เมื่อหลายวันก่อนได้พูดคุยเกี่ยวเรื่อง “ละครญี่ปุ่นที่ชอบ” กับเพื่อนๆ คอละครญี่ปุ่น จนเกิดไอเดียว่า เราลองมาโหวตกันดีไหมว่า ละครเรื่องไหนที่คุณคิดว่า “ห้ามพลาด” เพื่อเป็นบทความสำหรับแนะนำคนที่สนใจดูละครญี่ปุ่น 

...เลยได้เปิดการสำรวจเฟ้นหาละครญี่ปุ่นที่ห้ามพลาด 5 อันดับจากแฟนๆ ละครญี่ปุ่นในเพจ “Sakura Dramas” เรามาดูกันดีกว่าค่ะว่า ละครดีควรค่าแก่การรับชมที่แฟนละครญี่ปุ่นภูมิใจนำเสนอจะมีเรื่องอะไรกันบ้าง ตามมาดูกันเลยยย
ปล. คะแนนโหวตขอนำมาปรับเทียบจาก 100% นะคะ เพื่อที่จะได้เห็นสัดส่วนคะแนนได้อย่างชัดเจนค่ะ

 

เรื่องราวของกลุ่มแพทย์ “ทีมดราก้อน” นำทีมโดยศัลยแพทย์ “ริวทาโร่ อาซาดะ” หมอฝีมือสุดเทพ ไม่ว่าคนไข้จะมีอาการวิกฤตขนาดไหน เขาก็สามารถช่วยเหลือได้อย่างมหัศจรรย์ ด้วยความสามารถบวกกับใจที่อยากช่วยเหลือคนไข้ พร้อมกับสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ “ความเป็นทีม” ปัจจัยสำคัญที่จะพาพวกเขาไปสู่ความสำเร็จ แต่ถึงอย่างนั้น ก็ต้องต่อสู้กับคนอีกกลุ่มหนึ่งที่เป็นแพทย์แค่เพื่อ “ธุรกิจ” โดยไม่สนใจว่าคนไข้จะเป็นอย่างไร การต่อสู้ของแพทย์ทั้งสองฝ่ายจึงเริ่มขึ้น
 

สิ่งที่น่าสนใจ: ความตื่นเต้นเร้าใจในขณะผ่าตัด ที่ช่วยให้ลุ้นทุกครั้ง แถมยังได้ความรู้เกี่ยวกับการผ่าตัดอีกด้วย เราจะได้ให้ตับ ไต้ ไส้ พุง แบบสมจริงมาก  รวมถึงพลังการต่อสู้ของตัวละครในยามวิกฤตที่นำเสนอหนทางการแก้ไขชีวิต และข้อคิดที่ทำให้เกิดพลัง อาจจะดูเวอร์ๆ ไปหน่อยในความสามารถของหมออาซาดะ แต่เรื่องนี้มันทำให้เห็นถึงปาฏิหาริย์จากความพยายาม และการไปถึงจุดหมายด้วยการใช้ความสามารถให้ครบ 100%

ละครญี่ปุ่นที่เคยถูกสั่งแบน! แต่ด้วยเนื้อหาที่ทีมผู้จัดและเจ้าของช่องโทรทัศน์มองเห็นว่าจะช่วยขับเคลื่อนสังคมให้ดีขึ้นได้ พวกเขาจึงเดินหน้าฉายต่อแม้จะไม่มี “สปอนเซอร์” มาสนับสนุนสักรายเดียว! ละครเรื่องนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตเด็กกำพร้ากลุ่มหนึ่งที่มาอาศัยอยู่ในสถานสงเคราะห์ ต่างคนต่างก็เฝ้าหวังอนาคตที่สดใสกว่าเดิม บางคนก็ยังรอคอย “แม่” คนที่ทิ้งตัวเองไป แต่ไม่ว่าอย่างไรพวกเขาก็ต้องเดินหน้าต่อไป เป็นเรื่องที่สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ในครอบครัวที่ดีค่ะ บางทีคนที่เรียกได้ว่าเป็นพ่อเป็นแม่เราอาจไม่จำเป็นต้องมีสายเลือดเดียวกัน หากแต่เป็นคนที่เลี้ยงดูเราด้วยหัวใจทั้งหมดที่มี 

 

