ไม่กินไก่วัด สมยศแจงตร.2ศพ ลั่นพร้อมสาบานไม่สันดานชู้สาว ยันเปล่าสั่งปิดข่าวหน้าห้องถูกฆ่า
2015-04-27 12:45:30
Advertisement
คลิก!!!

 

ย้ำปมเข้าใจผิด-เรื่องขอโยกย้าย


"สมยศ" ลั่นไม่มีสันดานสมภารกินไก่วัด ท้าสาบานวัดพระแก้ว หลังถูกตั้งปมชู้สาวกับส.ต.อ.หญิงหน้าห้อง ที่ถูกสามีตชด.ฆ่าคาแฟลตตำรวจ ก่อนหนีไปผูกคอตาย ที่ปากช่อง แถมใช้มีดปักนามบัตรผบ.ตร. บนต้นไม้ที่ใช้ฆ่าตัว แจงหนุ่มตชด.เคยเป็นตำรวจประสานงานสมัยเป็นรอง ผบ.ตร. แต่นิสัยมุทะลุ จนทีมงานเกรงจะมีปัญหาจึงส่งกลับต้นสังกัด ที่ผ่านมาช่วยเหลือตลอดทั้งช่วยย้ายพ่อ-เมียไปทำงานในหน่วยที่ต้องการ ส่วนที่มาก่อเหตุดังกล่าวคาดน้อยใจที่เมียได้ย้ายไปเป็นตำรวจทางหลวงที่อุทัยธานี แต่ตัวเองไม่ได้ไปอยู่ด้วยจนอาจคิดว่าถูกกลั่นแกล้ง



จากกรณี ส.ต.อ.ณธกร นวลเอียด ผบ.หมู่ กก.1 บก.สอ.บช.ตชด. ก่อเหตุสังหารโหดภรรยาคือ ส.ต.อ.หญิง ณปภัช นวลเอียด อายุ 29 ปี ผบ.หมู่ ฝอ.บก.สอ.บช.ตชด. ปฏิบัติหน้าที่สำนักงาน ผบ.ตร. เสียชีวิตคาแฟลตตำรวจ ย่านทุ่งสองห้อง ก่อนหนีไปผูกคอตายที่ริมถนนย่านปากช่อง โคราช แถมใช้มีดปักนามบัตรพล.ต.อ.สมยศไว้กับต้นไม้ข้างศพด้วย เบื้องต้นสันนิษฐานว่า เกิดจากความ เครียดที่ภรรยาได้ย้ายไปเป็นตำรวจทางหลวงที่ จ.อุทัยธานี และคาดว่าอาจเข้าใจผิดว่าผบ.ตร. ไม่อนุมัติให้ตชด.หนุ่มย้ายตามภรรยาไป จึงก่อเหตุสลดดังกล่าว ตามข่าวที่เสนอไปแล้ว



ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 26 เม.ย. ที่สำนัก งานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. เปิดแถลงข่าวในกรณีดังกล่าวว่า หลังเกิดเหตุเชื่อว่าคงมีคำถามตามมามากมาย เพื่อให้เป็นที่กระจ่างจึงต้องออกมาพูดเรื่องนี้ด้วยตนเอง สำหรับ ส.ต.อ.ณธกร ถูกส่งตัวมาทำหน้าที่ชุดติดตามตนเองขณะดำรงตำแหน่งรอง ผบ.ตร. ซึ่งปฏิบัติงานอยู่ประมาณ 6 เดือน ก็ถูกส่งตัวกลับต้นสังกัด เนื่องจากประพฤติตนไม่เหมาะสม ไม่มีวินัย และมีอารมณ์รุนแรง ทีมนายตำรวจติดตามมองว่าหากให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจะส่งผล กระทบต่อตำแหน่งหน้าที่ของตน



