ดูแลผิวที่ต่างกันระหว่างหญิงและชาย (คู่หูเดินทาง)

ด้วยความแตกต่างของฮอร์โมน ส่งผลให้ผิวพรรณของหญิงและชายมีความแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเนียนเรียบความยืดหยุ่น กระชับตึง ฯลฯ

เพราะฮอร์โมนของผู้ชายจะมีผลอย่างชัดเจนกับผิว ทำให้ผิวของผู้ชายดูแข็งแรงกว่า ด้วยการผลิตคอลลาเจนจำนวนมาก เมื่อชั้นคอลลาเจนหนา ก็จะทำให้ชั้นผิวหนังแท้ ซึ่งอยู่ชั้นกลางของผิวหนังหนาและแข็งแรงไปด้วย รวมทั้งชั้นผิวหนังกำพร้าก็จะหนามากขึ้นเช่นกัน ผิวของผู้ชายจะมีน้ำมันมากกว่า เพราะฮอร์โมนเพศชายมีหน้าที่กระตุ้นการทำงานของต่อมไขมัน ซึ่งจะเริ่มทำงานเมื่อย่างเข้าสู่วัยหนุ่ม และเจ้าต่อมไขมันของผู้ชายนี้จะทำงานเต็มที่ไปจนกระทั่งช่วงอายุ 70 และ 80 ปีเลยทีเดียว ฮอร์โมนเพศชายจะอยู่ในระดับสูงตลอดช่วงชีวิตของผู้ชาย ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจ หากผิวของผู้ชายจะดูเหี่ยวย่น และร่วงโรยน้อยกว่าผู้หญิงในวัยเดียวกัน และส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะการโกนหนวด ถือเป็นอีกวิธีของการผลัดเซลล์ผิวเป็นประจำทุกวัน

ซึ่งการผลัดเซลล์ผิวติดต่อกันเป็นเวลาหลาย ๆ ปีเป็นวิธีการป้องกันความร่วงโรยอย่างหนึ่ง แต่ผิวของผู้ชายจะมีเหงื่อมากกว่า เพราะฮอร์โมนเพศชายมีผลต่อการทำงานของต่อมเหงื่อเช่นกัน รวมถึงผู้ชายจะมีขนตามใบหน้า และลำตัวมากกว่าผู้หญิง แต่จะมีผมบางกว่า เป็นเรื่องน่าสนใจที่ฮอร์โมนเพศชายมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทั้ง 2 อย่าง คือจะทำให้เส้นผมหยุดการเจริญเติบโต ทำให้ผมของผู้ชายส่วนใหญ่บางลง แต่จะกระตุ้นการเติบโตของเส้นขนตามใบหน้าและลำตัว ทำให้ผู้ชายทุกคนมีเส้นขนขึ้นหนาในบริเวณดังกล่าว

แต่ถ้าสาว ๆ คนไหนมีฮอร์โมนเพศชายมากกว่าปกติ ก็จะมีขนตามใบหน้าและลำตัวมากกว่าปกติเช่นกัน ดังนั้นการดูแลผิวของผู้ชาย ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตเพื่อผิวผู้ชายโดยเฉพาะ และจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรู้ ถึงสภาพผิวและความกังวลของผิวเพื่อจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เช่น ผลิตภัณฑ์ที่ควบคุมความมันส่วนเกิน ผลิตภัณฑ์ปลอบประโลมผิวหลังการโกนหนวด ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่มอบความสะอาดอย่างหมดจดล้ำลึก ในขณะที่สาว ๆ ควรเน้นเรื่องการเติมเต็มความชุ่มชื้น เป็นพิเศษเพื่อป้องกันผิวแห้งขาดน้ำ อันเป็นต้นตอของความร่วงโรย รวมถึงผลิตภัณฑ ์บำรุงที่ล้ำลึกถึงโครงสร้างผิวเพื่อผิวพรรณที่แข็งแรง แต่สิ่งที่ทั้งสาว ๆ และหนุ่ม ๆ ไม่ควรละเลยคือการปกป้องผิวจากแสงแดดเป็นประจำทุกวัน ป้องกันรังสียูวีตัวร้ายทำลายผิว

www.kapook.com