ดวงตาสวยอ่อนเยาว์...เราทำได้ (สุขกายสบายใจ)

สูตรเด็ดเคล็ดลับในการทะนุถนอมดวงตาให้สวยครบสูตร ตั้งแต่การมีแววตาอันสดใส ไปจนถึงการดูแลผิวพรรณรอบดวงตาให้เนียนนุ่มชุ่มชื่น เพื่อให้ดวงตาคู่นี้ของเราสวยอ่อนเยาว์อยู่กับเราให้ยาวนานที่สุด

"ดวงตา เป็นหน้าต่างของหัวใจ" วลีนี้ยังคงใช้ได้อยู่… จริงทีเดียว หากสีหน้าแววตาเราเศร้าหมอง ก็คงไม่ต้องสืบต่อเลยว่า เรามีความสุขกายสบายใจกับชีวิตมากน้อยแค่ไหนกัน เราอยากให้คุณลองสำรวจตัวเองให้บ่อยขึ้นอีกนิด เพื่อที่ว่าจะได้หาคำตอบว่าหน้าต่างของหัวใจคุณน่ามองหรือไม่

สดใสดีอยู่ไหม หน้าต่างของหัวใจเรา?

หากคุณ…รู้สึกดวงตาอ่อนล้า

หากคุณ…รู้สึกกล้ามเนื้อตึงบริเวณเบ้าตา หรือมีอาการปวดอื่น ๆ ร่วมด้วย

หากคุณ…มีอาการภาพเบลอ มองไม่ชัด

หากคุณ…มีอาการแสบตา หรือรู้สึกดวงตาแห้ง

อย่าละเลยกับสัญญาณเตือนเหล่านี้เชียวนะคะ เพราะสาเหตุเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้อาจกลายเป็นปัญหาในระยะยาวได้ ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ หากดวงตาของเรามีปัญหา การแก้ไขให้กลับมาปกติดีนั้นเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก และบางครั้งคุณอาจจะต้องพบกับสภาวะการเสี่ยงต่าง ๆ มากมาย ทางที่ดีคือ เมื่อเกิดความผิดปกติขึ้นกับดวงตา แม้ว่าจะเป็นสัญญาณเตือนเล็กน้อย ขอให้เราใส่ใจกับมัน เพื่อให้ดวงตาคู่นี้ของเรามีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น

เรามีวิธีถนอมดวงตามาฝากค่ะ หากเริ่มปฏิบัติกันเป็นกิจวัตรแล้วก็มั่นใจได้เลยว่า ดวงตาของเราจะมีสุขภาพดีแลดูอ่อนเยาว์ขึ้นได้

Blink Blink Eyes ทำได้จริง

บำรุงจากภายใน อย่าให้ขาดวิตามินเอ

วิตามินเอ ช่วยให้เราไม่ตาบอด เพราะสารอาหารที่ชื่อ "ลูทีน (Lutein)" และ "ซีแซนทีน (Zeaxanthin)" เป็นสารอาหารซึ่งจะช่วยป้องกันรังสียูวีที่เป็นอันตรายต่อดวงตา ช่วยในการกรองแสงต่าง ๆ เช่น แสงอาทิตย์ แสงจากคอมพิวเตอร์ แสงจากโทรทัศน์ หรือแสงจากหลอดไฟฟ้า เป็นต้น และช่วยปรับสภาพการมองเห็นของเราให้เป็นปกติ หากอยู่ในที่แสงสลัวหรือที่มืด และที่สำคัญคือ ช่วยบำรุงเซลล์ประสาทตา ชะลอการเสื่อมของจอประสาทตา

ดังนั้นหากต้องการให้แววตาเปล่งประกายสดใส ควรรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ ซึ่งมีมากในเนื้อสัตว์ และผักผลไม้สีเขียว สีส้ม สีแดง โดย "เรตินอล" คือชื่อทางเคมีของวิตามินเอ พบได้ในผลิตภัณฑ์ที่ได้จากสัตว์ ได้แก่ เนื้อสัตว์ (หมู/ไก่) นม เนย ชีส ไข่แดง ตับ น้ำมันตับปลา เป็นต้น ส่วน "เบต้าแคโรทีน" คือวิตามินที่อยู่ในพืชผักผลไม้ และจะถูกเปลี่ยนให้เป็นวิตามินเอเมื่อเข้าสู่ร่างกาย มีมากในผักสีเขียว เช่น ผักชีฝรั่ง ผักโขม ผักหวาน บร็อคโคลี ผักบุ้ง คะน้า ตำลึง มะระ สาหร่าย หน่อไม้ฝรั่ง เป็นต้น และผลไม้สีส้ม สีแดง ผลไม้สุกสีเหลือง ได้แก่ ส้ม บีทรูท แครอท ฟักทอง ข้าวโพดอ่อน แตงโม แคนตาลูป มะละกอสุก เป็นต้น