"วันที่ส่งตัวกลับผมก็ได้เรียกตัวส.ต.อ. ณธกรมาสอบถามว่า โกรธหรือไม่ที่นายส่ง ตัวกลับ ซึ่งเจ้าตัวยืนยันว่าไม่โกรธเข้าใจดี รู้ตัวว่าเป็นความผิดของเขาที่ทำตัวไม่ดี ไม่เหมาะสม ทั้งนี้ ระหว่างที่ปฏิบัติหน้าที่กับผม ส.ต.อ.ณธกรขอให้ผมช่วยย้ายบิดาจาก ตชด.มาสังกัด บก.ภ.จว.สมุทรสงคราม ผมก็ดำเนินการให้ จากนั้นก็มาขอให้ช่วยย้ายภรรยา คือส.ต.อ.หญิง ณปภัช จาก ตชด.ให้มาช่วยราชการที่สำนักงาน ผมก็ดำเนินการให้อีก เพราะมองว่าสามีภรรยาหากได้อยู่ด้วยกันเป็นเรื่องที่ดี ประหยัดค่าใช้จ่าย โดยให้นายเวรเป็นผู้ดำเนินการ เพราะที่ผ่านมาผมก็ไม่ได้ลงไปดูแล หรือสุงสิงกับผู้ใต้บังคับบัญชาภายในสำนักงานมากนัก เนื่องจากมีภารกิจมากมาย จึงให้นายเวรเป็นผู้ดำเนินการเรื่องต่างๆ ภายในสำนักงานทั้งหมด" ผบ.ตร.กล่าว



พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ได้รับรายงานจากนายตำรวจติดตามว่ามีเหตุร้ายเกิดขึ้นกับส.ต.อ.หญิง ณปภัช เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา รู้สึกตกใจว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่ทั้งตนและคนใกล้ชิดรู้ทันทีเลยว่าจะต้องเป็นการกระทำของส.ต.อ.ณธกรแน่นอน และเป็นห่วงว่าเขาจะทำอะไรไม่ดีกับตัวเอง เพราะทุกคนในสำนักงานต่างรู้นิสัยเขาดี เพราะเป็นคนขี้โมโห อารมณ์รุนแรงและบ้าระห่ำ ที่สำคัญชอบคิดไปเอง เพ้อฝันไปเอง



หลังทราบเรื่องได้สอบถามหาสาเหตุจากนายเวร และตำรวจภายในสำนักงานซึ่งได้รับแจ้งว่า เมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา ส.ต.อ.หญิง ณปภัชแจ้งกับทีมงานว่าประสงค์จะขอย้ายไปเป็นตำรวจทางหลวง จ.อุทัยธานี และขอให้ช่วยย้ายส.ต.อ.ณธกรด้วย หลังเกิดเรื่อง ทุกคนคิดเหมือนกันว่าสาเหตุสำคัญน่าจะมาจากกรณีที่หลังจากมีการรวบรวมรายชื่อปรากฏว่ามีรายชื่อส.ต.อ.หญิง ณปภัช แต่ไม่มีรายชื่อส.ต.อ.ณธกร อาจทำให้เกิดความน้อยเนื้อต่ำใจ หรือไม่พอใจตน และอาจจะคิดว่าส.ต.อ.หญิง ณปภัชไม่ให้การช่วยเหลือ



"ผมอยากทำความเข้าใจว่าการโยกย้าย ยังไม่เกิดขึ้น เพียงแต่ตำรวจหน้าห้องหวังดีกับตำรวจที่มาช่วยราชการในสำนักงานว่า เมื่อผมเกษียณอายุราชการก็จะสนับสนุนผู้ใต้บังคับบัญชาให้ย้ายไปดำรงตำแหน่งที่เขาต้องการ เป็นเพียงการสอบถามเฉยๆ แต่ยังไม่ได้มีการพิจารณา และยังไม่ได้มีการส่งเรื่องให้ผมพิจารณา ผมเองไม่เคยรับรู้รับทราบ เป็นการเตรียมการกันเองของนายเวรและตำรวจภายในสำนักงาน ผมไม่เคยบอกให้เตรียมการ ซึ่งรายชื่อตรงนี้เป็นรายชื่อที่ตำรวจภายในสำนักงานมีการเตรียมกันไม่เกี่ยวกับผมเลย เป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิด เป็นเรื่องที่ส.ต.อ.ณธกรคิดเองว่าจะมีการโยกย้าย ส.ต.อ.หญิง ณปภัชได้ย้าย แต่ตัวเองไม่ได้ย้าย" ผบ.ตร.กล่าว



