ใช่เรื่อง ผิว ...เผิน
2012-06-26 07:39:49
Advertisement
คลิก!!!
เคล็ดลับผิวสวย


ใช่เรื่อง "ผิว" เผิน (Health & Cuisine)

ผิวหน้าของคนเราจัดเป็นพื้นที่ที่ละเอียดอ่อนบอบบาง เราจึงต้องให้ความสำคัญและใส่ใจกับการดูแลผิวหน้ามากเป็นพิเศษ ฉะนั้นหากเรามาทำความเข้าใจเรื่องประเภทของผิว(ที่หลายคนคิดว่าเป็นแค่เรื่องพื้นๆ)ให้ลึกซึ้งขึ้นอีกนิด ก็ไม่ยากเลยที่ทุกคนจะได้เป็นเจ้าเข้าเจ้าของผิวสวยใสสุขภาพดีค่ะ

ต่างผิวก็ต่างพรรณ

ผิวคนเราแบ่งออกเป็นประเภทได้ 4 กลุ่มที่เราคุ้นหูกันอย่างดี คือ ผิวธรรมดา ผิวมัน ผิวผสม และผิวแห้ง โดยเอาระดับของการผลิตน้ำมันบนชั้นผิวมาวัดเป็นเกณฑ์ สังเกตได้จากความมันที่เกิดขึ้นบนผิว และขนาดของรู้ขุมขนที่เล็กหรือกว้างแตกต่างกันไป สิ่งเหล่านี้ถูกกำหนดโดยพันธุกรรม

การดูแลรักษาผิวที่ไม่ถูกต้องตามธรรมชาติของผิวแต่ละประเภทอาจก่อให้เกิดโทษภัยใหญ่หลวงต่อความงาม... การรู้จักดูแลผิวพรรณแต่ละประเภทอย่างถูกวิธี โอกาสเกิดปัญหาต่างๆ เช่น สิว ฝ้า หมองคล้ำ ฯลฯ ก็จะลดลง แถมยังช่วยยืดอายุผิวไม่ให้เสื่อมโทรมก่อนวัยอีกด้วย

หากคุณเป็นคนผิวธรรมดา

ธรรมชาติของผิว : เป็นผิวที่ดูแลง่าย ไม่ค่อยมีปัญหาเหมือนผิวชนิดอื่นๆ แต่น้อยคนนักที่จะมีผิวธรรมดา ซึ่งสภาพผิวธรรมดาจะมีลักษณะเนียนเรียบ อ่อนนุ่มและยืดหยุ่นดี ขนาดของรูขุมขนเล็กทำให้มีปริมาณน้ำมันออกมาไม่มากนัก หากลองใช้กระดาษเช็ดหน้าซับใบหน้าหลังตื่นนอนในตอนเช้า จะพบว่ามีร่องรอยของความมันปรากฏอยู่เพียงเล็กน้อยบริเวณจมูก

การทำความสะอาด : ไม่ยุ่งยาก เพียงเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ไม่มีความเป็นกรดหรือด่างมากนัก เช่น สบู่อ่อนๆ ก็สามารถทำความสะอาดผิวได้อย่างหมดจดแล้ว อาจใช้โทนเนอร์เช็ดหน้าอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ แต่ต้องเลือกที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์

การบำรุงผิว : ใช้ครีมหรือโลชั่นเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวกายและใบหน้า เลือกที่มีส่วนผสมของมอยเจอร์ไรเซอร์แต่ไม่ต้องถึงกับเข้มข้น อย่าปล่อยให้ผิวแห้งในหน้าหนาว หรือในสภาวะที่อากาศแห้งเท่านั้นเป็นพอ

สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง : แสงแดดแรงจ้าเป็นอันตรายต่อผิวอย่างมาก แม้ผิวธรรมดาจะมีปัญหาน้อยที่สุด แต่ก็ไม่ควรเสี่ยงกับแสงแดดที่อาจทำให้เกิดฝ้า กระ และรอยหมองคล้ำได้ จึงควรใช้ครีมกันแดดให้ติดเป็นนิสัย

หากคุณเป็นคนผิวแห้ง

ธรรมชาติของผิว : เป็นผิวที่ไม่มีความสดใส แถมเนื้อผิวยังแตกลอกเป็นขุยตามมุมปาก หางตา และบริเวณข้างแก้ม บางคนใบหน้าจะแดงเรื่อๆ เนื้อผิวค่อนข้างบอบบางจึงเกิดริ้วรอยและแพ้ได้ง่าย ผิวแห้งจะมีขนาดของรูขุมขนที่เล็กเกินไปทำให้มีปริมาณน้ำมันออกมาเคลือบผิวน้อย น้ำหล่อเลี้ยงผิวจึงระเหยออกไปได้ง่าย ผิวหนังชั้นนอกจึงแห้งกร้าน ตึง และขาดความชุ่มชื่นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะตอนล้างหน้าเสร็จใหม่ๆ

