"มินิ คูเปอร์ เอส" รถไซซ์เล็ก หัวใจเรซซิ่ง
2014-10-01 09:28:08
Advertisement
คลิก!!!

ที่มา ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

โดย วุฒิณี ทับทอง

อวดโฉมพร้อมเปิดตัวไปก่อนหน้านี้ แล้ว สำหรับอีกหนึ่งความภูมิใจจากค่ายบีเอ็มดับเบิลยู กับรถยนต์นั่งไซซ์เล็ก "The new MINI" ที่นับวันยอดขายในบ้านเราจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ความสำเร็จของ "มินิ" นั้นถือว่าเดินมาถูกทางด้วยรูปแบบการทำตลาดที่เน้นไลฟ์สไตล์มาร์เก็ตติ้ง เป็นหลัก โดยผ่านมาแค่ 7 เดือน มินิมียอดขายโตขึ้นถึง 75% ถือว่าไม่ธรรมดา

ล่าสุด กฤษฎา อุตโมทย์ ผอ.ฝ่ายสื่อสารกิจการองค์กร ค่ายบีเอ็มดับเบิลยูไม่รอช้าใส่เกียร์หน้าสั่งลุยเนรมิตทริปทดสอบ The new MINI ขึ้น ภายใต้กิจกรรม "MINI Driving Experience : Form the Original" ขึ้น ขอบอกว่างานนี้ต้องไม่ธรรมดา"ประชาชาติธุรกิจ" มีโอกาสร่วมทริปทดสอบร่วมกับสื่อมวลชนเพื่อนบ้านจากสิงคโปร์

The new MINI เจเนอเรชั่นนี้ถือเป็นเจเนอเรชั่นที่ 3 ทีมงานจัดรถมินิมาให้ทดสอบครั้งนี้มีครบทั้ง 3 รุ่น คือมินิ คูเปอร์, มินิ คูเปอร์ เอส และมินิ คูเปอร์ ดี จอดเรียงรายหลากสี ทั้งแดง, เหลือง, ส้ม, ดำ เรียกว่าสีสันจัดจ้าน สดใสเหมือนลูกกวาดที่พร้อมจะโลดแล่นไปบนถนนด้วยการออกแบบในสไตล์ "คอนเทมโพรารี่" รถคันนี้มาพร้อมกับขนาดที่เพิ่มขึ้น ทั้งความยาว ความกว้าง และความสูง เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอย ความสะดวกสบาย และชุดไฟหน้าที่ออกแบบใหม่ กับไฟหน้าและไฟเลี้ยวแบบ LED พร้อมไฟเสริม เพิ่มช่วงส่องสว่างทางในมุมอับด้านหน้า เมื่อเลี้ยวหักมุม ติดตั้งไฟตัดหมอกแบบ LED รวมถึงติดตั้งที่ไฟท้าย


หลังจากนัดแนะเส้นทางและรูปแบบการขับขี่ในจุดพักรถแรก ก่อนมุ่งหน้าเข้าสู่สนามแก่งกระจานเซอร์กิต กระเป๋าเดินทางใบย่อมขนาด 2 วัน 1 คืน จำนวน 2 ใบ ถูกบรรจุในพื้นที่เก็บของด้านท้ายได้อย่างสบาย

ช่วงขาไปรับหน้าที่เป็นผู้โดยสาร ใครที่ต้องการสัมผัสความนิ่มนวลของช่วงล่างในรถมินินั้น ขอบอกว่าให้เปลี่ยนความคิดใหม่ เนื่องจากมินิถือเป็นรถที่มีจุดกำเนิดจากแนวคิดสไตล์โกคาร์ต ซึ่งทีมงานและนักออกแบบเองยังต้องการคงความดิบของช่วงล่างเอาไว้