สิ่งที่น่าสนใจ: เรื่องราวชีวิตของเด็กกำพร้า ที่อบอวลไปด้วยเสียงหัวเราะ ความอบอุ่น และน้ำตา รวมถึงข้อคิดชีวิตในการมีชีวิตต่อไป แง่คิดของความเป็นครอบครัว ชีวิตของเด็กกำพร้าที่พวกเขาต้องเผชิญ อีกทั้งได้เต็มอิ่มไปกับฝีใอการแสดงของกองทัพดาราเด็กที่นำทีมโดย “อะชิดะ มานะ” ที่ตีบทแตก เรียกน้ำตาจากคนดูไปเต็มๆ เป็นเรื่องที่สะท้อนปัญหาเด็กกำพร้าได้ดีเยี่ยมจริงๆ ค่ะ จนเรารู้สึกว่า ไม่อยากให้มีเด็กคนไหนต้องกำพร้าพ่อกำพร้าแม่อีกเลย

ละครญี่ปุ่นแนวอาชีพ เรื่องราวของ “ทนายความ” โลกจริงอย่าง “โคมิคาโดะ เซนเซย์” กับคู่หูทนายความโลกสวย “มายุซุมิ เซนเซย์” แม้อุดมการณ์ที่ต่างกันสุดขั้ว แต่ก็สามารถแท็กทีมเรียกชัยชนะให้กับลูกความได้ พร้อมทั้งมายุซุมิ เซนเซย์เองก็ค่อยๆ เรียนรู้อาชีพนี้ไปพร้อมๆ กับโลกแห่งความเป็นจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ ละครแนวกฎหมายที่จะมาทำให้รู้ว่าโลกไม่ได้มีแค่ด้านเดียว อะไรที่เราเข้าใจกันดี แต่แท้จริงมันอาจไม่ใช่อย่างที่คิด
 
 

สิ่งที่น่าสนใจ: คดีความแต่ละคดีในเรื่องที่จะมาตีแผ่สังคมในด้านต่างๆ ให้เห็น ออกแนวเสียดสีเบาๆ แต่ทุกอย่างก็อยู่บนพื้นฐานของเหตุและผล ความสนุกอยู่ที่ตัว “โคมิคาโดะ เซนเซย์” ทนายฝีปากกล้าประจำเรื่องด้วย ที่มีทั้งโหมดตลก โหมดจริงจังในคนเดียวกัน เขาคนนี้นี่แหละค่ะ ที่จะมาเปิดเผยโลกอีกด้านของสังคมอย่างดุเด็ดเผ็ดมัน ขอรับประกันความมันส์+สะใจ!!!

ละครดราม่าชีวิตสุดยอดคุณภาพจากแดนปลาดิบที่ครองใจคนญี่ปุ่นและคนไทย แม้เรื่องนี้จะฉายมาเมื่อนานหลายปีมาแล้ว แต่ก็ยังคงเป็นละครที่ตราตรึงอยู่ในใจของแฟนละครญี่ปุ่น “1 Litre of Tears” หรือที่คนไทยรู้จักกันดีในชื่อเรื่องว่า “บันทึกน้ำตา 1 ลิตร” เป็นเรื่องที่สร้างมาจากชีวิตจริงของ “อายะ คิโตะ” เด็กสาวที่กำลังมีอนาคตสวยงาม แต่ก็ต้องดับฝันลง เมื่อพบว่าตนเองป่วยเป็น “โรคกล้ามเนื้อเสียการประสานงานจากสมองน้อยและไขสันหลัง” ซึ่งไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ร่างกายของเธอจะค่อยๆ สูญเสียการควบคุม และไม่สามารถขยับเขยื้อนได้ ฉะนั้น ก็เท่ากับว่าชีวิตต่อจากนี้ก็คือการเฝ้ารอวันแห่งความตาย แม้จะเศร้าโศก ผิดหวัง เสียใจขนาดไหน แต่เธอก็เลือกมีชีวิตต่อไปอย่างมีความหมายด้วยหัวใจและพลังที่มีจนถึงวินาทีสุดท้ายที่ได้อยู่บนโลกใบนี้

 

สิ่งที่น่าสนใจ: ความหมายของชีวิตที่จะนำเสนอผ่านชีวิตของ “อายะ” รวมถึงชีวิตของเธอกับการเผชิญอยู่กับโรคร้ายว่าเธอจะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไร มีทัศนคติอย่างท่ามกลางโลกที่เลวร้าย ขอบอกว่าเรื่องนี้จะมาทำให้คุณต้องเสียน้ำตามากกว่า 1 ลิตร!!!

