หลังจากเคยได้ยินข่าวว่าการฉีดโบท็อกซ์นั้น สามารถบำบัดอาการปวดหัวเรื้อรังจากโรคไมเกรน ได้แล้ว ตอนนี้ด้วยการทำงานของสาร โบทูลินั่ม นิวโรท็อกซิน (botulinum neurotoxin) ในโบท็อกซ์ที่ฉีดเข้าไปบริเวณหว่างคิ้วนั้น ยังส่งผลให้ผู้ป่วยโรคซึมเศร้าเรื้อรังมีอาการดีขึ้นได้ด้วย

จากการรายงานผลการวิจัยของด็อกเตอร์ทิลมันน์ ครูเกอร์ นายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตเวชชาวเยอรมัน ในการประชุมด้านจิตเวชศาสตร์ ครั้งที่ 20 ของ ยูโรเปี้ยน คองเกรส เมื่อเดือนมีนาคม 2012 ที่ผ่านมา ระบุว่า สารโบทูลินั่ม นิวโรท็อกซิน ในโบท็อกซ์ที่ฉีดกันเพื่อความงาม เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นนั้น สามารถลดความเครียดในผู้ป่วยที่มีอาการซึมเศร้าเรื้อรังได้เป็นอย่างดี

การทดลองได้ทำขึ้นกับอาสาสมัครจำนวน 30 คน อายุระหว่าง 25-65 ปี ที่มีภาวะของโรคซึมเศร้า แบ่งออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรกได้ฉีดโบท็อกซ์เข้าที่กล้ามเนื้อตรงหว่างคิ้ว ส่วนอีกกลุ่มเป็นการฉีดยาหลอกให้ผ่านไป 6 สัปดาห์ อาสาสมัครทุกรายจึงมารายงานผลและเข้ารับการทดสอบระดับความเครียด พบว่า 80% ของกลุ่มที่รับการฉีดโบท็อกซ์มีอาการที่ดีขึ้นจริง ๆ โดยบอกว่ารู้สึกดีกับตัวเองและผ่อนคลายมากขึ้น ในขณะที่กลุ่มได้รับการฉีดยาหลอกนั้น มีเพียง 20% เท่านั้น ที่ระบุว่าตนเองมีอาการดีขึ้น

เหตุผลที่อยู่หลังอาการที่ดีขึ้นนี้ ด็อกเตอร์ทิลมันน์อธิบายว่า มันเป็นทฤษฎีง่าย ๆ และเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า หน้านิ่วคิ้วขมวด หรือการย่นคิ้วนั้น เป็นการแสดงออกถึงอารมณ์ที่โกรธหรือหดหู่ และเมื่อเห็นหน้าตาตัวเองเป็นเช่นนั้น ก็จะยิ่งตอกย้ำให้เกิดอารมณ์ดังกล่าวมากขึ้นไปอีก ส่งผลต่อจิตใจให้รู้สึกเครียดและซึมเศร้า ในทางกลับกัน หากเห็นว่าใบหน้าของตัวเองไม่มีร่องรอยของความขึ้งเครียดใด ๆ ก็จะรู้สึกดีกับตัวเองในขณะนั้นเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว

อย่างไรก็ตาม การทำงานของโบท็อกซ์ในด้านการบำบัดอาการซึมเศร้านี้ เกี่ยวข้องกับกลไกการรับรู้ของสมองและจิตใจ มากกว่าที่จะอาศัยผลข้างเคียงในการออกฤทธิ์ลดการทำงานของกล้ามเนื้อ เพื่อบรรเทาอาการปวดหัวในผู้ที่เป็นไมเกรน และแม้นี่จะไม่ใช่ความรู้ใหม่เกี่ยวกับกลไกการทำงานของจิตใจ แต่ก็เป็นผลข้างเคียงในทางดีที่จะได้รับจากฉีดโบท็อกซ์ ที่สาว ๆ ผู้สนใจในเรื่องศัลยกรรมน่าจะเก็บเป็นเกร็ดความรู้กันเอาไว้นะคะ ^^

ข้อมูลจาก

www.kapook.com