พล.ต.อ.สมยศกล่าวอีกว่า อำนาจการแต่งตั้งโยกย้ายระดับชั้นประทวนเป็นของผบช. ไม่ใช่อำนาจผบ.ตร. แต่ถ้าอยากจะสนับสนุนผู้ใต้บังคับบัญชาก็ทำหนังสือไปยังผบช.แต่ละหน่วยให้ช่วยสนับสนุน ถ้าเขาให้ก็ได้ ถ้าเขาไม่ให้ก็ได้ แต่จากสอบถามคนใกล้ชิด เหมือนว่าส.ต.อ.ณธกร กดดันให้ส.ต.อ.หญิง ณปภัช มาขอร้องหรือมาขอความช่วยเหลือกับผู้บังคับบัญชาให้ช่วยย้ายเขาด้วย แต่อย่างที่บอกยังไม่ถึงขั้นตอนนั้น เขาคิดไปเอง จิตเขาวิตกไปเอง จึงก่อเหตุเศร้าสลดขึ้น หากเขาเดินมาจะช่วยเหลือเขาให้ได้ย้าย เพราะสามีภรรยาควรได้อยู่ด้วยกัน ทั้งนี้ ทราบจากคนใกล้ชิดว่าเขาเป็นคนใจร้อนขี้โมโหมักทุบตีทำร้ายส.ต.อ.หญิงณปภัชอยู่เป็นประจำ นี่เป็นอีกเหตุผลที่ตนต้องให้ตัวเขากลับไป เพราะหากมาทะเลาะกันในสำนักงานเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม



พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่ารู้สึกเสียใจที่ผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งสองคนต้องมาจบชีวิตเพราะความเข้าใจผิด เพราะความน้อยเนื้อต่ำใจ ส่วนที่มีการใช้มีดปักนามบัตรของตนกับต้นไม้จนทำให้สังคมคิดไปได้ต่างๆ นานา ยืนยันว่าเรื่องทั้งหมดเป็นไปตามที่บอกไป ไม่รู้สึกโกรธ เพราะเป็นผู้ใหญ่ แต่มองว่าเป็นการทิ้งประเด็นความสงสัยให้กับสังคมว่าไปกลั่นแกล้งรังแก หรือไปขัดขวางอะไรเขา ซึ่งยืนยันว่าไม่มี เขาอาจจะโกรธ อาจจะน้อยใจ คิดว่าจะขัดขวางไม่ให้เขาได้ย้าย เป็นการคิดไปเองทั้งนั้น



ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่ฝ่ายชายอาจจะเข้าใจผิดว่าฝ่ายหญิงมีความสนิท สนมกับผบ.ตร. พล.ต.อ.สมยศกล่าวยืนยันว่าไม่ได้มีความสนิทสนมส่วนตัวกับส.ต.อ.หญิงณปภัช เพียงรู้ว่าเป็นตำรวจที่มาช่วยราชการที่สำนักงาน ทำหน้าที่ยกน้ำยกอาหาร เวลาแขกไปใครมาเท่านั้น ชื่อจริงก็เพิ่งรู้ตอนที่เป็นข่าวแล้ว อีกอย่างผู้ใต้บังคับบัญชาหากไม่มีประเด็นเกี่ยวกับเรื่องงานไม่มีทางได้พูดคุยกับตน เพราะภารกิจมาก เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าขำ แต่คนก็มีสิทธิที่จะคิดแบบนั้นได้



