด เรื่องสถานะทางกฎหมายของเท็ดคงจะถูกหยิบยกขึ้นมาพูด"

    แต่ผู้กำกับก็สรุปว่าระดับความสบายใจแบบนี้จะระคนด้วยความระแวงตามสัญชาตญาณ เขากล่าวว่า "มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความเป็นเผ่าพันธุ์ สิ่งที่ทำให้เกิดความเสียหายกับเราคือเรามีความต้องการที่จะแบ่งคนเป็นกลุ่มเล็กๆ มันก็เลยอาจจะมีการต่อต้านไม่ให้ตุ๊กตาหมีมาเป็นพวกเดียวกับเรา ในแบบเดียวกับที่มีการต่อต้านไม่ให้พวกรักร่วมเพศมาเป็นพวกเดียวกับเรา รวมถึงการต่อต้านไม่ให้คนผิวสีมาเป็นพวกเดียวกับเราในบางเวลาด้วย ตัวละครของอแมนดามีบทพูดในหนังเรื่องนี้ที่เธอบอกว่าในความขัดแย้งด้านสิทธิพลเมืองทุกครั้ง เรามารับรู้ถึงมุมมองที่ยุติธรรมได้หลังจากเกิดเรื่องไปแล้วหลายปี เราไม่เคยเห็นมันระหว่างที่เรื่องกำลังเกิดขึ้นหรอก เพราะเรามักจะคิดว่าครั้งนี้มันไม่เหมือนเดิม"

    การคัดเลือกนักแสดง
    ในตอนที่แม็คฟาร์เลนและผู้อำนวยการสร้างเสนอไอเดียสำหรับ Ted 2 ให้กับวอห์ลเบิร์ก นักแสดงหนุ่มก็ใช้เวลาไม่นานนักในการตัดสินใจ "หนังภาคแรกเป็นคอมเมดี้เรท "R" ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลอย่างมีเหตุผล" วอห์ลเบิร์กเล่า "มันมีอารมณ์ขันที่น่าทึ่งแต่ก็มีเรื่องราวอบอุ่นหัวใจเหลือเกิน ใน Ted คุณจะเอาใจช่วยให้จอห์นรักษาความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเท็ดให้ได้ และเหตุผลที่ทำให้ผมตื่นเต้นเกี่ยวกับการสร้าง Ted 2 ก็เพราะผมรู้ว่าผมจะได้ร่วมงานกับเซ็ธ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมแสดงซีเควล เพราะผมรู้ว่าเซ็ธจะผลักดันมันไปอีกระดับ ตราบใดที่มันมีที่ให้ตัวละครเหล่านี้ได้ไปและมีสิ่งต่างๆ ให้พวกเขาได้ทำ คนก็จะอยากดูมันครับ"

    วอห์ลเบิร์ก เห็นพ้องกับผู้อำนวยการสร้างของเขาว่าจอห์นและเท็ดเป็นสุดยอดคู่หูสายฟ้า เขาเล่าให้เราฟังว่าเพื่อนซี้คู่นี้อยู่ในสถานะแบบไหน "ในภาคแรก จอห์นพยายามจะรักษาความสัมพันธ์กับเพื่อนซี้ของเขาเอาไว้ แต่เขาก็เป็นผู้ใหญ่มากขึ้นด้วย กลายเป็นผู้ชายอย่างที่แฟนสาวและภรรยาในอนาคตของเขาอยากให้เขาเป็น ตอนนี้ มันผ่านมาหลายปีแล้ว จอห์นหย่าและกลับไปเป็นหนุ่มโสดอีกครั้ง เขาไม่อยากจะเริ่มต้นความสัมพันธ์ใหม่เพราะเขาไม่อยากจะเจ็บปวดหรือเปิดเผยตัวเองในแบบนั้น"

    ในขณะที่จอห์นมีทัศนคติแบบ "อาบน้ำร้อนมาก่อน" คราวนี้เป็นตาของเท็ดที่ต้องพยายามรักษาความสัมพันธ์ที่สำคัญต่อเขาให้ได้ วอห์ลเบิร์กอธิบายว่า "เท็ดทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อยึดเหนี่ยวแทมี่-ลินน์เอาไว้ให้ได้ เขาอยากจะเป็นผู้ใหญ่ที่รับผิดชอบและเป็นพ่อคน ซึ่งนั่นนำมาซึ่งความท้าทายที่แตกต่างและน่าสนใจ เมื่อจอห์นและเท็ดร่วมมือกันในการฟ้องร้องรัฐเพื่อให้ได้สถานะบุคคลของเท็ด เราจะได้เห็นว่าพวกเขามีเหตุผลจริงๆ ที่ทำให้พวกเขาสู้ คนจะเอาใจช่วยให้เท็ดประสบความสำเร็จครับ"

    ผู้ที่แสดงประกบวอห์ลเบิร์กคือ อแมนดา ไซย์ฟรี้ดในบทซาแมนธา แอล. แจ็คสัน ทนายความสาวผู้รับทำคดีของเท็ดเพื่อประโยชน์ส่วนรวม เธอเป็นตัวละครที่แม็คฟาร์เลนเปรียบเทียบว่าเหมือนกับโดโรธี ลามูร์จากคอมเมดี้คลาสสิกจากบ็อบ โฮปและบิง ครอสบี้ นักแสดงหญิงเล่าว่า "ฉันได้แสดงใน A Million Ways to Die in the West กับเซ็ธ และเขาก็เป็นคนที่มีความภักดี ถ้าเขาชอบใครซักคน เขาก็จะร่วมงานกับคนๆ นั้นอีกครั้ง ชีวิตของเขาคืองานของเขา ฉันรบเร้าเขาตลอดหกเดือนหลังจากที่เราถ่ายทำเสร็จ และวันหนึ่งเขาก็โทรหาฉัน ฉันถามเล่นๆว่า "ถ้าฉันเล่น Ted 2 ล่ะจะเป็นยังไง" เขาโทรหาฉันหลายเดือนให้หลังแล้วถามว่า "ถ้าคุณมาแสดงเดือนมิถุนายนจะเป็นยังไง" แล้วเสนอบทคนรักใหม่ให้กับฉัน"

