8 วิธีใช้มือถือ"ให้แบตทนนานไม่ต้องกังวลแบตหมดไว
2015-06-19 21:32:39
Advertisement
Pyramid Game
ผู้ใช้สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต Android หลายคนคงเคยประสบปัญหาที่ว่า แบตเตอรี่ Android หมด เร็ว ใช้ได้ไม่ถึงวันก็ต้องนำไปชาร์จ หรือต้องคอยพกแบตเตอรี่สำรอง (Power Bank) ติดตัวตลอด ซึ่งในทิป/ ทริค นี้เราจะมาเรียนรู้เทคนิค วิธีการประหยัดแบตเตอรี่ บนมือถือAndroid ให้ใช้ได้ตลอดทั้งวันกันครับ 
 
1. ปิด Bluetooth, GPS และ NFC
 
Screenshot_2013-06-24-14-59-53
  • การเปิดบลูทูธทิ้งไว้นับว่าเปลืองแบตเตอรี่มาก แนะนำให้ปิดไว้ และเวลาใช้ก็พยายามให้มือถืออยู่ในวงของ Bluetooth ที่ เราต้องการจะรับส่งข้อมูล เพราะถ้ายิ่งเอาออกห่างเท่าไหร่ มือถือเราก็จะประมวลผลในการค้นหาอุปกรณ์ Bluetooth ของอีกเครื่องมากเท่านั้น
  • คุณรู้หรือไม่ว่า GPS นั้นกินแบตเตอรี่มากกว่า Bluetooth เยอะพอสมควร ถึงแม้ว่า GPS จะช่วยให้อุปกรณ์ Android ทำงานได้เป็นอย่างดีในแอพพลิเคชั่นต่างๆ แต่พอถึงเวลาที่คุณต้องการที่จะ ประหยัดแบตเตอรี่ ก็ควรที่จะปิด GPS โดยเฉพาะตอนที่คุณเคลื่อนที่ไปไหนต่อไหน โดยที่ไม่ได้ใช้อุปกรณ์ Android
  • ส่วน NFC บ้านเราไม่ค่อยได้ใช้กันอยู่แล้ว อาจจะมีใช้บ้างเล็กน้อย เช่น แลกเปลี่ยน Contact หรือส่งไฟล์ให้กัน เป็นต้น เพราะฉะนั้น ควรปิดไว้ ถ้าต้องการจะเปิดก็ทำ Shortcut ไว้หน้า Home Screen ก็ได้ครับ จะช่วยประหยัดเวลาในการเปิด NFC

 
2. ปิดการใช้งานในส่วน "ระบุตำแหน่งด้วย Wi-Fi" (Wi-Fi Network Location Positioning)
 
Screenshot_2013-06-24-14-56-57
  • ถึงแม้ว่า Android จะใช้ GPS ในการระบุตำแหน่งของคุณ แต่ยังมีอีกหนึ่งวิธีที่สามารถระบุตำแหน่งได้นั่นคือ "การระบุตำแหน่งด้วย Wi-Fi" ซึ่งจะใช้ Wi-Fi ในการค้นหาตำแหน่ง และกินแบตเตอรี่น้อยกว่า GPS อย่างไรก็ตามปิดไว้ดีกว่าเมื่อไม่จำเป็นต้องใช้ โดยไปที่ Setting > Location และติ๊กเครื่องหมายถูกออกในช่อง "Wi-Fi Network Location Positioning" หรือถ้าเป็น Androidเวอร์ชั่นใหม่ๆ ก็จะเป็น "Wi-Fi & mobile network location" นั่นเองครับ

 
3. พยายามใช้ Wi-Fi เมื่อมีสัญญาณ และปิด Wi-Fi เมื่อทีการเคลื่อนที่
 
Screenshot_2013-06-24-14-57-17
  • การค้นหาสัญญาณ Wi-Fi ของ Android นั้นกินแบตเตอรี่เยอะพอสมควร เพราะฉะนั้นเวลาต่อ Wi-Fi ต้องไม่เคลื่อนที่บ่อยๆ และอย่าลืมปิด Wi-Fi เมื่อมีการย้ายตำแหน่ง หรือระหว่างที่เคลื่อนที่ แต่ถ้าเป็นการใช้งานอยู่กับที่แนะนำให้เปิด Wi-Fi เพราะกินแบตเตอรี่น้อยกว่า 3G ครับ

 