ปรนนิบัติผิวดวงตาเสียแต่เนิ่น ๆ

เมื่อแววตาใสปิ๊งแล้ว ผิวพรรณรอบดวงตาก็ต้องดูแลด้วยเช่นกันนะคะ ควรเลือกใช้ Eye Cream หรือครีมบำรุงให้เหมาะกับผิว ทั้งนี้ข้อแนะนำในการเลือกใช้อายครีมแบบง่าย ๆ มีดังนี้ค่ะ

1. เช็คสภาพผิวว่าต้องการบำรุงในลักษณะใด เช่น บางคนผิวรอบดวงตาแห้ง บางคนผิวรอบดวงตามัน บางคนใต้ตาคล้ำ แล้วเลือกอายครีมให้เหมาะกับสภาพผิว เพราะอายครีมมีหลากหลายยี่ห้อและประเภทให้เลือก แน่นอนทีเดียวว่า ราคาย่อมต่างกัน ควรคำนึงถึงผลลัพธ์เป็นสำคัญ ดังนั้นควรชั่งใจให้ดีก่อนจะซื้ออายครีมแพง ๆ ที่ไม่ได้เหมาะกับสภาพผิวของเรา

2.ควรเลือกอายครีมที่ไม่ผสมน้ำหอม (Fragrance-free) และควรเลือกให้มีค่า pH ใกล้เคียงกับน้ำตา

beauty_2Relax your eyes บริหารดวงตาง่าย ๆ ภายใน 2 นาที

พักดวงตาบ้างนะคะ ยิ่งคุณนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์นานเท่าไหร่ ดวงตาของคุณก็ยิ่งทำงานหนักมากเท่านั้น ในแต่ละวันขอให้คุณปล่อยวางลงสัก 2 นาที เรามี 7 วิธีบริหารดวงตาแบบไม่ลับมาฝาก ซึ่งทำได้ง่ายมากและคุณก็ทำได้เดี๋ยวนี้เลย ใช้เวลาแค่ 2 นาทีเท่านั้น

Step 1 ให้คุณปรับเปลี่ยนท่านั่งอยู่ในท่าที่สบาย ยกฝ่ามือขึ้นปิดตา (แต่ห้ามออกแรงกดตรงลูกตานะ) จากนั้นให้คุณมองความมืดนั้นอยู่ราว 30 วินาที พร้อมกับหายใจเข้าออกเป็นจังหวะ

Step 2 ต่อมาในท่าเดิมนั้น เปลี่ยนมานั่งมองขึ้นไปข้างบนค้างไว้ราว 5 วินาที แล้วเปลี่ยนมามองลงข้างล่างค้างราว 5 วินาทีเช่นกัน ทำซ้ำประมาณ 5 รอบ

Step 3 ทีนี้เปลี่ยนเป็นมองไปทางขวาราว 5 วินาที แล้วเปลี่ยนมองไปทางซ้ายราว 5 วินาที แล้วทำซ้ำแบบนี้ประมาณ 5 รอบ

Step 4 ต่อมาให้คุณหลับตาให้สนิทราว 5 วินาที แล้วลืมตาให้กว้างที่สุดราว 5 วินาทีเช่นกัน ทำซ้ำแบบนี้ประมาณ 5 รอบ

Step 5 ต่อมาหันไปทางซ้ายกรอกลูกตาไปมาราว 5 วินาที และหันไปทางขวา กรอกลูกตาไปมาราว 5 วินาที

Step 6 ให้คุณใช้สายตาเพ่งไปที่ปลายจมูกของคุณค้างไว้ราว 3 วินาที จากนั้นมองขึ้นไปยังเพดานโดยห้ามเงยศีรษะตามไปด้วย ทำค้างไว้ราว 3 วินาที และทำซ้ำประมาณ 5 รอบ

Step 7 ลองหาอะไรก็ได้ที่อยู่ใกล้ตัวคุณ ยกตัวอย่างเช่นขวดน้ำที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ เป็นต้น แล้วลองมองนานราว 2 วินาที จากนั้นให้มองออกไปนอกหน้าต่างราว 2 วินาทีเช่นกัน ทำซ้ำเช่นนี้ประมาณ 10 ครั้ง

นวดกดจุด...พร้อมบำรุงด้วยอายครีม

เทคนิคการนวดกดจุดเหล่านี้สามารถทำได้พร้อมกับการทาอายครีม เพื่อให้ครีมซึมเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้น และเป็นการผ่อนคลายกล้ามเนื้อบริเวณรอบดวงตาไปพร้อมกันด้วย หรือจะทำช่วงก่อนนอนก็ช่วยผ่อนคลายดวงตาให้หลับสบายได้อีกด้วยค่ะ

