ตั้งค่าใหม่ ให้รักใสปิ๊ง (Men's Health)

เรื่อง Men’s Health UK แปลเรียบเรียง กานต์รวี ทองพูล

เปิดอกรับศาสตร์แห่งการสร้างภาพเสมือนในจิตสำนึก (Psycho-Cybernetics) เพื่อตั้งโปรแกรมประมวลผลใหม่ให้ซอฟต์แวร์สมองของสาวข้างกาย

1. ลบแรงหึง

เธอคิด : “แอบไปก้อร่อก้อติกกับสาวเอ๊าะ ๆ สวยเด้งล่ะสิ รู้หรอกน่า”

ตั้งโปรแกรมใหม่ : ความหึงหวงก็เหมือนนิสัยไม่ดีอื่น ๆ ตรงที่มีแต่จะแย่กว่าเดิม แต่คุณสามารถทำลายให้หมดไปได้ ด้วยการใช้ทฤษฎีสร้างภาพเสมือนในจิตสำนึกที่สร้างสรรค์โดยนักคิดอเมริกาขั้นเทพ ดร.แมกเวลล์ มอลต์ซ สิ่งที่คุณต้องทำก็เพียงระดมใส่ข้อมูลมุมมองอันหลากหลากให้สมองเธอ เป็นการเปิดเส้นทางประสาทใหม่ ๆ ผลการสำรวจของ AOL Living ล่าสุดระบุว่า 53 เปอร์เซ็นต์ของผู้หญิงสารภาพว่าแอบเช็คอีเมลและข้อความของแฟนหนุ่มเสมอ ๆ

แมทธิว ฮัสซีย์ ผู้เชี่ยวชาญเทคนิคสร้างภาพเสมือนจริงในจิตสำนักและผู้ฝึกสอนความสัมพันธ์ แนะว่า “ความเงียบของคุณนั่นแหละครับที่ทำให้เธอปริวิตกลองหันมาใช้เทคนิค “ให้เจอจนล้น” เริ่มด้วยการพูดถึงผู้หญิงในชีวิตคุณให้มากขึ้น จินตนาการว่าคุณคุยกับเธอเหมือนตอนคุยกับเพื่อนผู้ชายทั่วไป รักษาโทนเสียงให้ปกติ ไม่มีการเอนเอียงและได้ปลื้ม”

การใช้เทคนิคนี้บ่อย ๆ เป็นการกล่อมจิตได้สำนึกเธอว่าทัศนคติของคุณที่มีต่อหญิงอื่นเป็นเรื่องมิตรภาพล้วน ๆ ขณะที่เธอเป็นคนเดียวที่คุณปรารถนาเพราะแรงเสน่หา

2. เป็นปี่เป็นขลุ่ยกับเพื่อนฝูง

เธอคิด : “เพื่อน ๆ นี่แหละตัวดีนักเชียว”

ตั้งโปรแกรมใหม่ : มาร์ค เวอร์นอน ผู้เขียนหนังสือ The Meeting of Friendship อธิบายว่า “ไม่ใช่เพื่อน ๆ หรอกครับที่เธอไม่ชอบ แต่เป็นสารพัดเรื่องที่คุณหายไปก่อกันมาต่างหาก เธออิจฉาที่คุณหายไปสนุกสนานโดยไม่มีเธอไปด้วย” เพราะฉะนั้น ให้ถ่ายภาพใส่มือถือให้เธอดู พร้อมคำบรรยายสั้น ๆ เวอร์นอนย้ำว่า “การได้รับรู้สิ่งที่คุณทำผ่านภาพถ่าย ทำให้เธอหมดความสนใจไปในที่สุด” แถมเธอยังได้เห็นคุณค่าด้านที่อ่อนโยนของความเป็นชายที่คุณแสดงออกมาด้วย

การพาเธอไปร่วมสังสรรค์กับหนุ่ม ๆ เป็นการนำเสนอด้านของความขัดแย้งที่เธอไม่ชอบและจะถอนตัวออกมาโดยสัญชาตญาณ เวอร์นอนอธิบายว่า “การลบล้างความลึกลับซับซ้อนออกไปจากโลกของคุณ เป็นการล้างความต้องการที่จะมีส่วนร่วมของเธอไปด้วยเช่นกัน” ธรรมชาติหญิงจะทำให้เธอเชื่อว่าเป็นความคิดของเธอเองที่ปล่อยให้คุณไปไหนอย่างที่ต้องการ ไม่ช้าไม่นานคืนวันศุกร์ของคุณก็จะโล่งโปร่งตลอด

3. ทลายกำแพงกั้นเซ็กซ์

เธอคิด : “โกรธสุด ๆ แล้ว ไม่ต้องห่วงเอาคืนได้แน่”

ตั้งโปรแกรมใหม่ : เวลาที่ผู้หญิงเรียนรู้ถึงผลของการปล่อยให้คุณอดเซ็กซ์ เธออาจนำมาใช้เป็นเครื่องมือแก้เผ็ดคุณจนกลายเป็นนิสัยได้โดยไม่ยาก ข่าวดีก็คือ คุณสามารถใช้เทคนิคสร้างภาพเสมือนในจิตสำนึก เพื่อปรับสมองเธอเสียใหม่ และเริ่มต้นชีวิตรักที่แจ่มใสไปอีกนาน ฮัสซีย์แนะว่า “เธอกำลังใช้วิธีอย่างที่ผู้ใหญ่ลงโทษเด็ก กุญแจคืออย่าต่อกรด้วยการอาละวาดงอแงเด็ดขาด เพราะการลงโทษที่ไม่ส่งผล ถือเป็นการลงโทษที่ไม่มีพลานุภาพ”