    ซัลกินอธิบายถึงเหตุผลที่หาคนรักใหม่ให้กับจอห์นว่า "เรารู้ว่าเราไม่ได้ตัวมิลา คูนิสมาสำหรับ Ted 2 และเราก็อยากจะใส่เรื่องนี้ลงไปในเรื่องและทำให้มันเป็นส่วนหนึ่งของความเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของจอห์น จอห์นเริ่มต้นจากอารมณ์ที่เศร้ามากๆ เพราะสิ่งต่างๆ ไม่ได้เป็นไปตามที่เขาคาดหวังกับผู้หญิงที่เขาแต่งงานด้วย ซึ่งหลายคนเข้าใจเรื่องนั้นได้ แล้วพอส่วนที่เกี่ยวกับกฎหมายของเรื่องราวเริ่มต้นขึ้น เราก็ได้รู้จักซาแมนธา และตระหนักว่าเธออาจะเป็นคนรักที่เหมาะสมกับเขาก็ได้ เธอเป็นสาวสุดเจ๋ง ในขณะที่ลอรี่มักจะบ่นจอห์นเรื่องการพี้กัญชาหรือเรื่องนั้นเรื่องนี้เสมอ ซาแมนธาเป็นคนง่ายๆ กว่าเยอะและตามจอห์นได้ทันมากกว่า เราหวังว่าตั้งแต่แรกที่ผู้ชมได้พบเธอ พวกเขาจะลุ้นให้ทั้งคู่ได้ลงเอยด้วยกันน่ะครับ"

    นักแสดงอีกคนหนึ่งที่ได้แสดงร่วมกับแม็คฟาร์เลนและวอห์ลเบิร์กคือเจสสิกา บาร์ธในบทแทมี่-ลินน์ เพื่อนร่วมงานของเท็ดที่ร้านขายของชำ ผู้เปลี่ยนสถานะจากการเดทกับตุ๊กตาหมีไปเป็นการแต่งงานกับเขาแทน "ตอนแรกทุกอย่างไปได้สวย แต่หลังจากแต่งงานได้สองสามปี พวกเขาก็ประสบกับปัญหาด้านการเงินและอารมณ์และมีการโต้เถียงที่ค่อนข้างจะดุเดือดเผ็ดร้อน" บาร์ธอธิบาย "พวกเขาคิดว่าการมีลูกจะทำให้พวกเขากลับมาคืนดีกันอีกครั้งค่ะ"

    ผู้ที่กลับมารับบทเดิมจากภาคแรกอีกคนหนึ่งคือจิโอวานนี่ ริบิซี่ในบท ดอนนี่ ผู้หมกมุ่นอยู่กับเท็ด และสลัดความคิดที่ว่าเขากับเท็ดจะไม่มีวันเป็นเพื่อนซี้กันไปไม่ได้เสียที นักแสดงหนุ่มเล่าให้เราฟังถึงตัวละครเจ้าคิดเจ้าแค้นของเขาว่า "ดอนนี่หลงใหลเท็ดครับ เขาเป็นแฟนหมายเลขหนึ่งและมันก็กลายเป็นเรื่องเลยเถิดไป ซึ่งนั่นอาจเป็นการพูดเบาไปหน่อย ในหนังเรื่องนี้ เขาโผล่ออกมาจากเงามืดของบอสตัน แต่ก็ยังมีภารกิจที่จะสานสายสัมพันธ์กับเท็ดให้ได้เหมือนเดิม เขาได้งานเป็นภารโรงที่บริษัทที่เป็นผู้ผลิตเท็ดเมื่อ 30 ปีก่อน ดอนนี่หาทางจนได้พบกับซีอีโอ ทอม เจสซัพ และเกลี้ยกล่อมให้เขาร่วมมือในแผนการไล่ตามเท็ดเพื่อสร้างเท็ดขึ้นมาอีกหลายๆ ตัว ซึ่งจะทำเงินให้กับบริษัทได้เป็นพันๆ ล้าน"

    นักแสดงหน้าใหม่ของแฟรนไชส์นี้รวมถึงเจ้าของรางวัลอคาเดมี อวอร์ด มอร์แกน ฟรีแมนในบท แพทริค เมแกน ทนายความของเท็ดและจอห์น ผู้เต็มใจนำคดีของพวกเขาขึ้นสู่ศาลระดับสูงที่สุดในประเทศ สตูเบอร์เล่าถึงจุดมุ่งหมายของตัวละครตัวนี้ใน Ted 2 ว่า "ไอเดียนี้ก็คือพวกเขาต้องแพ้คดีในแมสซาซูเซทส์ ทำให้ต้องมีทนายความเก่งๆ ในอเมริกาที่สามารถรับคดีนี้ได้ คนคนนั้นก็คือตัวละครของมอร์แกน ฟรีแมน และเขาก็ใช้ชีวิตอยู่ในนิวยอร์ก ซิตี้เสียด้วย พอเท็ด, ซาแมนธาและจอห์นรู้ว่าพวกเขาต้องการเขาและตัดสินใจอุทธรณ์คดี พวกเขาทั้งสามก็กระโดดขึ้นรถแล้วขับจากบอสตันไปนิวยอร์กครับ"

 

 

 

 

 

 

http://www.siamdara.com

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X