วิธีที่ 1 ใช้นิ้วกลางนวดกดบริเวณเบ้าตา (อาจเริ่มนวดจากหัวตาด้านใน) นวดลักษณะวนออก โดยนวดวนขึ้นไป ให้สิ้นสุดตรงสันจมูก และทำซ้ำ 8 ครั้ง

วิธีที่ 2 วิธีนี้คล้ายกับการเล่นเปียโน โดยใช้ปลายนิ้ว 3 นิ้วสลับแตะเบาๆ ไปให้ทั่วบริเวณรอบดวงตา

วิธีที่ 3 ใช้นิ้วกลางเริ่มต้นกดจุดที่แนวกระดูกตรงโคนคิ้วด้านใน นับในใจถึงเลข 3 แล้วเลื่อนนิ้วมาอยู่ตรงปลายคิ้ว กดจุดไปทั่วรอบดวงตา โดยวนให้กลับไปยังที่จุดเดิม นับในใจถึงเลข 6 ทำแบบนี้ซ้ำ 3 ครั้ง จากนั้นเลื่อนมานวดเปลือกตา นวดให้เบามือที่สุด เรื่อยไปจนถึงบริเวณขมับเป็นอันเสร็จ

ผิวสะอาด อีกหนึ่งเคล็ดลับที่ลืมไม่ได้

สำหรับสาว ๆ ที่ชอบแต่งตา อย่าลืมล้างเครื่องสำอางให้สะอาดหมดจดอยู่เสมอ เพราะหากปล่อยให้เครื่องสำอางตกค้างที่ผิว จะทำให้ผิวรอบดวงตาเกิดริ้วรอยได้เร็วขึ้น เรามีวิธีดี ๆ เกี่ยวกับการล้างเครื่องสำอางรอบดวงตามาฝากค่ะ

1.สิ่งที่ต้องเตรียม สำลี (จะกลมหรือจะแผ่นไม่ว่ากัน) และ Eye Remover หรือ Baby Oil ก็ได้ ส่วน Make up Remover บางยี่ห้ออาจไม่มีคุณสมบัติล้างมาสคาร่าได้ดีนัก แต่บางยี่ห้ออาจเช็ดได้หมดทั้งดวงตา ริมฝีปาก และใบหน้า ดังนั้นเวลาเลือกผลิตภัณฑ์ดูให้ดีนะคะ

2.เช็คให้สะอาด

หยด Eye Remover หรือ Baby Oil ลงบนสำลี (หากล้างด้วย Baby Oil แนะนำว่าให้ใช้สำลีชุบน้ำเช็ดที่เปลือกตาก่อน เพื่อให้เช็ดออกง่ายยิ่งขึ้น) โดย Eye Remover ที่ดีควรเป็นแบบ Oil Free และ Non-alcohol แต่สำหรับ Baby Oil นั้นช่วยให้รอบดวงตาชุ่มชื้น

เริ่มเช็ดจากเปลือกตาก่อน โดยเช็ดจากหัวตาออกมาทางหางตาอย่างเบามือที่สุด

เมื่อจะเริ่มเช็ดมาสคาร่าให้เช็คในลักษณะรูดลงมาจากบนลงล่าง จากนั้นจึงยกเปลือกตาขึ้น แล้วใช้คอตตอนบัตเช็ดจากล่างขึ้นบนอย่างเบามือ อย่าเช็ดแรง ๆ นะคะ เพราะอาจทำให้ขนตาหลุดได้ ถ้าหากเช็ดแล้วไม่ออกขอให้เช็ดย้ำ ๆ ตรงจุดเดียวค่ะ

ข้อควรระวังคือ ผิวบริเวณรอบดวงตาเป็นจุดที่บอบบางมาก หากถูตาแรง ๆ อาจทำให้ผิวบริเวณรอบดวงตาเหี่ยวย่นมีริ้วรอยได้

การมีดวงตาสดใสอ่อนกว่าวัยไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแต่ควรดูแลให้สมดุลทั้งจากภายในและภายนอก และอย่าละเลยการพักผ่อนดวงตาคู่สวยของคุณด้วย สุขภาพใจก็สำคัญ ไม่ว่าจะมีเรื่องเครียด กังวลมากแค่ไหนก็ควรหยุดเรื่องเหล่านั้นไว้สักครู่ ไม่อย่างนั้น อาการเครียดที่เก็บไว้ในจิตใจจะแสดงออกมาทางสายตาแน่นอนค่ะ เพราะสุขภาพกายและสุขภาพใจล้วนสัมพันธ์กันหมด ดูแลครบรอบด้านอย่างนี้ ไม่เพียงแต่จะช่วยให้ดวงตาและใบหน้าแลดูอ่อนกว่าวัย ยังช่วยให้สุขภาพดวงตามีอายุการใช้งานยาวนานขึ้นอีกด้วย

ข้อมูลจาก

http://www.kapook.com