มินิ ได้ออกแบบหน้าจอแสดงผลและคอนเซ็ปต์การทำงานรูปแบบใหม่ที่บนแผงหน้าปัดบริเวณ แกนพวงมาลัยด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวกับหน้าปัดวงกลมขนาดใหญ่สไตล์มินิที่แสดง ผลความเร็ว อัตราเร่งปริมาณน้ำมัน โดยหน้าปัดวัดความเร็วจะแสดงผลในรูปแบบสี และยังบ่งบอกถึงสถานะของเครื่องยนต์ ฟังก์ชั่นการใช้งานต่าง ๆ โดยรุ่นมินิ คูเปอร์ และคูเปอร์ ดี หน้าจอจะมีขนาดที่ 6.5 นิ้ว ส่วนรุ่นคูเปอร์ เอส มีขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 8.8 นิ้ว 

โดยระบบควบคุมในมินิ คูเปอร์ เอส คันนี้เป็นแบบ MINI Touch Controller เพียงปลายนิ้วสัมผัส ก็พร้อมตอบสนองการทำงาน มินิยังเพิ่มลูกเล่นด้วยไฟแอลอีดี ที่จะเปลี่ยนสีไฟรอบวงแหวนของหน้าปัด แถมสะดวกสบายด้วยระบบนำทาง MINI Navigation เรียกว่างานนี้ไม่มีหลง

เข้ามาถึงสนามแก่งกระจานเซอร์กิต ทีมงานได้เซตสนามไว้เป็นแทร็ก (บังคับ) ให้ผู้สื่อข่าวมีโอกาสได้ทดลองสัมผัสกับความหนึบแน่นของช่วงล่าง และความแม่นยำของพวงมาลัย โดยก่อนที่บรรดาสื่อมวลชนจะลงในแทร็กได้รับการต้อนรับจากสายฝนที่กระหน่ำลงมาไม่หนาเม็ด จนทีมงานต้องรอให้ฝนหยุด

ก่อนที่จะตรวจเช็กความปลอดภัยของสนามอีกครั้งกับแทร็กทดสอบที่มีทั้งการขับแบบเลนเชนจ์สลาลอมหรือการวางแทร็กให้เข้าโค้งแบบหักศอก แถมมีความลื่นหลังสายฝนกระหน่ำ ไม่ได้ทำให้รถเสียทรง เรียกว่าเอาอยู่ทุกโค้งบนย่านความเร็ว

หลังจากนั้นมีโอกาสสัมผัสกับมินิ คูเปอร์ เอส ในรูปแบบการใช้งานบนท้องถนนจริง ๆ บอกได้คำเดียวว่า ไม่ผิดหวัง ทั้งความคล่องตัวด้วยความได้เปรียบในเรื่องขนาดของรถที่หน้าสั้น หลังสั้น ทำงานผสานกับเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร ที่ 192 แรงม้า กับเครื่องยนต์ 4 สูบ ที่สร้างแรงบิดมหาศาลถึง 280 นิวตัน-เมตร 

ไม่ผิดหวัง...เครื่องยนต์พร้อมตอบสนองทุกครั้งที่กดแป้นเรียกความเร็ว เผลอแป๊บเดียวเข็มไมล์ทะยานไปอยู่ที่ระดับ 180-190 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แถมยังพร้อมจะวิ่งขึ้นไปต่อได้อีก แต่เพื่อความปลอดภัยและไม่ประมาททั้งผู้ขับและเพื่อนร่วมเส้นทาง ลดระดับความเร็วลง ขับในรูปแบบปกติ

ถึงตรงนี้ต้องบอกว่า มินิยังเป็นรถที่มีกลิ่นอายความดิบ ที่ไม่ว่าใครที่เข้าไปนั่งด้านหลังพวงมาลัยสัญชาตญาณนักแข่งจะถูกปลุกขึ้นมา ให้ความครบเครื่อง ทั้งหนึบแน่น คล่องตัว ขุมกำลังของเครื่องยนต์พร้อมตอบสนอง

บางคนอาจจะไม่ชอบในเรื่องของความกระด้างและการเซตช่วงล่าง ที่กระเด้งกระดอน สัมผัสได้ถึงสภาพถนนต่างๆ ซึ่งเป็นแคแร็กเตอร์ของรถ และ...โดยส่วนตัวแล้วถือว่าสอบผ่าน



ที่มา  ข่าวสดออนไลน์

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X