เมีย‘สมยศ’ถามสามีผิดอะไร-โดนยิงตาย ทั้งที่ถูกโกงเงิน ชี้‘สมยศ’ไว้ใจสาวก้อยมาก
2015-07-01 14:24:33
Advertisement
คลิก!!!

 

 เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 ก.ค. นางรัศมี สุธางค์กูร อายุ 53 ปี ภรรยา และ น.ส.ณัฐธิดา สุธางค์กูร อายุ 25 ปี ลูกสาวของนายสมยศ สุธางค์กูร เดินทางมาที่ สน.คลองตัน ตามที่พนักงานสอบสวนได้นัดหมายไว้ เพื่อเข้ามาให้ปากคำในวันนี้

 

 นางรัศมี กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก สำหรับเรื่องประเด็นการสังหาร ตนไม่รู้เรื่องมาก่อนเลย เพิ่งจะมารู้จากข่าวที่นำเสนอออกไป แต่เท่าที่ทราบคุณสมยศ ได้ทวงหนี้จาก นางศุภนิดา หรือ ก้อย นรรัตน์ อายุ 48 ปี กว่า 20 ล้านบาท และหนี้พนันที่ถูกโกงไปอีก 4 ล้านบาท ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมา นายสมยศ ก็ได้ติดตามทวงถามหนี้ที่เกิดขึ้น แต่ไม่เคยได้เงินคืนเลย แต่ก็รู้มาบ้างว่าเคยมีการพูดคุยเรื่องที่สามีตนไปทวงหนี้ ซึ่งเป็นปัญหาคาราซังมาร่วมปี และสามีตนก็พูดคุยให้ฟังเป็นระยะในเรื่องที่เกิดขึ้น แถมยังเคยเล่าให้ตนฟังว่ามีคนขู่จะทำร้าย แต่ทั้งตนและสามีก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร

 

 ซึ่งระยะหลังตั้งแต่ นางศุภนิดา โกงเงินสามีตนไป ตนก็ไม่ค่อยได้พูดคุยเหมือนเดิม โดยเมื่อประมาณ 1 อาทิตย์ก่อนเสียชีวิต สามีตนได้นัดเสธฯนุ ให้ไปพูดคุยเรื่องทวงหนี้นายเล็ก จำนวนกว่า 20 ล้านบาท ที่ร้านลาบเป็ดที่หน้าปากซอยบ้านพัก หลังจากกลับมา สามีก็มีอาการเครียดอย่างเห็นได้ชัด จากนั้นก็มีการย้ายอาวุธปืนที่เก็บไว้บนห้องนอนชั้น 2 มาไว้ด้านล่าง เพื่อไม่ให้ห่างตัว แต่ไม่เคยพกออกไปข้างนอก

 

 กระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. วันที่ 29 มิ.ย. ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุ นางศุภนิดา ได้โทรศัพท์มาหาตน เพื่อขอยืมเงินจำนวน 2 แสนบาท แต่ตนปฎิเสธ อ้างว่าไม่มีเงินให้ จากนั้น นางศุภนิดา ก็สอบถามว่าวันนี้ จะไปไหนกันบ้าง ตนก็ตอบว่าช่วงบ่ายจะพาสามีไปโรงพยาบาล จากนั้นก็จะไปรับประทานอาหารกัน แล้วจะกลับบ้าน กระทั่งมาเกิดเหตุดังกล่าว

 

 นางรัศมี กล่าวต่อว่า สำหรับ นางศุภนิดา ซึ่งมีความสนิทสนมกับสามีตนมากว่า 20 ปี มีกุญแจเข้าบ้านและสามารถเข้านอกออกในบ้านได้ ซึ่งสามีตนไว้ใจ นางศุภนิดา มากกว่าตนเสียอีก และเรื่องบางอย่าง ตนยังไม่รู้เท่ากับ นางศุภนิดา เลย สำหรับเรื่องเงินที่สามีถูกหลอกไปประมาณ 20 ล้านบาท ซึ่ง นางศุภนิดา ก็ได้มาสารภาพเมื่อประมาณ 2 เดือน ก่อนเกิดเหตุ โดยบอกว่านำเงินไปให้ นายเล็ก ซึ่งเป็นสามีใช้จ่าย เล่นการพนัน และไปซื้อที่ดิน 2 แปลง ที่ จ.ชุมพร

 

 ส่วนสมุดบันทึกส่วนตัวของสามีตน ซึ่งพกติดตัวไว้ตลอด และจดทุกอย่างไว้ข้างในอย่างละเอียดทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหนี้สิน เรื่องปัญหาต่างๆ เรื่องงาน หรือแม้กระทั่งรายการทีวีที่ชอบยังจดลงไว้เลย โดยส่วนตัวก็สงสัย นางศุภนิดา อยู่แล้ว เพราะประเด็นที่เกิดขึ้นมันร้อนแรงอยู่ น่าจะเป็นเรื่องที่ถูกทวงถามหนี้สิน อยากถามว่าสามีตนผิดอะไร ถึงต้องมาทำแบบนี้ ทั้งที่คนอื่นโกงเงินสามีตนไป

 

 ด้าน น.ส.ณัฐธิดา กล่าวว่า ปกติคุณพ่อไปไหนมาไหนคนเดียว และไม่เคยพกปืนด้วย และไม่มีบอดี้การ์ดคอยติดตาม เพราะคุณพ่อไม่เคยทำอะไรใคร จึงไม่เคยระวังตัว ซึ่งตนเพิ่งเห็นสื่อบางสำนักเขียนข่าวว่า นางศุภนิดา และ นายเล็ก สามี โอนที่ดินที่ จ.ชุมพรให้แล้ว ซึ่งตนขอยืนยันว่า ทั้ง 2 คน ยังไม่เคยเอาอะไรมาให้พวกตนเลย ทั้งที่ดินและเงินที่ติดหนี้ ทุกวันนี้ก็มีความหวาดระแวงอยู่บ้าง โดยต้องให้สามีตนมาอยู่ที่บ้านด้วย เพราะที่บ้านเรามีผู้หญิงอยู่กันแค่ 2 คน ส่วนหลังจากนี้อาจจะขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดูแล ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่มีใครมาข่มขู่พวกตนอีก

 

 ต่อมาเมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ จริตเอก รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า สำหรับการสอบปากคำ นางศุภนิดา เมื่อวานนี้ กว่า 3 ชั่วโมง ซึ่งก็ให้การเป็นประโยชน์อย่างมาก สำหรับประเด็นที่ตั้งไว้ 3 ประเด็นในครั้งแรกนั้น ขณะนี้กำลังพยายามบีบประเด็นให้แคบลง โดยเร่งสอบประเด็น 3 ชุด และนำผลการสอบสวนมารวมกัน เพื่อบีบประเด็นให้แคบลง

 

 สำหรับภาพสเกตช์คนร้าย ได้นำตัวพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ และเห็นหน้าคนร้าย จำนวน 2 คน มาทำการสเกตช์ภาพ และออกหมายจับตามภาพ ก่อนให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่หาข่าวและติดตามจับกุมตัวคนร้าย โดยในวันนี้ได้นัด นายเล็ก สามี นางศุภนิดา ให้เข้ามาพบพนักงานสอบสวนแล้ว แต่ก็ไม่ทราบว่าจะเข้ามาให้ปากคำหรือไม่

 

ขอขอบคุณที่มา  ข่าวสดออนไลน์

 

 

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X