"ที่ผ่านมาผู้ใต้บังคับบัญชาผู้หญิงจะเข้าห้องทำงานส่วนตัวของผมคนเดียวไม่ได้ ตำรวจหญิงไม่มีสิทธิอยู่ในห้องทำงานกับผมสองต่อสอง ผมถือเรื่องนี้มาโดยตลอด อีกอย่างตำรวจหญิงที่มาช่วยราชการที่สำนักงานจะต้องแต่งงานแล้ว หรือมีคู่สมรสแล้วเท่านั้น เรื่องนี้จะเอาผมไปสาบานที่วัดพระแก้วก็ได้ ยืนยันไม่เคยคิดกับลูกน้องในทางชู้สาว ไม่เคยเอานิสัยสมภารกินไก่วัดมาใช้กับลูกน้อง ผมยืนยันไม่มีเด็ดขาด เรื่องที่จะมาเกี่ยวข้องกับผมขอให้ตัดประเด็นไปได้เลย ผมไม่มีสันดานที่จะไปยุ่งหรือเกาะแกะกับผู้ใต้บังคับบัญชา" ผบ.ตร.กล่าว



เมื่อถามถึงกรณีที่มีการสั่งปิดข่าว ผบ.ตร.กล่าวยืนยันไม่ได้เป็นคนสั่งปิดข่าว ขอปฏิเสธเรื่องนี้โดยสิ้นเชิง เพราะรู้เรื่องดังกล่าวเกือบ 20.00 น. ของวันที่ 24 เม.ย. หลังประชุม ผู้บริหาร ตร. เกี่ยวกับประเด็นปฏิรูปตำรวจและการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ หลังจากนั้นมีประชุมเรื่องประกวดพระต่อ หลังเลิกประชุมนายตำรวจติดตามได้มาแจ้งให้ทราบ จะเอาเวลาที่ไหนไปสั่งให้ปิดข่าว แต่คาดว่าเป็นความหวังดีของผู้ใต้บังคับบัญชาทำไปเองด้วยความประสงค์ดี แต่ยืนยันว่าไม่มีการสั่งให้ปิดข่าวอย่างแน่นอน



ส่วนกรณีหากญาติติดใจสงสัยสาเหตุการเสียชีวิต พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่ายินดีให้มีการตรวจสอบ เพราะญาติของผู้เสียชีวิตจะรู้นิสัยใจคอของเขาดีว่าเป็นอย่างไร ที่สำคัญรู้ถึงความเป็นอยู่ของทั้งคู่เป็นอย่างดี ทั้งนี้ คงไม่ได้กำชับอะไรกับคดีเป็นพิเศษ ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการปกติ ส่วนกรณีที่แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบัน นิติวิทยาศาสตร์ ระบุว่ายินดีที่จะผ่าชันสูตรศพผู้เสียชีวิตหากญาติร้องขอ ผบ.ตร.กล่าวว่ารู้สึกยินดี และเป็นเรื่องที่ต้องทำเพื่อความกระจ่าง หากญาติติดใจสงสัยก็ควรที่จะดำเนินการ



วันเดียวกัน นางจินตนา นวลเอียด อายุ 55 ปี มารดาของส.ต.อ.ณธกรพร้อมญาติไปติดต่อขอรับศพลูกชายที่ร.พ.มหาราชนครราช สีมา เพื่อไปประกอบพิธีทางศาสนา ที่วัดป้อมแก้ว ต.แม่กลอง อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม โดยทั้งหมดมีสีหน้าเคร่งเครียดและอยู่ในอาการโศกเศร้าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ใดๆ



ส่วนที่วัดโบสถ์โก่งธนู ต.โก่งธนู อ.เมือง จ.ลพบุรี บรรยากาศงานศพส.ต.อ.หญิง ณปภัช เต็มไปด้วยความโศกเศร้า มีบรรดาญาติพี่น้องและเพื่อนมาร่วมงานประมาณ 200 คน โดยการสวดพระอภิธรรมศพในวันนี้มีสำนักงานผบ.ตร.เป็นเจ้าภาพ แต่ พล.ต.อ.สมยศไม่ได้มาร่วมงานด้วย แต่ส่งนายเวรมาเป็นตัวแทน พร้อมมอบเงินช่วยเหลือแก่ครอบครัวส.ต.อ. หญิง ณปภัช 50,000 บาท สำหรับงานฌาปนกิจจะมีขึ้นในวันที่ 28 เม.ย. เวลา 15.00 น.

 

 

ขอขอบคุณที่มา  ข่าวสดออนไลน์

 

 

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X