การทำความสะอาด : ใช้คลีนเซอร์ชนิดที่เป็นโลชั่นหรือครีมสำหรับเช็ดเครื่องสำอางและสิ่งสกปรก หากถนัดใช้สบู่ก็ควรเลือกสบู่ที่มีส่วนผสมของมอยเจอร์ไรเซอร์ แต่ถ้าไม่ได้ออกนอกบ้านและใบหน้าไม่สกปรกนัก ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าอย่างเดียวก็พอค่ะ

การบำรุงผิว : หลังล้างหน้าควรทาครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของมอยเจอร์ไรเซอร์ ถ้าแห้งมากก็เลือกชนิดเข้มข้นและซึมซับเข้าสู่ผิวได้ดี เน้นบริเวณที่ลอกเป็นขุย และรอบดวงตา(ใช้อายครีมก็จะยิ่งดี) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนกลางคืนที่ต้องสูญเสียน้ำหล่อเลี้ยงผิวขณะหลับ ครีมทาผิวจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวได้มากขึ้น การมาสก์หน้าสัปดาห์ละครั้งก็ช่วยเติมความสดใสให้กับใบหน้าได้ โดยเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของมอยเจอร์ไรเซอร์ หรือจากธรรมชาติอย่างอะโวคาโด ไข่แดง น้ำมันมะกอก น้ำผึ้ง เป็นต้น

ในหน้าหนาว หรือทำงานในห้องแอร์ด้วย ควรพกครีมทาผิวติดตัว ทาเมื่อรู้สึกว่าผิวแห้งได้บ่อยเท่าที่ต้องการ และหมั่นตรวจตราผิวของตนเองด้วยว่าแพ้เครื่องสำอาง สารเคมี แมลง หรือพืชชนิดใด เพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัส เพราะอาจก่อให้เกิดอาการแพ้ได้ง่ายนั่นเอง

สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง : ผลิตภัณฑ์ที่นำมาทำความสะอาดผิวต้องไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์โดยเด็ดขาด เพราะแอลกอฮอล์จะยิ่งทำให้ผิวแห้งตึงมากขึ้น ไม่ควรอาบน้ำและล้างหน้าบ่อยๆ อีกทั้งการใช้น้ำอุ่นจัดๆ ยังเป็นสาเหตุทำให้ผิวแห้งได้

หากคุณเป็นคนผิวมัน

ธรรมชาติของผิว : มีปริมาณน้ำมันบนผิวมากเกินไป และขนาดของรูขุมขนกว้าง จึงดูหยาบกว่าผิวชนิดอื่น เพราะว่าต่อมไขมันใต้ผิวหนังทำงานหนัก(โดยเฉพาะในวัยรุ่น) รูขุมขนจึงมีขนาดกว้างเพื่อระบายน้ำมันออกมานั่นเอง สังเกตว่าเราเป็นคนผิวมันหรือไม่ ง่ายๆ ด้วยการใช้กระดาษเช็ดหน้าซับผิวหน้าหลังตื่นนอนในตอนเช้า หากมีความมันติดอยู่บนกระดาษมากแสดงว่ามีผิวมัน หรือหลังล้างหน้า ใบหน้ากลับมีความมันก่อตัวขึ้นอีกอย่างรวดเร็วล่ะก็ ไม่ผิดแน่ และการที่ผิวมันมีน้ำมันออกมามากนี่เอง จึงทำให้รูขุมขนอุดตันได้ง่าย คนผิวมันจึงมีโอกาสเป็นสิวอุดตันหรือสิวหัวดำง่ายกว่าเพื่อน แต่ข้อดีของผิวมันคือจะเหี่ยวย่นช้ากว่าผิวชนิดอื่น

การทำความสะอาด : การเลือกคลีนเซอร์นั้น จึงควรเลือกเป็นเจลล้างหน้าสำหรับผิวมันโดยเฉพาะ หรือสบู่ที่ปราศจากฟอง เมื่อล้างหน้าแล้วอาจใช้ โทนเนอร์(ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เพราะอาจระคายเคืองต่อสิวได้) ตามอีกขั้นตอน เพื่อลดความมันและช่วยกระชับรูขุมขนให้เล็กลง

การบำรุงผิว : ควรเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่เพิ่มความมันให้กับใบหน้าอีก สามารถสังเกตได้จากคำว่า Oil Free ไม่มีส่วนผสมของไขมัน หรือ Oil Control / Shine Control มอยเจอร์ไรเซอร์บำรุงผิวที่ช่วยควบคุมความมัน ระหว่างวันอาจใช้กระดาษซับมันซับใบหน้า วิธีซับเพียงกดเบาๆ ให้ทั่ว อย่าถูหรือกดแรงเกินไปเพราะจะระคายเคืองหรือเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้ จากนั้นตบแป้งสักหน่อยความมันก็จะลดลง หากรู้สึกว่าหน้ามันมากเป็นพิเศษลองพอกหน้าด้วยดินสอพองผสมน้ำมะนาวสัปดาห์ละ 1 - 2 ครั้ง ปัญหาจะทุเลาลง

สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง : หลายคนเข้าใจผิดว่าผิวมันต้องล้างหน้าบ่อยๆ หรือล้างด้วยน้ำอุ่นจัด ด้วยสบู่ที่มีฟองมาก หรือสบู่ขัดผิวที่มีส่วนผสมของผงขัดหน้า จริงๆ แล้ววิธีการแบบนี้อาจส่งผลร้ายต่อผิว ทำให้ผิวระคายเคือง และไปกระตุ้นต่อมไขมันทำให้หน้ามันมากขึ้นกว่าเดิม แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ควรใช้โลชั่นหรือครีมทำความสะอาดที่มีส่วนผสมของไขมันหรือมอยเจอร์ไรเซอร์เข้มข้นด้วย

หากคุณเป็นคนผิวผสม

ธรรมชาติของผิว11 : ผิวผสมคือผิวที่มีส่วนผสมระหว่างผิวธรรมดาหรือผิวแห้ง กับผิวมัน โดยความมันจะก่อตัวอยู่ที่บริเวณ หน้าผาก จมูก และคาง (T - Zone) จึงอาจมีสิวอุดตันบ้างในบริเวณนี้ตามธรรมชาติของผิวมัน ส่วนบริเวณโหนกแก้มและข้างแก้มทั้งสองข้างที่เหลือ (U - Zone) จะเป็นผิวธรรมดาหรือผิวแห้ง ดังนั้นใครที่มีผิวผสมจึงต้องมีความรู้เรื่องผิวทุกรูปแบบ และต้องขยันอย่างมาก เพราะเป็นผิวที่จัดว่าเกิดปัญหาง่ายหากไม่ได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง

การทำความสะอาด : หากบริเวณ U - Zone ของคุณเป็นผิวแห้ง ก็ควรทำความสะอาดแบบคนผิวแห้ง เช่น เช็ดด้วยครีมหรือโลชั่นทำความสะอาดทั่วใบหน้า เสร็จแล้วใช้โทนเนอร์บริเวณ T - Zone เป็นต้น หากบริเวณ U - Zone เป็นผิวธรรมดา ก็ล้างหน้าด้วยสบู่อ่อนๆ จากนั้นก็ทำความสะอาดบริเวณ T - Zone ด้วยวิธีการเดียวกัน

การบำรุงผิว : ก็เช่นเดียวกัน บริเวณที่มีผิวแห้งก็ใช้ครีมบำรุงผิวเฉพาะของคนผิวแห้ง ผิวมันก็ใช้ครีมบำรุงที่ช่วยควบคุมความมัน แต่ใช่ว่าคนผิวผสมจะโชคร้ายเสียทีเดียว เพราะผลิตภัณฑ์ดูแลผิวในปัจจุบันคิดค้นมาเพื่อผิวผสมโดยเฉพาะ สามารถใช้ได้เลยในหนึ่งขั้นตอน ไม่ต้องยุ่งยาก

สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง : คนผิวผสมจัดเป็นผิวแพ้ง่ายชนิดหนึ่ง จึงต้องคอยระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการสัมผัสสิ่งที่ตนเองแพ้ โดยเฉพาะเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมหรือสกัดจากสารเคมี หันมาใช้เครื่องสำอางที่สกัดจากพืชพรรณธรรมชาติจะดีกว่า

ไม่ว่าคุณจะมีผิวพรรณแบบไหน การดูแลผิวให้ดีอยู่เสมอจึงเป็นหนทางที่ดีที่สุด ก่อนออกจากบ้านทุกครั้งควรทาครีมกันแดด เพื่อปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ที่อาจทำอันตรายต่อผิวได้แม้จะไม่ได้อยู่กลางแดดก็ตาม

นอกจากนี้ การดื่มน้ำสะอาดก็เป็นสิ่งสำคัญสำหรับผิวทุกประเภท เพราะหากร่างกายขาดน้ำ ผิวจะขาดน้ำไปด้วย ทำให้เหี่ยวย่นไม่สดใส เลือกรับประทานอาหารที่มีวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ โดยเฉพาะผัก ผลไม้ ที่มีวิตามินซี หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนและแอลกอฮอล์ ทำจิตใจให้แจ่มใสอยู่เสมอ และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ... สิ่งเหล่านี้มีผลต่อสุขภาพผิวอย่างมากจริงๆ ค่ะ

ข้อมูลจากกระปุกดอดคอม

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X