โฆษณาเกินจริง!! อาหารเสริม "แปะก๊วย-น้ำมันตับปลา" ไม่ป้องกันสมองเสื่อม
2015-05-25 12:39:58
Advertisement
คลิก!!!

 แพทย์แนะสัญญาณเตือนโรคสมองเสื่อมในผู้สูงอายุควรรีบพบแพทย์ เตือนระวัง โฆษณาอาหารเสริมแก้สมองเสื่อมเกินจริง 

 
       เมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย จัดการเสวนา ยาดี:กันลืม กันล้ม ในผู้สูงอายุ โดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)ร่วมกับ มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และนักวิชาการเข้าร่วมเสวนา
       
       พญ.แสงศุลี ธรรมไกสร ผู้เชี่ยวชาญจากโครงการประเมินเทคโนโลยีและนโยบายด้านสุขภาพ(HITAP)กล่าวว่า “คู่มือกันลืม กันล้ม ในผู้สูงอายุ”ที่จัดทำขึ้นนี้ นับเป็นคู่มือที่ประชาชนอ่านแล้วเข้าใจง่าย ที่จะบอกถึงการลืมแบบไหนควรรีบต้องมาพบแพทย์ เพราะการลืมในผู้สูงอายุ ถือเป็นสภาวะที่นำไปสู่โรคสมองเสื่อมได้ โดยผู้สูงอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป จะพบภาวะสมองเสื่อม 1 เปอร์เซ็นต์(ร้อยละ 1) ผู้สูงอายุตั้งแต่ 85-90 ปี พบภาวะสมองเสื่อมสูงถึง ร้อยละ 40
       
       ทั้งนี้การเกิดภาวะสมองเสื่อมในผู้สูงอายุ มีสัญญาณเตือนหลายประการ อาทิ มีความจำสั้น ถามซ้ำๆเดิมๆ การวางแผนชีวิตหรืองานประจำต่างๆอาทิ เคยไปจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟได้ แต่กลับนับเงินทอนไม่ถูก หรือการจัดยากินไม่ถูก หรือเคยทำกลับข้าว ตั้งกระทะได้ แต่กลับทำไม่ได้ รวมไปถึง การสับสนเรื่อง วัน เวลา และสถานที่ สับสนเรื่อง รูป ทิศทาง เช่น ขณะส่องกระจกจำตัวเองไม่ได้ เกิดอาการซึมเศร้า แยกตัว เป็นต้น หากพบอาการเช่นนี้ควรรีบพบแพทย์จะดีที่สุด
       
       พญ.แสงศุลี กล่าวต่อว่า อาหารเสริมกันโรคสมองเสื่อม ที่มีการโฆษณากันเอิกเกริก เช่น แป๊ะก๊วย วิตามินซี น้ำมันตับปลา ยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีผลวิจัยใดๆ ที่พิสูจน์ว่า อาหารเสริมที่มีการโฆษณา สามารถรักษาและป้องกันโรคสมองเสื่อมได้ แต่ผลวิจัยที่ยืนยันชัดเจน ในส่วนของเรื่องอาหารที่ สามารถช่วยชะลอการเกิดโรคสมองเสื่อมได้ คือ อาหารประเภท เมดิเตอร์เรเนียน ไดเอท ที่มีอาหารจำพวก ปลา ผักผลไม้ หรือกล่าวโดยรวมคือ อาหารจำพวกผัก ผลไม้ เนื้อปลา สามารถช่วยชะลอการเกิดโรคสมองเสื่อมได้ ฉะนั้น ก่อนที่คิดจะเชื่อการโฆษณาเรื่อง อาหาร เสริม ควรคิดไตร่ตรองให้ถี่ถ้วนก่อนซื้อ
       
       ด้านพญ.ธัญญรัตน์ อโนทัยสินทวี ผู้เชี่ยวชาญจากโครงการประเมินเทคโนโลยีและนโยบายด้านสุขภาพ(HITAP) กล่าวว่า ในส่วนของยากันล้มถือเป็นเรื่องที่สำคัญในผู้สูงอายุ เพราะการล้มในผู้สูงอายุ จะนำไปสู่การบาดเจ็บที่รุนแรง ทั้งการเกิด กระดูกสะโพกหัก เลือดออกในสมอง เป็นต้น จนนำไปสู่การช่วยเหลือตนเองไม่ได้ ซึ่งภาวะนอนติดเตียงเป็นเวลานาน หากอยากให้เดินได้ ต้องใช้การทำกายภาพบำบัดมาช่วย
       
       ทั้งนี้ปัจจัยที่ทำให้เกิดการล้ม ประกอบด้วย 2 ส่วนสำคัญ คือ ปัจจัยจากความเสื่อมของร่างกายของผู้สูงอายุเอง เช่น สายตาที่เริ่มมองไม่เห็น การได้ยินของหูลดด้อยลง รวมไปถึง การเสื่อมสภาพของกล้ามเนื้อ เป็นต้น และ ปัจจัยทางสภาพแวดล้อม ที่มาจากทั้งภายในบ้าน และนอกบ้าน ทั้งเรื่องของทางเดินที่ต้องระมัดระวัง การลื่นในห้องน้ำ โดยไม่มีราวจับ เป็นต้น ฉะนั้น คนในครอบครัว จึงต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตา จัดสภาพแวดล้อมภายในบ้าน ให้เหมาะกับผู้สูงอายุด้วย และที่สำคัญในส่วนของผู้สูงอายุเอง ก็ควรออกกำลังกาย ในแบบของผู้สูงอายุร่วมด้วย
       
       ด้านพญ.สิรินทร ฉันศิริกาญจน คณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า ปัญหาสำคัญในผู้สูงอายุเมื่อเกิดการล้มแล้ว ญาติๆ มักไม่ยอมให้ผู้สูงอายุทำการผ่าตัดสะโพก ซึ่งถือเป็นความเชื่อที่ผิด ทุกวันนี้อายุ 90 ปี ก็สามารถทำการผ่าตัดได้ แต่การผ่าตัดนั้น ก็ต้องคำนึงถึง การเป็นคนใจสู้เป็นสำคัญ โดยดูในเรื่องสภาพจิตใจไหวไหม และสภาพร่างกาย เพราะเมื่อมีการผ่าแล้ว การใช้ชีวิตประจำวันของผู้สูงอายุก็จะดีขึ้น อย่างน้อยก็สามารถเดินเองได้ ไม่เป็นภาระลูกหลานน้อยลง
 
ขอขอบคุณที่มา  http://www.manager.co.th/
 
 
.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X