รวบหนุ่มไต้หวันพร้อมซากทารก 6 ศพ ถูกทำพิธีปลุกเสกเป็นกุมารทอง เตรียมส่งขายต่างประเทศตัวละ 2 แสน เจ้าตัวอ้างมีอาชีพขายเครื่องรางของขลังที่ไทเป

พ.ต.อ.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผู้กำกับการกองสวัสดิภาพเด็กและสตรี (ผกก.ดส.) แถลงข่าวการจับกุมนายโจว ฮอง ฮุน อายุ 28 ปี สัญชาติไต้หวัน พร้อมของกลางซากทารก 6 ศพ กระเป๋าเดินทางสีดำ 1 ใบ โดยตั้งข้อกล่าวหาว่าลักลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ หรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการเกิดการตาย หรือเหตุแห่งการตาย ตามมาตรา 199 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

พ.ต.อ.วิวัฒน์กล่าวว่า ได้รับร้องเรียนว่ามีการนำศพทารกมาทำกุมารทอง เสนอขายผ่านเว็บไซต์ของต่างประเทศว่าเป็นกุมารทองที่ทำพิธีในประเทศไทย จึงสืบสวน ประกอบกับรับแจ้งจากประชาชนว่ามีชายชาวต่างชาติมีพฤติการณ์รับซื้อศพทารก นำกำลังเข้าตรวจสอบภายในห้อง 301 พบนายโจว ฮอง ฮุน มาเปิดห้องพัก ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง

จากการสอบสวน ผู้ต้องหารับว่า เปิดห้องพักไว้อีกห้องที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ย่านถนนเยาวราช แขวง-เขตสัมพันธวงศ์ กทม. เมื่อเข้าตรวจค้นภายในห้องที่ 613 โรงแรมดังกล่าว พบซากศพทารก 6 ศพ มีการลงอักขระ มัดสายสิญจน์ บรรจุกล่อง ใส่ไว้ในกระเป๋าเดินทางสีดำอยู่ในตู้เสื้อผ้าของโรงแรม

พ.ต.อ.วิวัฒน์กล่าวอีกว่า ผู้ต้องหารับสารภาพอาชีพขายเครื่องรางของขลังอยู่ที่กรุงไทเป ไต้หวัน และอ้างว่ามีเพื่อนแซ่เฉิน ชาวไต้หวัน เป็นผู้ซื้อแล้วให้ไปส่งมอบกับอีกคนจะเดินทางมารับ แต่ละครั้งได้รับค่าจ้าง20,000 เหรียญไต้หวัน ทุกครั้งจะไปรับของตามสวนสาธารณะ จะมีคนโทรศัพท์มาบอกให้ไปหยิบ แต่ไม่เคยรู้จักกับคนที่มาส่งของรับของ ครั้งนี้รอผู้มารับของนาน 17 วันแล้ว ตั้งแต่ได้ของมา

อย่างไรก็ตาม ชุดจับกุมยังไม่เชื่อคำให้การของผู้ต้องหาทั้งหมด และจากการตรวจสอบกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) พบว่าผู้ต้องหาเดินทางเข้ามาประเทศไทยเมื่อปี 2550-2555 รวม 16 ครั้ง เพื่อตระเวนซื้อของที่ประเทศกัมพูชา ลาว และไทย

"สำหรับสภาพซากทารกแต่ละศพ มีอายุครรภ์ราว 2-8 เดือน มีการย่างให้แห้งและลงอักขระ อาคม ที่แขน-ขา-นิ้ว-ศีรษะ จากนั้นจะนำไปเลี้ยงดู บูชา เพื่อให้เกิดโชคลาภมีเงิน-ทอง หากเป็นผู้ชายจะเรียกว่ากุมารทอง ผู้หญิงจะเรียกโหงพราย" ผกก.ดส.กล่าว

รายงานข่าวจากการสืบสวนทราบว่า ซากทารกของกลางทั้งหมด 6 ศพ นายโจว ฮอง ฮุน ซื้อมาจากนายกุนยิเชน ชาวไต้หวัน ในราคา 200,000 บาท เมื่อประมาณ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อนำกลับไปขายยังประเทศไต้หวันในราคาตัวละ 180,000-200,000 บาท ขึ้นอยู่กับสภาพความสมบูรณ์ของซากทารก เพื่อนำไปบูชาโดยเชื่อกันว่าหากบูชาแล้วจะร่ำรวยเงินทองทำการค้าเจริญรุ่งเรืองซึ่งเป็นที่นิยมในต่างประเทศ โดยจะใส่กล่องโหลดลงเครื่องบินไปยังปลายทาง นอกจากนี้ การตรวจสอบข้อมูลนายโจว ฮอง ฮุน ยังพบว่าประกาศขายซากทารกในเว็บไซต์โดยการโฆษณาชวนเชื่อว่า สามารถทำให้ประสบความสำเร็จในด้านการค้าขาย และด้านมหาเสน่ห์ทำให้มีคนหลงเชื่อเป็นจำนวนมาก