จาก The King’s Face สู่ The Three Musketeers

จะว่าไปแล้วสำหรับคอซีรีส์เกาหลีแนวพีเรียดอิงประวัติศาสตร์เกาหลีคงคุ้นเคยดีว่า ซีรีส์เกาหลีหลายเรื่องอ้างอิงถึงตัวละครในประวัติศาสตร์ในยุคสมัยเดียวกันแต่คนละมุม เรียกได้ว่าคนผลิตซีรีส์เกาหลีเก่งอีกแล้วที่ถ่ายทอดเรื่องราวในประวัติศาสตร์ของเขาได้อย่างชวนติดตามผ่านฉากรักหวาน ๆ ขององค์ชายบ้าง แม่ทัพบ้างหรือตัวละครสำคัญในประวัติศาสตร์คนอื่น ๆ ที่ถูกนำมาใช้เดินเรื่องอย่างมีสีสัน จนคนดูสนุกสนานแล้วเผลอไปตามสืบค้นเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของเกาหลีกันให้วุ่นวายเชียว  เชื่อนะว่าคอซีรีส์หลายคนเป็นแบบนั้น

สำหรับซีรีส์สองเรื่อง สองรส อย่าง The King’s Face และ The Three Musketeers จากสองค่ายและจากผลงานของผู้เขียนบทคนละคนนั้น ถ้าลำดับเรื่องราวกันจริง ๆ แล้วสองเรื่องนี้ความน่าสนใจตรงที่ เนื้อเรื่องมีความเกี่ยวข้องกัน  แต่ว่าเกี่ยวอย่างไรนั้นผู้เขียนจะขอสาธยายเป็นข้อ ๆ ใครยังไม่ได้ชมก็ลองหยิบซีรีส์พีเรียดสองเรื่องนี้มาดูกันนะ

The King’s Face ของค่าย Kbs คือเรื่องราวขององค์รัชทายาทควางเฮ ซึ่งรับบทโดย ซออินกุก พ่อหนุ่มน้อยนัยน์ตาเฉี่ยวผู้โด่งดังจากซีรีส์เรื่อง Reply 1997 โดยเนื้อหาเน้นให้เห็นถึงพระปรีชาสามารถ คุณงามความดีในมุมที่รัชทายาทควางเฮได้สร้างไว้ให้แก่แผ่นดินและทรงเป็นที่รักของประชาชนแต่ที่น่าสงสารคือพระองค์ไม่ได้ทรงเป็นคนโปรดของพระราชาผู้เป็นพระบิดา  ( ลีซึงแจพระเอกรุ่นพี่รับบทพระราชาซอนโจ )  แถมตำแหน่งรัชทายาทที่ได้มานั้นก็ได้มาแบบฟลุ๊ค ! บรรยากาศของการเดินเรื่องก็เหมือนซีรีส์พีเรียดทั่ว ๆ ไปคือ ถ่ายทอดให้เห็นขั้วอำนาจของขุนนาง การบ้านการเมือง การช่วงชิงอำนาจ แต่ที่เก๋คือมีนำเสนอเกี่ยวกับความเชื่อด้านนรลักษณ์ ศาสตร์ของโหงเฮ้งบนใบหน้า และการทำนายทายทักดวงชะตาผู้คนจากใบหน้านำมาสร้างปมปัญหาของเรื่อง ในมุมของบทละครแม้ในรายละเอียดเชิงลึกจะดูขาดเหตุผลไปบ้างแต่ในภาพรวมเรื่องนี้ก็ดูกันได้อย่างสนุกสนานเหมือนกัน   จะว่าไปแล้วเรื่องราวของรัชทายาทควางเฮ ถูกนำมาทำซีรีส์หลายเรื่องมาก เช่น Goddess Of Fire นำแสดงโดยนางเอกเจ้าบทบาทอย่าง มุนกึนยองกับ ลีซังยุน  ซึ่งทั้ง The King’s Face  และ Goddess Of Fire  เปิดเผยเรื่องราวเกี่ยวกับรัชทายาทผู้ได้เป็นพระราชาแต่ทรงมิได้พระรับพระนามของพระราชาไว้ให้ผู้ชมสงสัย จนหลายคนต้องไปค้นคว้าประวัติขององค์ชายพระองค์นี้กันต่อจนได้