เป็นไปอย่างที่คาดค่ะ ซีรีส์ที่ห้ามพลาดอันดับ1 ของแฟนละครญี่ปุ่นจะเป็นเรื่องไหนไปไม่ได้ นอกจากเรื่อง “Hanzawa Naoki” เรื่องราวของ “Hanzawa Naoki” นายธนาคารคนหนึ่งที่ถูกใส่ร้ายป้ายสี ต้องมารับผิดชอบเงินจำนวน 500 ล้านเยนที่ปล่อยกู้ออกไป แต่บริษัทที่กู้ไปกลับล้มละลายพร้อมเชิดเงินหนี ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ความผิดของตน เพื่อไม่ให้ชีวิตต้องเลวร้ายไปยิ่งกว่านี้ เขาจึงตั้งมั่นว่า จะหาเงินทั้งหมดมาคืนให้ได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม “ใครทำร้ายฉันล่ะก็...ฉันจะเอาคืนมันเป็น 2 เท่า” ในระหว่างหาเงินกลับคืนมา เขาก็ยังมีภารกิจลับที่ต้องสะสาง กำจัดคนชั่วที่เคยทำให้ชีวิตเขาและครอบครัวต้องจมดิน!

 

สิ่งที่น่าสนใจ: ความสนุกสุดมันส์ ที่ทำให้คนติดกันงอมแงมมาแล้วทั่วญี่ปุ่น ละครที่มีเรตติ้งสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ในวงการละครญี่ปุ่น สิ่งที่ทำให้ละครเรื่องนี้เป็นที่นิยมนั้น น่าจะเป็นความรู้สึก “สะใจ” ในเวลาดู เลือกให้ตัวละครเอกพ่ายแพ้ไปก่อน และค่อยลุกขึ้นล้มคู่ต่อสู้ทีหลังแบบสะใจ และในเรื่องก็แอบมีเรื่อง “สืบสวน” เบาๆ ชิงไหวชิงพริบกันอีกด้วย (ออกแนวสืบหาคนที่เชิดเงินหนี และสืบหาหลักฐานมาเอาผิดคนไม่ดี)  อีกทั้งยังเป็นเรื่องที่ค่อนข้างแมสค่ะ เป็นเรื่องเกี่ยวกับ “มนุษย์เงินเดือน” ตัวละครเอกเป็นนายธนาคารก็จริง แต่ ลักษณะงานของนายธนาคารก็อยู่ในกลุ่มของ “มนุษย์เงินเดือน” ที่ต้องทำตามเจ้านายสั่งทุกอย่าง ไม่มีอำนาจต่อรอง หรือกล้ากระเหี้ยนกระหือรือกับใคร แต่เรื่องนี้ “Hanzawa” กลับทำในสิ่งที่มนุษย์เงินเดือนใฝ่ฝันอยากจะทำ แต่ไม่กล้า นั่นก็คือ กล้าที่จะพูดโต้เถียงในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ทำผิด แล้วสู้อย่างหัวชนฝา ทำจนกว่าจะได้ชัยชนะคืนมา ไม่สนว่าใครจะใหญ่มาจากไหน เป็นการต่อสู้ระหว่างฝ่าย “อยุติธรรม” ที่ใช้อำนาจมืดในการควบคุมทุกสิ่ง กับฝ่าย “ยุติธรรม” คนเดินดินธรรมดาที่จะเรียกร้องความถูกต้องกลับคืนมาด้วยมันสมองและสองมือของตัวเอง 

และนี่ก็เป็นสุดยอดซีรีส์ญี่ปุ่นที่ห้ามพลาดจากแฟนๆ ละครญี่ปุ่นในไทยค่ะ  นอกจากนี้แฟนๆ ละครญี่ปุ่นยังบอกมาด้วยอีกว่า สาเหตุที่พวกเขาชอบดูละครญี่ปุ่นเนี่ยก็เพราะว่า
1. พล็อตสนุก ข้อนี้เป็นเหตุผลส่วนใหญ่ที่แฟนๆ ละครบอกเลยว่าเป็นเหตุผลแรกที่ทำให้ดูละครญี่ปุ่นค่ะ
2. นักแสดงเล่นดี ตีบทแตก ชวนให้อินตาม
3. เป็นละครที่ให้ข้อคิดและกำลังใจที่ดีต่อการใช้ชีวิต นอกจากจะสนุกแล้วยังได้ข้อคิดอีกด้วย

