เมื่อวันที่ 5 พ.ค. นางรัฐค์ภีฬา ชัยเรืองกิตติ์ หรือ"ส้ม ตีสิบ" เปิดเผยกับ ข่าวสดออนไลน์ ว่า ที่ผ่านมาในช่วงกลางปี 2558 ตนได้รับการทาบทามจากเอเจนซี่แห่งหนึ่งในไทยเพื่อไปศัลยกรรมที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งย่านกังนัม เกาหลีใต้ โดยเอเจนซี่ได้ขายฝันว่าถ้าตนไปทำศัลยกรรมที่โรงพยาบาลแห่งนี้แล้ว จะทำให้ตนสวยขึ้นโดยไม่ต้องไปศัลยกรรมอีก จากนั้นจะให้ตนเป็นพรีเซ็นเตอร์นางแบบให้กับโรงพยาบาล

ภาพถ่ายล่าสุดของส้ม ตีสิบ

 "ส้ม ตีสิบ"กล่าวว่า ตอนนั้นตนจึงตอบตกลงและเซ็นสัญญาเป็นระยะเวลา 5 ปี โดยในการผ่าตัดครั้งนี้ประกอบด้วย ผ่าตัดโครงหน้า เลื่อนขากรรไกร ทุบโหนก ทำวีไลน์ ขูดซิลิโคนเหลว เปลี่ยนตา เปลี่ยนจมูกใหม่ ดึงหน้า ดูดไขมันแก้ม ดูดไขมันเหนียง เลือนกระดูกที่คาง

จมูกเบี้ยวหลังผ่าตัดศัลยกรรม

 นางรัฐค์ภีฬา กล่าวอีกว่า หลังผ่าตัดสภาพหน้าโดยรวมตนพอใจ แต่มีปัญหาตรงที่จมูกและมีการแก้ไขไปแล้ว 3 ครั้ง แต่ยังมีปัญหาเหมือนเดิม จมูกผิดรูปผิดร่าง เบี้ยวอย่างเห็นได้ชัด ปลายแหลมจนเหมือนจะทะลุ แผลผ่าตัดไม่เรียบ และการผ่าตัดแก้ไขทำติดต่อกัน ครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 ส.ค. 58 ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 28 ส.ค. 58 และครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 26 ต.ค. 58 ซึ่งการผ่าตัดติดต่อกันแบบนี้ไม่ใช่หลักวิธีการที่ถูกต้อง เพราะการแก้ไขอย่างน้อยต้องใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 1 - 3 เดือน

หลังผ่าตัดแก้ไขครั้งที่ 2 จมูกก็ยังเบี้ยว

 "ส้มผ่าตัดแบบโอเพ่นรีคอน (Open recon) ที่ต้องใช้เวลาพักฟื้นอย่างน้อย 6 เดือน แต่แพทย์ที่โรงพยาบาลกลับบอกว่าสามารถผ่าตัดแก้ไขได้เลย เมื่อผ่าตัดครั้งที่ 3 แล้วแต่ยังไม่เหมือนเดิม ส้มจึงไม่มีความมั่นใจในความปลอดภัย อีกทั้งยังมีผลพวงมาจากการศัลยกรรมที่เกาหลี เพราะขณะนี้ส้มอ้าปากกว้างไม่ได้ ทานข้าวลำบาก พูดไม่ชัดเหมือนคนเป็นหวัด หลังหูบริเวณที่นำกระดูกหลังหูไปเสริมจมูกเป็นแผลคีลอยด์ ตามองไม่ถนัด"

แผลเป็นที่หู

 ส้ม ตีส้ม กล่าวว่า ข้อตกลงที่ตนทำกับโรงพยาบาลโดยผ่านเอเจนซี่นั้น ต่างได้ประโยชน์ร่วมกันหากโปรเจคสำเร็จ แต่ตลอดเวลาที่ตนอยู่ที่เกาหลีทรมานมาก ต้องแกล้งโพสต์ลงเฟชบุ๊คว่าสบายดี เอเจนซี่จะสั่งอะไรตนก็ทำตาม เถียงไม่ได้เพราะมีบุญคุณ แต่ในวันที่ตนมีปัญหาเอเจนซี่ไม่สนใจและไม่ติดต่อมา เพียงแต่บอกว่าให้ไปแก้ไขที่โรงพยาบาลแห่งเดิม แต่ตนไม่มีความมั่นใจในกระบวนการรักษา จึงตัดสินใจผ่าตัดแก้ไขที่ประเทศไทย โดยตนเสียค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด แต่ทั้งหมดที่เกิดปัญหานี้ ตนไม่ได้เรียกร้องอะไรกับเอเจนซี่ เพียงแต่อยากให้ติดต่อกับโรงพยาบาลที่เกาหลีเพื่อยกเลิกสัญญาทั้งหมด แต่กลับโดนเอเจนซี่ขู่ว่าจะฟ้องตน เพราะตนทำผิดสัญญากับโรงพยาบาล

 นางรัฐค์ภีฬา กล่าวอีกว่า นอกจากกรณีของตนแล้ว เอเจนซี่รายนี้ยังพาผู้เสียหายรายอื่นเพื่อพาไปทำศัลยกรรมจมูกด้วยวิธีการผ่าเอาซี่โครงและกระดูกหลังหูมาใช้ แต่เป็นโรงพยาบาลแห่งอื่น เมื่อผ่าตัดเสร็จผู้เสียหายมีอาการปวดบวมที่บริเวณซี่โครง กระทั่งพบว่ามีผ้าก็อตอยู่ในท้องตามที่เป็นข่าว

ที่มา  ข่าวสดออนไลน์