ฮัสซีย์เสริมว่า “ทางที่ดีคุณควรให้บทเรียนเธอ ด้วยการลูบไล้เส้นผมและสัมผัสบริเวณหลังเข่า” การกระตุ้นหนังศีรษะจะช่วยกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนเอนดอร์ฟินที่ช่วยระงับความโกรธและทำให้รู้สึกดีขึ้นได้ ส่วนผิวหนังบริเวณหลังหัวเข่านั้น บางและเต็มไปด้วยปลายประสาท การสัมผัสจึงเป็นการยั่วยวน แต่ไม่เติมเต็มความปรารถนาของเธอ เท่ากับเป็นการปล่อยให้เธอต้องการคุณมากขึ้น

ฮัสซีย์ย้ำว่า “เราถูกสร้างมาให้ปรารถนาสิ่งยังไม่ได้ครอบครองครับ การกระตุ้นเตือนเธอว่าอะไรขาดหายไป และกั๊กไว้ทำให้เธออัดอั้นและสร้างแรงกดดันความปรารถนาทางเพศที่แท้จริง” อยู่เฉย ๆ สัก 3 วันก่อนจะทลายกำแพง ไม่ช้าไม่นานคุณก็ได้บัตรผ่านทางกลับคืนเหมือนเดิมแล้ว

4. รับมือกับความผิดพลาด

เธอคิด : “ถ้าต้องให้ถามอีกรอบล่ะก็...”

ตั้งโปรแกรมใหม่ : ผลสแกน MRI โดยคณะแพทยศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยอินดีแอนาระบุว่า ขณะที่ผู้หญิงใช้สมองทั้งสองซีกในการรับฟัง ผู้ชายจะใช้เพียงสมองซีกซ้ายเท่านั้น ประเด็นคือ เธอเป็นผู้ฟังที่ดี และคาดหวังให้คุณเป็นเช่นนั้นด้วย พอลลา ฮอลล์ นักจิตวิทยาด้านเพศสัมพันธ์และความสัมพันธ์ อธิบายว่า “ผู้หญิงมีพัฒนาการทางอารมณ์ที่ดีกว่า แน่นอนว่าเธอย่อมมีสัญชาตญาณที่ต้องการให้คนอื่นรับฟังเธอเช่นกัน

การกระเง้ากระงอดเป็นอาการที่บอกให้รู้ยามเธอเห็นว่า ความต้องการดังกล่าวไม่ได้รับการตอบสนอง” เลิกใช้กลยุทธ์ไม่สนใจอะไรเลย และหันมาต่อสายถ่ายการตอบรับเชิงบวกเข้าศีรษะเธอแทน ฮอลล์บอกว่า “เวลาที่ฟัง ผู้หญิงจะเลิกคิ้ว เอนตัวมาข้างหน้าและพยักหน้ารับเพื่อแสดงการเปิดรับ เลียนแบบพฤติกรรมเหล่านั้น และบอกไปตามตรงว่าคุณสามารถทำตามที่เธอขอร้องได้หรือไม่” แม้จะเป็นคำตอบปฏิเสธ แต่การแสดงความสนใจอย่างจริงจัง เท่ากับว่าคุณได้ให้สิ่งที่เธอต้องการจริง ๆ นั่นคือ ความใส่ใจ

5. มีชัยเหนือความต้องการที่เกินพอ

เธอคิด : “มัวทำอะไรอยู่ไหนเนี่ย ทำไมไม่รู้จักโทรหา”

ตั้งโปรแกรมใหม่ : การติดกันแจเป็นพฤติกรรมขึ้นบัญชีดำของผู้ชายทุกคน ริชาร์ด ลา รุยนา ผู้เขียน The Natural Art of Seduction แนะให้ “ดัดนิสัยเกาะกันแจเป็นลูกแมวของเธอ ด้วยหลักจิตวิทยาย้อนกลับโดยการชื่นชมเธอด้วยอุปนิสัยที่คุณอยากให้เธอมี และเธอจะเป็นเช่นนั้นอย่างไม่รู้ตัว”

เล่าถึงแฟนเพื่อนที่ชอบเกาะเป็นปลิงให้เธอฟัง พลางชื่นชมลักษณะนิสัยสบาย ๆ แบบไม่ติดหนีบของเธอ “ธรรมชาติมนุษย์นั้นต้องการการยอมรับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการยอมรับในความสัมพันธ์ เธอจะเป็นปลื้มกับคำชมของคุณและเริ่มเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น คิดเสียว่าเป็นการโล๊ะเสื้อผ้าที่เข้ารูปรัดรึงของเธอด้วยเสื้อผ้าล็อตใหม่เอี่ยม” และนี่เป็นโอกาสอันดีที่ “เสื้อผ้า” รัดรูปของเธอจะถูกตัดสินว่าไม่ได้เรื่องเสียที