จริงๆ แล้วละครญี่ปุ่นมีหลายเรื่องที่น่าติดตามมาก โดยปกติในแต่ละปีละครญี่ปุ่นจะมีเยอะมากๆ ค่ะ เป็นร้อยเรื่องเลยก็ว่าได้ ถ้ามองย้อนกลับไปถึง 10-20 ปีที่แล้ว และให้คัดละครดีๆ สนุกๆ เนี่ย ขอบอกว่าตัดสินใจยากมาก แต่ชามะนาวกลัวเพื่อนๆ จะไม่จุใจ เลยขอแนะนำเรื่องที่น่าสนใจจากใจชามะนาวอีก 6 เรื่อง ตามนี้ค่ะ 

 

1.) Black President ละครที่จะทำให้ลูกจ้างเข้าใจประธานบริษัทมากขึ้น นำเสนอมุมมองโลกการทำงานอีกมุมหนึ่งให้ได้เห็น ให้ข้อคิดในการทำงานที่ดีเลยทีเดียวค่ะ ออกเสียดสีสังคมนิดหน่อยด้วย แต่ดูแล้วสะใจและได้กำลังใจอยากบอกไม่ถูก
2.) Haken no Hinkaku เรื่องนี้ก็มาเอาใจฝั่ง “ลูกจ้าง” บ้าง เป็นเรื่องราวของ “ฮาเคน” หรือ “พนักงานสัญญาจ้าง” จะมาแนะแนวการเป็นสุดยอดพนักงานบริษัท พร้อมคติประจำใจในการทำงานให้เราได้เห็นกันค่ะ 
3.) Keizoku2 SPEC สืบสวนสอบสวนคดีเหนือธรรมชาติ ที่หักมุมแบบสุดๆ 
4.) Last Friends ละครรักดราม่าที่สะท้อนปัญหาสังคมที่หลากหลาย และจะทำให้เราเรียนรู้ความรักในมุมมองที่แตกต่าง
5.) Rich Man Poor Woman ละครรักของญี่ปุ่นที่จะมาชวนให้ฟินจิกหมอน พร้อมแทรกเรื่องราวชีวิตการทำงานพร้อมมาจุดแรงบันดาลใจในตัวคุณ (เนื้อเรื่องจะคล้ายๆ ชีวิตของมาร์ก ซักเคอร์เบิร์กและสตี๊ฟ จอบส์มารวมกันค่ะ)
6.) Amachan ละครเรตติ้งดีของญี่ปุ่นอีกเรื่องหนึ่งค่ะเป็นเรื่องราวของเด็กสาวคนหนึ่งผู้ที่ไร้ซึ่งความฝัน แต่พอได้มีโอกาสกลับบ้านยายปุ๊ปกลับมีแรงบันดาลใจอยากเป็นนักงมหอยเม่น ละครที่จะมีเรียกเสียงหัวเราะ ความอบอุ่น ข้อคิดในชีวิต และกำลังใจค่ะ ละครเรื่องนี้ไม่ได้ประสบผลสำเร็จแค่เรตติ้งเท่านั้นนะคะ แต่ยังเป็นละครที่ช่วยโปรโมตการท่องเที่ยว สถานที่ถ่ายทำละครเรื่องนี้ ทำให้มีคนเข้ามาท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอีกด้วย! ถือว่าเป็นละครดีพ่วงแผนพีอาร์สถานที่ท่องเที่ยวที่ประสบความสำเร็จด้วยค่ะ

นี่ก็คือสุดยอดละครญี่ปุ่นที่ห้ามพลาดที่อยากจะแนะนำให้รู้จักกันค่ะ ขอบอกว่าชั่งใจเลือกเรื่องที่เด็ดสุดๆ ออกมาได้ยากมาก เพราะแต่ละเรื่องก็มีความสนุกและให้ข้อคิดที่ดีในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป เอาเป็นว่าซีรีส์ทั้งหมดที่ได้แนะนำในวันนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ไม่ควรพลาดแก่การรับชม ส่วนใครมีละครญี่ปุ่นดีๆ เพิ่มเติมอยากบอกต่อ ก็เล่าสู่กันฟังได้ค่ะ 

และสุดท้ายนี้ก็ต้องขอขอบคุณแฟนละครญี่ปุ่นทุกคนที่ได้เข้าไปร่วมกันโหวตเฟ้นหาละครญี่ปุ่นที่ห้ามพลาดเหล่านี้ อาจจะมีข้อผิดพลาดอะไรไปบ้างก็ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ 


เรื่องโดย : ChaMaNow www.marumura.com