ขณะที่ The Three Musketeers ของค่าย Tvn คือเรื่องราวในยุคถัดมา ในสมัยที่รัชทายาทควางเฮถูกปลดลงจากตำแหน่งแล้วพระเจ้าอินโจซึ่งเป็นองค์ชายผู้เติบโตอยู่นอกวังได้รับการแต่งตั้งขึ้นเป็นพระราชาแทนภายใต้การสนับสนุนจากขุนนางถ้ามองย้อนไปในเรื่อง The King’s Face แล้วพระเจ้าอินโจก็คือลูกชายของลูกชายคนเล็กพระสนมคิม รับบทโดยคิมคยูริ จึงกล่าวได้ว่า ซีรีส์สองเรื่องนี้มีช่วงเวลาในประวัติศาสตร์ที่ต่อเนื่องกันนะ เพราะจบเรื่อง The King’s Face แล้วถ้าอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในยุคต่อมาก็ต้องดู The Three Musketeers ต่อเลย โดย The Three Musketeers คือเรื่องราวของรัชทยาท ซูฮยอนผู้ทรงมีพระปรีชามากไม่น้อยกว่าองค์ชายควางเฮ กล่าวกันว่าทรงเป็นผู้เล็งการณ์ไกล ถ้าหากได้ทรงเป็นพระราชา แผ่นดินโซซอนยุคนั้นอาจไม่ต้องเป็นเบี้ยล่างของจีน แต่ตามประวัติศาสตร์นั้นองค์รัชทายาทซูฮยอนก็ไม่ได้เป็นพระราชานะ ส่วนรายละเอียดเป็นไปอย่างไรนั้น เรื่องราวก็หลอกเราให้ไปสืบค้นข้อมูลต่อเอง นั่นเหมือนอุบายที่คนเขียนบทละครเกาหลีได้จุดประกายความสนใจใคร่รู้ของคนดูไว้เรียบร้อยแล้ว หลอกคนดูตามเรียนรู้ประวัติศาสตร์เกาหลีกันอย่างเนียน ๆ

The Three Musketeers รับบทด้วยลีจินวุค พระเอกผู้มีความสามารถในการแสดงออกทางสายตาอย่างยอดเยี่ยมคนหนึ่ง เรียกว่าบทรัชทายาทซูฮยอนในมินิซีรีส์ความยาวเพียง 12 ตอนเรื่องนี้ ลีจินวุคหล่อทะลุจอ ส่งสายตาหวานซึ้งทะลุทะลวงหัวใจคนดูเชียว แม้ในบทจะมีคาแรคเตอร์เย็นชาแต่ว่าน่ารักมาก โดยเฉพาะเคมีพระนางที่เข้ากันอย่างที่สุดกับพระชายาซึ่งรับบทโดย ซอฮยอนจิน คนดูอินจัดจนลืมไปเลยว่า ซอฮยอนจินคนนี้ เคยรับบทร้ายจัดจ้านไว้ในซีรีส์เรื่อง Feast Of Gods ยอดเชฟสาว หัวใจทรนง  

แล้วยังมีน้องจงยงฮวา ผู้รับบทพัคดัลฮยาง คู่แข่งหัวใจองค์รัชทายาทซูฮยอนด้วย จงยงฮวารับบทพีเรียดในเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกอย่างสมการรอคอยของแฟน ๆ นะ ... เดิมที The Three Musketeers วางแผนจะสร้างกันถึง 3 ซีซั่น แต่ด้วยเหตุผลของต้นทุนการสร้างที่ใช้เม็ดเงินจำนวนสูง เพราะฉากส่วนหนึ่งต้องถ่ายทำที่เมืองจีนจึงทำให้ซีซั่น2 และ 3 โดนระงับไป ช่างน่าเสียดาย

ถ้าถามว่าระหว่าง The Three Musketeers กับ The King’s Face  ผู้เขียนว่าฟินเรื่องไหนกว่ากัน  ขอตอบแบบไม่หยุดคิดเลยว่า The Three Musketeers นะ

โดย ราดหน้า