4. ลดความสว่างของหน้าจอ

Screenshot_2013-06-24-14-57-29
  • ยิ่งหน้าจอใหญ่เท่าไหร่ ก็ยิ่งกินแบตเตอรี่มากเท่านั้น ดังนั้นเวลาที่คุณต้องการที่จะเซฟแบตเตอรี่ให้ใช้ได้ทั้งวัน ก็ควรที่จะปรับความสว่างของหน้าจอ ให้อยู่ในระดับที่พอเหมาะ หรือถ้าเป็น มือถือ Android รุ่นใหม่ๆ ก็จะมีเซนเซอร์ที่สามารถปรับความสว่างของหน้าจอได้โดยอัตโนมัติเลยครับ

 
5. ใช้ Wallpaper โทนสีดำ
  • สำหรับข้อนี้เหมาะกับ มือถือ Android ที่ใช้หน้าจอแบบ AMOLED เช่น Samsung ตระกูล Galaxy ทั้งหลาย เป็นต้น โดยการใช้ Wallpaper โทนสีดำจะช่วยให้ลดการแสดงผลของแต่ละ Pixels
  • หมายเหตุ ข้อนี้อาจจะช่วย ประหยัดแบตเตอรี่ ไม่ได้เยอะเท่าไหร่ครับ

 


 

6. จัดการ Clear แอพพลิเคชั่น ที่ไม่ได้ใช้

Screenshot_2013-06-24-14-57-55
  • บางคนอาจจะเปิดแอพพลิเคชั่นเยอะเกิน จนลืมปิด ทำให้ระบบทำงานหนักจนเกินกว่าที่หน่วยประมวลผลจะรับไหว ส่งผลให้เครื่องร้อน และกินแบตเตอรี่ .. แนะนำให้ปิดแอพพลิเคชั่นที่เปิดทิ้งไว้ โดยกดปุ่ม Home ค้าง แล้วปัดแอพที่ไม่ได้ใช้ออกไป หรือว่าจะไปที่ Settings > Apps > Running > เลือกแอพ และกด Stop เพื่อหยุดการทำงานของแอพนั้นๆ

 


 
7. ตรวจสอบการใช้งานแบตเตอรี่ของแต่ละแอพ
Screenshot_2013-06-24-14-58-37
  • ระบบปฏิบัติการ Android ให้คุณได้ตรวจสอบปริมาณการใช้แบตเตอรี่ของแต่แอพพลิเคชั่นได้ โดยไปที่ Settings > Baterry โดยในหน้านี้คุณสามารถ Tap แต่ละแอพ เพื่อที่จะดูข้อมูลการใช้แบตเตอรี่ และถ้าแอพไหนที่ไม่ได้ใช้ หรือใช้เสร็จแล้ว ก็ควรที่จะปิดการใช้งานด้วยครับ

 


 
8. กินแบตดีนัก Root Android ซะเลย
Screenshot_2013-06-24-14-59-09
  • การ Root เครื่องบน Android ก็เหมือนกับการ Jailbreak/ Unlock บน iOS นั่นแหละครับ ประโยชน์ของการ Root เครื่องสามารถปรับแต่งเครื่องให้ประหยัดแบตเตอรี่ได้ ดังนี้
    • ถอนการติดตั้งแอพที่ติดมาจากโรงงานได้
    • กำหนดความเร็วของหน่วยประมวลผลให้ช้าลง (วิธีนี้ช่วยให้ประหยัดแบตเตอรี่มากๆ ครับ)
    • ลง custom ROM ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องดีขึ้น
    • ใช้แอพ ROM Toolbox ให้คุณปรับแต่งการใช้แบตเตอรี่ได้หลากหลายวิธี
หมายเหตุ การ Root เครื่องต้องมีความรู้เรื่องระบบ Android นิดนึง เพราะมีความเสี่ยงอาจจะทำให้เครื่องของคุณได้รับความเสียหายได้

 


สำหรับ 8 วิธีประหยัด แบตเตอรี่ Android ที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น เป็นเทคนิคที่สามารถนำไปใช้จริง และใช้ระยะเวลาเพียงไม่นาน ลองไปปรับใช้กันดูนะครับผม
 

ที่มา: http://www.newstimeline.net/2015/06/8.html 
แหล่งอ้างอิง http://www.oneclickroot.com

ขอขอบคุณที่มา  http://www.postjung.com/
 
 
.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X